แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 50 เรื่องที่สอง(2)
บทที่ 50 เรื่องที่สอง(2)
จนกระทั่งจินโจงรุ่นมองเห็นจินเพ่ยอวิ๋นซื้อยันต์มา โรคที่รักษาไม่หายของภรรยาเขาก็รักษาให้หายได้โดยง่ายดาย เขาจึงมีความหวังขึ้นมาใหม่ นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถูกใจเฉินโม่มากๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีเรื่องที่จะขอร้องเฉินโม่ ถึงแม้ยันต์ไม่เป็นสองรองใครของเฉินโม่ ทักษะเหนือใคร เขาตระกูลจิน ด้วยมาดเกรงขามของตัวเอง จะถ่อมตนต่อเฉินโม่ได้ขนาดนี้ได้ยังไง?
จินโจงรุ่นดีใจมาก ใบหน้านิ่งๆที่ไม่แสดงความรู้สึก ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น: “เฉินไต้ซือ ถ้าคุณสามารถรักษาอาการป่วยฉันให้หายได้ ฉันไม่คืนคำอย่างเด็ดขาด ยินดีที่จะใช้ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลจินให้เป็นของขวัญ!”
แต่ว่า จินเพ่ยอวิ๋นที่อยู่ข้างๆกลับสงสัย และรีบปรามไว้: “คุณปู่ ท่านอย่าเพิ่งตื่นเต้นไปก่อน อาการป่วยของท่านได้ไปพบแพทย์จีนและตะวันตกที่มีชื่อเสียง ก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ เขาไม่แม้แต่จะถามอาการป่วยเลย แค่มองก็บอกว่ารักษาได้งั้นเหรอ?”
“นี่ก็ประมาทเกินไปแล้วมั้ง!” ประโยคสุดท้าย จินเพ่ยอวิ๋นมองไปที่เฉินโม่และพูด เจตนาในความสงสัยนั้นชัดเจนมากๆ
นี่ก็ไม่โทษจินเพ่ยอวิ๋นที่สงสัยเฉินโม่ ลองนึกภาพอาการป่วยของจินโจงรุ่น รบกวนตระกูลจินมานานหลายสิบปีแล้ว เฉินโม่ไม่ถามสาเหตุของโรค ไม่ถามพยาธิวิทยา เพียงแค่มองจินโจงรุ่นชกเพียงครั้งเดียว ก็บอกว่าอาการป่วยของคุณฉันรักษาได้ นี่มันจะต่างอะไร จากนักต้มตุ๋นล่ะ?
ได้ยินจินเพ่ยอวิ๋นพูด จินโจงรุ่นก็ลังเลเล็กน้อย จู่ ๆ ก็ได้ยินว่าอาการป่วยของเขามีหวังที่จะรักษาให้หายได้ ตื่นเต้นเกินไป ถึงขนาดที่ว่ายุ่งเหยิงไปหมด
แต่ว่า จินโจงรุ่นกลับไม่ถามคำถามแต่อย่างใด เขาเพียงแค่มองไปที่เฉินโม่ด้วยความคาดหวัง หวังว่าเขาจะอธิบายออกมา
เฉินโม่ถูกซักถามข้อสงสัย แต่ก็ไม่ได้โกรธ วิธีของโลกบำเพ็ญเซียน มนุษย์ธรรมดาจะเข้าใจได้เหรอ?
