แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 564
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 564
อู่โจว กลุ่มคฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรัง บ้านของฉู่เหวินสง
ในฐานะของผู้รับผิดชอบน้ำชีวิต ช่วงนี้ฉู่เหวินสงเรียกได้ว่ารุ่งเรืองขึ้นมาก หน้าที่การงานดีขึ้นเรื่อยๆ พวกผู้มีอำนาจที่เคยอยู่ระดับเดียวกับเขา แต่ตอนนี้เมื่อเจอเขาต่างก็ต้องก้มหัวให้เขา
ในฐานะของผู้รับผิดชอบน้ำชีวิต ฉู่เหวินสงจึงมีอำนาจในการใช้น้ำชีวิตได้ตามใจชอบ ดังนั้นตอนนี้ฉู่เหวินสงจึงดูอ่อนวัยลงมาก และร่างกายก็ยิ่งสูงใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม
แม้จะนอนดึกโต้รุ่ง แต่ฉู่เหวินสงก็ยังมีแรงมีพลัง เขารู้ว่าทุกอย่างนี้ เป็นเพราะเฉินไต้ซือทั้งนั้น
เวลาสองทุ่ม ฉู่เหวินสงอยู่ในสวนของคฤหาสน์ กำลังทำท่าซูโม่สควอท ชายวัยกลางคนข้างกายกำลังแก้ไขท่าทางของเขาให้ถูกต้อง
ชายคนนี้คือบอดี้การ์ดที่ฉู่เหวินสงจ้างมา ยอดฝีมือระดับแดนในชั้นสมบูรณ์ ฉีเซียนเซิง
สายลมพัดผ่าน ชั้นบนสุดของคฤหาสน์ฉู่เหวินสง จู่ๆก็มีผู้อาวุโสหัวล้านคนหนึ่งเพิ่มขึ้นมา เป็นเหมือนดั่งวิญญาณ ทั้งสองคนไม่มีใครสังเกตเห็น
“คุณฉู่ ขาของคุณย่อลงอีกสามนิ้วครับ ถูกต้อง!” ฉีเซียนเซิงชี้แนะฉู่เหวินสงอย่างจริงจัง
“หึๆ!”
เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นกลางอากาศ ทำเอารู้สึกตกใจ
“ใคร!”
ฉีเซียนเซิงหันหลังทันที มองดูผู้มาเยือนอย่างระมัดระวังตัว
ร่างของผู้อาวุโสหัวล้านลอยตัวลงมา แล้วหยุดยืนลงสวนของคฤหาสน์ ใบหน้าที่มองฉู่เหวินสงมีรอยยิ้มเยาะเย้ย “นายคือฉู่เหวินสงผู้มีอำนาจแห่งอู่โจว?”
ฉู่เหวินสงรู้สึกตกตะลึง คนผู้นี้สามารถหลบซ่อนจากลูกน้องมากมายของเขาเข้ามาได้ แม้แต่ฉีเซียนเซิงเองก็ไม่สังเกตเห็น เห็นได้ชัดว่าพลังความสามารถไม่ธรรมดา
“ผมเองครับ ไม่ทราบว่าท่านคือใคร?” ฉู่เหวินสงโค้งตัวเล็กน้อย ท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน
“นายไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันให้เวลานายสามวัน นายไปรวบรวมพรรคพวกทั้งหมดของเฉินไต้ซือมาซะ หลังจากนี้สามวันให้มารอฉันที่นี่ ฉันมีเรื่องจะประกาศ!” ฉินกวนไห่พูดด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง
“หากว่าหลังจากนี้สามวันมีคนที่ยังมาไม่ถึง ย่าได้หาว่าฉันชั่วร้ายละ!”
พูดจบ ฉินกวนไห่ก็ต่อยหมัดไปที่ฉีเซียนเซิงผู้อยู่ข้างกายของฉู่เหวินสง
“สารเลว!” ฉีเซียนเซิงต่อว่า ยกแขนขึ้นบังไว้
กร็อบ!
สองแขนกระดูกแตกหัก ตามด้วยหน้าอกบุบลงไป แล้วตายอย่างอนาถคาที่
“อ่อนแอสิ้นดี!” ฉินกวนไห่ยิ้มเยาะแล้วสะบัดมือด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง
ฉู่เหวินสงถึงกับหยุดหายใจ สีหน้าตกใจ ความคิดในใจอย่างแรกคือ คนผู้นี้ไม่ได้มาดี!
พลังของฉีเซียนเซิงเขารู้เป็นอย่างดี แม้ลูกน้องทั้งหมดของเขารวมกัน ก็เทียบไม่ได้กับการที่ฉีเซียนเซิงใช้มือเดียวต่อสู้ แต่ฉีเซียนเซิงกลับถูกคนผู้นี้ฆ่าทิ้งในหมัดเดียว พลังของคนผู้นี้ แทบจะเทียบได้กับเฉินไต้ซือ
“ท่าน ผมและคุณไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แล้วไปทำผิดอะไรต่อท่านกันแน่ครับ? หวังว่าท่านจะบอกให้ทราบ!” ฉู่เหวินสงโค้งคำนับ ท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนมากกว่าเดิม
ฉินกวนไห่ยิ้มเยาะ “หลังจากนี้สามวันฉันจะบอกนายเอง นายเพียงแค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอแล้ว หากว่านายกล้าขัดขืน คนผู้นี้ก็คือตัวอย่างที่นายเห็น!”
ฉู่เหวินสงโค้งคำนับอีกครั้ง “ผมมิกล้าครับ ผมจะแจ้งให้ทราบแน่นอนครับ!”
“ถือว่านายรู้จักคิด!”
พูดจบ ฉินกวนไห่ก็ลอยจากไป
ฉู่เหวินสงยืดตัวขึ้น มองดูทิศทางที่ฉินกวนไห่จากไป สีหน้าเคร่งขรึม
“หรือว่าข่าวเรื่องการตายของเฉินไต้ซือจะเป็นความจริง!” เมื่อนึกถึงจุดนี้ สีหน้าของฉู่เหวินสงก็แย่มากกว่าเดิม
“ไอ้มีด หาคนมาทำความสะอาดที่นี่ซะ แล้วเตรียมรถ พาฉันไปที่เถ้าแก่เจี่ยเดี๋ยวนี้!”