แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 547
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 547
ภายในพระราชวังใต้ดิน งูเกล็ดแดงทิพย์หายไปจนหมด เหลือเพียงงูยักษ์ขนาดใหญ่สิบฟุตตัวนั้น
เฉินโม่รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ประหลาดของงูทิพย์ตั้งนานแล้ว จึงยืนอยู่บนแท่นหิน มองลงไปที่งูยักษ์ตัวสีแดงนั้น สีหน้ากระจ่างแจ้ง “อย่างนี้นี่เอง รวมหมื่นเป็นหนึ่งเดียว ก็คืองูตัวเมีย ก็ว่าทำไมตำราโบราณสัตว์ทิพย์ของสำนักเสวียนเต๋าถึงไม่มีข้อมูลของงูตัวเมีย คงเพราะพวกเขาเองก็คงยังไม่เคยพบเจองูตัวเมียจริงๆ”
“หากไม่ใช่เพราะถูกฉันบีบจนร้อนรน งูตัวเมียตัวนี้คงไม่ปรากฏตัวออกมา”
“เจ้ามนุษย์ มารบกวนเจ้านายของฉันพักผ่อน วันนี้พวกนายทั้งหมดต้องตาย!”
เสียงหญิงสาวที่แหบแห้งแสบหูดังอย่างน่ากลัวในหูของทุกคน
ไช่เหวินหย่าชี้ไปที่งูตัวเมีย พูดอย่างหวาดกลัวว่า “มัน มันพูดได้! มันพูดได้ด้วย!”
พวกเจี่ยงไต้ซือเองต่างก็มองหน้ากัน แม้พวกเขาจะไม่ใช่คนธรรมดา แต่ก็ไม่เคยพบเจองูที่พูดภาษามนุษย์
“นี่มันสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่? หรือว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดตามคำเล่าลืองั้นหรอ?” หยวนชิงซานพูดคนเดียวอย่างหวาดกลัว
พระภิกษุสำนักลับทั้งสามรูปท่องบทสวด พวกเขาค่อนข้างสงบนิ่งมากกว่า เหมือนว่าเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับงูเช่นนี้มาก่อน
“ฉันเคยพบเห็นบันทึกเกี่ยวกับงูตัวเมียในคัมภีร์โบราณของสำนักมาก่อน เกิดมาด้วยพลังจิต พูดภาษาคนได้ ถนัดการใช้ไฟ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาชนะไม่ได้ ให้พวกทั้งสามได้ประลองกับเจ้างูตัวเมียก่อนแล้วกัน!”
เจี่ยงไต้ซือพยักหน้า “ตกลง อย่างนั้นก็ขอรบกวนท่านทั้งสามด้วยครับ!”
พระภิกษุทั้งสามเดินไปข้างหน้า ล้อมงูตัวเมียไว้เป็นสามเหลี่ยม พระภิกษุรูปที่ถือวัชระไว้กระแทกพื้นอย่างแรง แล้วตะโกนว่า “เจ้าสัตว์เดรัจฉานตายซะเถอะ!”
พระภิกษุอีกสองคนเองก็หยิบเอาอาวุธออกมา เหวัชระแท่งหนึ่ง กับกระบอกทองแดงอีกหนึ่งแท่ง
ทั้งสามล้อมโจมตีเจ้างูตัวเมียพร้อมกัน
จิ๊ๆ!
งูตัวเมียตัวนั้นส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา แล้วอ้าปากพ่นไปออกมาพุ่งเข้าใส่ทั้งสามคน
พระภิกษุทั้งสามรีบเคลื่อนย้ายพลังชี่แท้ โจมตีไปยังไฟที่พุ่งเข้าใส่ ไฟลูกนั้นถูกพลังชี่แท้ขัดขวางไว้ ทำร้ายพระภิกษุทั้งสามไม่ได้ แต่กลับโจมตีเข้าใส่อาวุธของทั้งสามคน
อาวุธที่สร้างมาอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ไม่มีชี่แท้ปกคลุม เมื่อปะทะกับไฟ จึงลุกไหม้ขึ้นมาทันที
เจี่ยงไต้ซือรีบพูดเตือนว่า “รีบโยนอาวุธทิ้งซะ!”
พระภิกษุทั้งสามสีหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าใจ ทำได้แค่โยนอาวุธทิ้ง ใช้พลังชี่แท้ปกป้องตัวเอง แล้วถอยกลับ
เพียงครู่เดียวก็ได้โยนอาวุธทิ้ง พระภิกษุทั้งสามสีหน้าเต็มไปด้วยความอับอาย สวดบทเสียงเบา และยืนอยู่ด้านข้างเงียบๆ
“พบเจอกับอะไรก็ไฟลุกไหม้ เป็นอย่างนั้นจริงๆด้วย!”
เจี่ยงไต้ซือสีหน้าเคร่งเครียด “ดูแล้วหากต้องการจัดการกับมัน คงต้องใช้พลังชี่แท้โจมตีเท่านั้น”
หยวนชิงซานมองดูเจ้างูตัวเมีย พูดเสียงทุ้มว่า “ให้ผมลองดูครับ!”
“มีคนอยากหาเรื่องตายอีกคนแล้ว!” เสียงแหบแห้งของหญิงสาวดังขึ้นอีกครั้ง หัวงูขนาดใหญ่ยักษ์เหมือนมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น
“พระเจ้า ฉันเห็นมันยิ้ม มันกำลังยิ้ม!” ไช่เหวินหย่าเหมือนได้เห็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่สุดบนโลก งูตัวหนึ่งกำลังยิ้มให้กับเธอ หากว่าเป็นคนที่ใจเสาะกว่านี้ คงจะเป็นลมล้มพับไปแล้ว
“หึ เจ้าผีบ้า!เจอหมัดของฉันซะ!”
หยวนชิงซานไม่กักเก็บพลังสักนิด พลังของแดนในชั้นสูงสุดไม่สามารถดูถูกได้ พลังชี่แท้ปกคลุมไปทั่วร่าง ปล่อยหมัดพุ่งไปยังเจ้างูตัวเมีย
แต่เมื่อการโจมตีของหยวนชิงซานเพิ่งจะสัมผัสถึงเจ้างูตัวเมีย แต่แล้วเจ้างูตัวเมียนั่นก็หายวับไปกับที่ จากนั้นก็สะบัดหางกระแทกไปที่ช่วงเอวของหยวนชิงซาน
ปัง!
หยวนชิงซานถูกกระแทกกระเด็น แต่ยังดีที่มีพลังชี่แท้ปกป้องไว้ ไม่อย่างนั้นตัวเขาก็คงจะลุกไหม้ไปแล้ว
“การโจมตีครั้งนี้คงจะเทียบได้กับพลังของแดนในชั้นสูงสุดแล้ว เป็นเพียงแค่สัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งเท่านั้น แต่กลับมีพลังแข็งแกร่งเช่นนี้!” หยวนชิงซานคลานลุกขึ้นจากพื้น จับเอวที่เจ็บปวดไว้ แล้วพูดอย่างตกตะลึง
“ฉันเคยบอกแล้ว ว่าวันนี้พวกนายต้องตายกันหมด!” เจ้างูตัวเมียหัวเราะอย่างเยาะเย้ย ยืดตัวตรง แล้วค่อยๆขยับร่างเข้าใกล้ทุกคน
ไช่เหวินหย่าตกใจเซถอยหลัง กรีดร้องพูดว่า “เจี่ยงไต้ซือ มัน มันมาแล้ว!”