เฉินโม่มองจินเพ่ยอวิ๋น พูดเบาๆว่า: “อาการป่วยของเขา ที่จริงก็ไม่ใช่อาการป่วยหรอก เป็นเพราะวิธีการฝึกฝนไม่สมบูรณ์แบบ ทั้งร่างกายมีความทุกข์ใจหดหู่อัดอั้น สะสมมาตลอดปี ก็เลยกลายเป็นโรค บวกกับได้รับบาดเจ็บภายในเมื่อเขาอายุยังน้อย ไม่เคยได้พักฟื้น เจ็บป่วยมากขึ้น ก็เลยก่อให้เกิดผลอย่างวันนี้ยังไงล่ะ”
เมื่อพูดจบ จินโจงรุ่นก็ชื่นชมอย่างมาก เขาเคยต่อสู้ในสงครามเมื่ออายุยังน้อย พบเจอการลอบสังหารของนินจายิกปุ้งสองสามคน แม้ว่าเขาจะฆ่าศัตรูได้หมด แต่ตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บภายในไม่น้อย จนกระทั่งถึงตอนนี้ ก็ไม่ได้หายดี
อีกอย่าง จินโจงรุ่นได้รับการฝึกพลังของนักฝึกวิชาบู๊เมื่ออายุยังน้อย มีข้อบกพร่องร้ายแรง แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการเข้าสู่แดนในชั้นสมบูรณ์ แต่ก็ยังทิ้งภัยแอบแฝงที่ซ่อนอยู่ในร่างกายไว้มากมาย
ดังนั้น นี่เป็นเหตุผลที่เขาไม่ถ่ายทอด การฝึกพลังให้ลูกหลานของตระกูลจิน ด้วยเหตุนี้ ลูกชายหลายคนจึงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก คิดว่าเขาเก็บของดีเอาไว้เอง
เรื่องเหล่านี้ จินโจงรุ่นก็เคยพูดกับจินเพ่ยอวิ๋นเช่นกัน ดังนั้นจินเพ่ยอวิ๋นในตอนนี้ ก็มองเฉินโม่ด้วยความตกตะลึง ในใจเป็นดั่งคลื่นที่โหมซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง
เฉินโม่เพิกเฉยต่อความรู้สึกของทั้งสองคน หลังจากหยุดชั่วครู่ เขาก็พูดต่อ: “ทุกครั้งที่คุณฝึกฝน ระหว่างจุกเสินจู้ไปถึงจุดเทียนซี รู้สึกว่าเลือดไหลเวียนไม่ดีใช่ไหม? ทุกครั้งเวลาล้มป่วย โดยเฉพาะสองจุดนี้จะเป็นจุดที่เจ็บที่สุดใช่ไหม?”
จินโจงรุ่นพยักหน้าด้วยความตะลึง เหมือนเด็กที่อยู่ต่อหน้าอาจารย์ เชื่อฟังคำสอน
จินเพ่ยอวิ๋นไม่รู้จักนักบู๊ ฟังอย่างสับสน แต่เห็นท่าทีของปู่ตัวเอง เธอเข้าใจ ที่เฉินโม่พูดเป็นความจริง
” ความหดหู่ที่มีอยู่ในตอนนี้ สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาเสริมจิต แต่หากอยากรักษา คุณจะต้องละทิ้งการเป็นนักฝึกวิชาบู๊ ไม่เช่นนั้นต่อไปก็จะเริ่มมีอาการอีก คุณเต็มใจไหม?” เฉินโม่มองไปที่จินโจงรุ่น และพูดน้ำเสียงนิ่งๆ
แต่ว่า ตอนที่จินโจงรุ่นได้ยิน ก็ราวกับสายฟ้าฟาดจากบนฟ้า
ละทิ้งการเป็นนักฝึกวิชาบู๊เหรอ? พูดง่ายแต่ทำยากนะ!
ตระกูลจินสามารถมีสถานะแบบวันนี้ได้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะจินโจงรุ่นต่อสู้มาตลอดในตอนนั้น ล้วนแล้วพึ่งพาศิลปะการต่อสู้ทั้งหมด ถึงได้มีโอกาสแสดงความสามารถให้เอาชีวิตรอดจากห่ากระสุนได้ วันนี้ให้เขาละทิ้งการเป็นนักฝึกวิชาบู๊ นี่มันยากเสียยิ่งกว่าการเอาชีวิตเขาไปเสียอีกนะ!
แต่ว่า ทุกครั้งที่คิดถึงความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่ทรมานเจียนตาย นายพลเก่าที่แม้ถูกกระสุนยิงทั้งตัวก็ไม่กลัว ปกติไม่เป็นไร แต่เมื่อนึกถึงก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
คุณท่านจิน ทรมานจนทนไม่ได้แล้วจริงๆ
บทที่ 49 เรื่องที่สอง(1)
บทที่ 51 โลกของนักบู๊(1)