แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 511
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 511
มณฑลซีไห่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศหัวเซี่ย เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมโบราณ
ตระกูลเย่เป็นใหญ่ในซีไห่ ส่วนตระกูลที่มีความหวังว่าจะสามารถไล่ตามตระกูลเย่ได้ก็คือตระกูลกงซุน
ดังนั้นสามารถเห็นได้ว่าพลังอำนาจของตระกูลกงซุนในซีไห่นั้นไม่ธรรมดา
เมืองอู่อาน ณ ตระกูลกงซุน
เฉินโม่สวมชุดลำลองสีดำ เดินออกมาจากสถานีรถไฟความเร็วสูง ตอนนี้หนึ่งทุ่มกว่าแล้ว เฉินโม่ไปหาโรงแรมที่พัก
แต่ระหว่างทาง เฉินโม่พบเรื่องแปลก ๆ เพราะมีนักบู๊รวมตัวอยู่ที่นี่มากมาย!
ทว่า นักบู๊เหล่านี้ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ส่วนใหญ่เป็นนักบู๊แดนนอก แต่ก็มีนักบู๊แดนในด้วย แต่มีสัดส่วนเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น
นักบู๊เหล่านี้บางคนพักอยู่ในโรงแรมเดียวกับเฉินโม่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่ชาวเมืองอู่อาน
ตอนกลางคืน ขณะที่เฉินโม่กำลังฝึก เขาได้ปล่อยพลังจิตออกไป เพื่อไปสืบว่าทำไมนักบู๊พวกนี้ถึงได้มารวมตัวกันที่นี่
ปรากฏว่าพรุ่งนี้มีงานเลี้ยงที่หอตันกุ้ยของเมืองอู่อาน
โดยปกติแล้วนักบู๊ไม่สนใจงานเลี้ยงทั่วไป ซึ่งทำให้เฉินโม่รู้สึกว่างานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน
เฉินโม่จำเรื่องนี้เอาไว้ แล้วฝึกต่อไป
วันรุ่งขึ้น เฉินโม่ตามนักบู๊สองคนไปที่หอตันกุ้ย
หอตันกุ้ยเป็นหนึ่งในร้านขายยาจีนโบราณที่หายากของประเทศหัวเซี่ย หลังจากเฉินโม่เข้าไปแล้ว เขาก็เดินสำรวจรอบ ๆ และพบว่าวัตถุดิบยาที่จำหน่ายที่นี่ค่อนข้างครบ ซึ่งวัตถุดิบยาบางชนิดสามารถนำมาใช้ในการกลั่นยาพื้นฐานบางชนิดได้
งานเลี้ยงจัดขึ้นในห้องโถงบนชั้นสามของหอตันกุ้ย เฉินโม่เดินตามผู้คนเข้าไป
มีคนสองคนสวมสูทเฝ้าอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องโถงบนชั้นสาม ซึ่งทุกคนที่เข้าไปข้างในจะแสดงบัตรธนาคารของตนเอง หลังจากนั้นคนเฝ้าประตูจะให้ป้ายหมายเลข
เมื่อถึงคิวของเฉินโม่ เฉินโม่ก็หยิบบัตรธนาคารออกมาด้วย
หลังจากคนที่เฝ้าประตูทั้งสองเห็น พวกเขาก็อึ้งจนพูดไม่ออก และมองเฉินโม่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพ
ป้ายหมายเลขที่เฉินโม่ได้รับมานั้น ระบุว่าเป็นโต๊ะที่สอง
เฉินโม่เดินเข้าไปด้วยสีหน้าราบเรียบ สำหรับเขาแล้วเงินเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น และจนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบัตรใบนี้มีเงินอยู่ที่เท่าไร
ห้องโถงกว้างขวาง มีโต๊ะกลมหลายสิบโต๊ะ บนโต๊ะปูด้วยผ้าไหมสีเหลือง แต่ละโต๊ะมีป้ายหมายเลข ตอนนี้มีคนนั่งกระจัดกระจายมากมาย
คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายวัยกลางคน และมีผู้สูงอายุไม่น้อยเหมือนกัน แต่คนหนุ่มสาวนั้นค่อนข้างน้อย
ด้านหน้าห้องโถงเป็นเวที มีโต๊ะกลมขนาดใหญ่หลายโต๊ะอยู่หน้าเวที ปูด้วยผ้าปูโต๊ะสีแดง ซึ่งดูเด่นเป็นพิเศษ
เฉินโม่คาดว่าน่าจะเป็นที่นั่งของแขกวีไอพี
แขกทยอยเดินเข้ามา แต่หลังจากเดินเข้ามาในห้องโถงแล้ว พวกเขาต่างหาที่นั่งของตนเองอย่างเงียบ ๆ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พูดคุยกันเบา ๆ เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่รู้จักกัน
เฉินโม่พบว่ามีนักบู๊อยู่รอบ ๆ นี้หลายสิบคน แต่ส่วนใหญ่อยู่แดนนอก มีคนเป็นแดนในเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งแบบนี้สำหรับโลกมนุษย์แล้ว ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลจินตกตะลึง
เฉินโม่เดินไปจนสุดทาง มองหาโต๊ะหมายเลขสอง พบว่าโต๊ะหมายเลขสองเป็นโต๊ะที่อยู่หน้าเวที และเป็นหนึ่งในโต๊ะที่ปูด้วยผ้าปูโต๊ะสีแดง
เฉินโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเข้าใจทันทีว่าที่นั่งถูกจัดตามเงินในบัตรธนาคาร
หลังจากเฉินโม่เข้าใจแล้ว เขาก็นั่งลงและหลับตาพักผ่อน ไม่สนใจคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน รองานเลี้ยงเริ่มต้นอย่างเงียบ ๆ
ไม่กี่นาทีต่อมา เฉินโม่ได้ยินเสียงอุทานดังอยู่รอบตัว เขาจึงลืมตาขึ้นเล็กน้อย
เมื่อมองไปด้านหน้า เห็นสาวสวยสูงหุ่นเซ็กซี่สวมชุดสีชมพู เดินมาพร้อมกับชายชราคนหนึ่ง โดยมุ่งหน้ามายังทิศทางของเฉินโม่ด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง
ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเดินผ่านตรงไหน ก็มีคนยืนขึ้นทักทาย “คุณหนูกงซุน!”