แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 506
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 506
หลังจากวันนี้เป็นต้นไป เฉินโม่และพวกเขาอยู่กันคนละโลก
พวกเขาอยู่ในมหาวิทยาลัย ตั้งใจเรียนหนังสือเพื่อสร้างรากฐานที่ดีสำหรับอนาคตของตนเอง แต่เฉินโม่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของฮ่านหยางมานานแล้ว และอยู่เหนือทุกคนในหัวเซี่ย
เจิ้งหยวนฮ่าวมองหลังที่ไม่แยแสของเฉินโม่ เขากำหมัดทั้งสองแน่นจนเล็บแหลมคมทิ่มเข้าไปในเนื้อ แต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ
“เฉินโม่ หรือว่าตอนนี้ฉันไม่มีคุณสมบัติพอที่จะให้คุณมองแม้แต่แวบเดียวเลยเหรอ?”
อานเข่อเยว่กัดริมฝีปากตนเอง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยอม เธอเก่งเรื่องการวางแผนมาโดยตลอด แต่สุดท้ายเธอค้นพบว่าคนที่เธอตัดออกไปนานแล้ว กลับเป็นคนที่มีศักยภาพมากที่สุด
เขาไม่ได้เป็นคนธรรมดาทั่วไป ถ้าเขามีโอกาสเขาก็จะสามารถยิ่งใหญ่ได้
ตอนนี้เฉินโม่กลายเป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่นเหนือผู้คน และยืนอยู่บนจุดสูงสุดของฮ่านหยาง เดิมทีเธอสามารถมีความรุ่งโรจน์ทั้งหมดนี้ได้ แต่น่าเสียดายที่เธอทำลายมันกับมือ
ชั่วพริบตา เฉินโม่ก็เดินมาถึงโต๊ะของจินตัวเหวินแล้ว
คนที่อยู่ที่นี่ ท่านสามจินมีสถานะสูงสุด แต่เมื่อเขาเห็นเฉินโม่กำลังเดินเข้ามา จินตัวเหวินไม่กล้าละเลย เขารีบลุกขึ้น ประสานมือทั้งสองข้างและคำนับเฉินโม่ “เฉินไต้ซือ!”
เฉินโม่พยักหน้าและยิ้มบาง ๆ “ช่วงนี้คุณท่านจินซึ่งเป็นยังไงบ้าง?”
ใบหน้าของจินตัวเหวินเต็มไปด้วยความสุขและเขาตอบว่า “โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากเฉินไต้ซือ ตอนนี้สุขภาพของคุณพ่อดีมาก สุขภาพจิตใจก็ดีกว่าเมื่อก่อนมาก!”
“ถ้ามีโอกาสช่วยถามสารทุกข์สุกดิบคุณท่านจินแทนผมด้วย” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ครับ!” จินตัวเหวินประสานมือทั้งสองข้างและคำนับ
“จริงสิ เฉินไต้ซือ คนนี้คือหลานชายของผม ชื่อกงซุนหลีเป็นคุณชายของตระกูลกงซุนในมณฑลซีไห่!” จินตัวเหวินชี้กงซุนหลีที่อยู่ข้าง ๆ และกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เฉินโม่มองกงซุนหลีด้วยสายตาเย็นชา “ผมรู้ว่าเขาคือกงซุนหลี”
จินตัวเหวินตกตะลึงครู่หนึ่ง หัวเราะและกล่าวว่า “ที่แท้เฉินไต้ซือกับเสี่ยวหลีรู้จักกันมาก่อนแล้ว เยี่ยมมาก! เสี่ยวหลี ยังไม่รีบคารวะเฉินไต้ซืออีก?”
ไม่ต้องพูดถึงสีหน้าของกงซุนหลีนั้นน่าเกลียดเพียงใด เขาประสานมือทั้งสองข้างและคำนับเฉินโม่ด้วยรอยยิ้มเก้อเขิน “กงซุนหลี ขอคารวะเฉินไต้ซือ!”
เฉินโม่มองเขาด้วยสายตาเย็นชา “กงซุนหลี คุณยังจำเรื่องที่พูดกับผมก่อนหน้านี้ได้ไหม?”
กงซุนหลีตกใจและมีร่องรอยความตื่นตระหนกอยู่ในดวงตา แต่เขาไม่ตอบกลับ
ตอนนี้จินตัวเหวินสังเกตเห็นความผิดปกติ เขาหุบยิ้ม มองสำรวจเฉินโม่และกงซุนหลี ไม่ต้องถามเขาก็สามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เสี่ยวหลี แกได้ล่วงเกินเฉินไต้ซือใช่ไหม?” จินตัวเหวินถามด้วยน้ำเสียงจริงจังแล้วจ้องมองกงซุนหลี
ตอนนี้เฉินโม่อยู่ตรงหน้ากงซุนหลีแล้ว ถึงแม้ว่ากงซุนหลีอยากจะปกปิดแต่ก็ไม่สามารถทำได้แล้ว เขายิ้มด้วยความเก้อเขินแล้วกล่าวว่า “อาเขย ก่อนหน้านั้นผมไม่รู้จักเฉินไต้ซือ จึงได้ล่วงเกินเขา ผมจะขอโทษเฉินไต้ซือเดี๋ยวนี้เลย!”
ดวงตาของกงซุนหลีมีความหมองหม่น และกำลังจะโค้งคำนับเฉินโม่…..
เฉินโม่โบกมือให้หยุดและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่จำเป็น ผมบอกว่าจะหักขาทั้งคู่ของคุณ ถึงแม้ว่าคุณจะทำอะไรมันก็ไร้ประโยชน์”
จินตัวเหวินตกใจ เขารู้นิสัยของเฉินโม่เป็นอย่างดี เฉินโม่เป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น เขาจึงรีบโค้งคำนับและกล่าวว่า “เฉินไต้ซือ เสี่ยวหลีไม่รู้จักคุณ ดังนั้นเขาถึงได้ล่วงเกินคุณ โปรดยกโทษให้เขาสักครั้งเถอะ!”
กงซุนหลีรีบขอโทษเช่นกัน “ถูกต้อง เฉินไต้ซือ ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นเฉินไต้ซือ ผมล่วงเกินโดยไม่ตั้งใจ ขอให้เฉินไต้ซือเห็นแก่ตระกูลกงซุนและตระกูลจินแห่งฮ่านหยาง แล้วปล่อยผมสักครั้งเถอะ!”
ตระกูลกงซุนแห่งมณฑลซีไห่ ตระกูลจินแห่งฮ่านหยาง นอกจากตระกูลชั้นนำพวกนั้นของยานจิงแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ไม่มีใครกล้าที่จะไม่ให้เกียรติสองตระกูลใหญ่นี้
จินตัวเหวินและผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่ด้านข้างจ้องมองเฉินโม่ และแอบคิดอยู่ในใจ บางทีคราวนี้เฉินไต้ซืออาจจะให้เกียรติสองตระกูลใหญ่
กงซุนหลีก้มศีรษะลง ดวงตาประกายความเคร่งขรึม และแอบภาคภูมิใจ “ถึงแม้คุณจะเป็นเฉินไต้ซือแล้วไงล่ะ? คุณกล้าล่วงเกินสองตระกูลใหญ่อย่างตระกูลจินแห่งฮ่านหยาง และตระกูลกงซุนแห่งมณฑลซีไห่พร้อมกันเหรอ?”
แต่น่าเสียดายที่กงซุนหลีไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของมู่หรงยานเอ๋อร์ มิเช่นนั้นเขาจะไม่คิดเช่นนี้ ตระกูลโจวและตระกูลหยู่เหวินแห่งมณฑลเจียงหนาน ซึ่งสองตระกูลนี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตระกูลกงซุนของเขา แต่เฉินโม่บอกว่าฆ่าก็ฆ่าทันที แล้วเขาจะใส่ใจตระกูลกงซุนได้อย่างไร?
ถึงแม้ว่าตระกูลจินแห่งฮ่านหยางจะรู้ว่าเฉินโม่ฆ่ากงซุนหลี ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเฉินโม่หรือไม่ เพราะเฉินโม่มีบุญคุณใหญ่หลวงต่อตระกูลจิน