แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 587
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 587
เมืองอู่โจวภายในคฤหาสน์ตระกูลจิน
ทุกคนในตระกูลจินรวมตัวพร้อมหน้าพร้อมตากัน กำลังปรึกษาหารือกัน สีหน้าของทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความสงสัย
ท่านจินค่อยๆเดินออกมาจากห้องโถงด้านหลังอย่างสง่าผ่าเผย แล้วนั่งลงตำแหน่งผู้นำในห้องโถง
ภายในห้องโถงเงียบสงบในทันที
ท่านจินดูเด็กลงประมาณสิบปีเมื่อเทียบกับก่อนที่จะรู้จักกับเฉินโม่ ทหารผ่านศึกที่ผ่านการต่อสู้อย่างเก่งกาจมา ตอนนี้ได้กลับมาสง่าผ่าเผยอย่างที่เคยรุ่งโรจน์อีกครั้ง
“พ่อครับ เรียกพวกเรามาเร่งด่วนในครั้งนี้ มีเรื่องอะไรงั้นหรือครับ?” ลูกชายคนโตตระกูลจินพนมมือขึ้นแล้วเอ่ยถาม
ท่านจินสีหน้านิ่งขรึม แววตามองออกไปนอกประตู ดูอารมณ์ไม่ออก
“อีกเดี๋ยวพวกนายก็รู้แล้ว” ท่านจินพูดเสียงเข้ม น้ำเสียงเย็นชา
คนอื่นๆในตระกูลจินเมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว จึงไม่มีใครกล้าถามอีก แล้วนั่งรออยู่เงียบๆ
ผ่านไปประมาณสิบนาที เสียงหนึ่งดังออกมาจากด้านนอก “ดิฉันกงซุนจื่อยิง ทำความเคารพคุณท่านจินค่ะ!”
คนของตระกูลกงซุน!
ทุกคนในตระกูลจินต่างมองหน้ากัน
จินเจิ้งเหอลูกชายคนโตของตระกูลจิน รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“ช่วงที่ผ่านมานี้กงซุนจื่อยิงนำพาสำนักโยวหลานมายึดครองคฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรังของเฉินไต้ซือ พวกผู้มีอำนาจชื่อเสียงในเมืองฮ่านหยางที่เคยติดตามเชื่อฟังเฉินไต้ซือ ต่างก็ยอมจำนนกันหมด ตระกูลกงซุนจึงเป็นที่สนใจขึ้นมาทันที ครั้งนี้ที่เธอมาตระกูลจิน คิดอยากจะทำอะไร?”
กงซุนจื่อยิงสวมเสื้อสีขาว รูปร่างสูงโปร่ง ผมยาวสยาย เดินเข้ามาห้องโถงอย่างสง่า โดยมีชายหนุ่มหลายคนมาพร้อมกันด้วย
รูปลักษณ์ของกงซุนจื่อยิง ทำให้แววตาของลูกหลานผู้ชายแห่งตระกูลจินลุกโชนขึ้นมาทันที
“สวัสดีค่ะท่านจิน!” กงซุนจื่อยิงพนมมือให้กับท่านจิน
คนหนุ่มสาวของตระกูลจินไม่ได้คิดว่ามีอะไรแปลก แต่พวกที่มีอายุมากของตระกูลจิน ภายในแววตาต่างก็มีความโกรธเคือง
แม้แต่กงซุนจั่วเสวียนเมื่อเข้าพบท่านจิน ยังต้องโค้งคำนับ แต่กงซุนจื่อยิงเพียงแค่พนมมือให้กับท่านจินเท่านั้น นี่คือการทำความเคารพกันระหว่างผู้มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเท่านั้น
จินเจิ้งเหอผู้มีฐานะเป็นลุงของกงซุนจื่อยิง รีบต่อว่าทันที “จื่อยิง อย่าไร้มารยาท!”
กงซุนจื่อยิงหันไปมองจินเจิ้งเหอ แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ท่านนี้คือ?”
จินเจิ้งเหอสีหน้าเปลี่ยนไป พูดเสียงเข้มว่า “ฉันคืออาเขยของเธอ!กงซุนจื่อเสวียนพ่อของเธอไม่เคยบอกหรือไง?”
กงซุนจื่อยิงยิ้มเยาะ “พ่อของฉันตายไปแล้วค่ะ ในเมื่อคุณคืออาเขยของฉัน แล้วทำไมคุณถึงยังมีชีวิตอยู่?”
“บังอาจ!”
ผู้ใหญ่ของตระกูลจินสองคนส่งเสียงต่อว่าออกมา ตอนนี้จินเจิ้งเหอเป็นถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และเป็นผู้นำตระกูลจินรุ่นต่อไป กงซุนจื่อยิงผู้เป็นเด็กกว่า กลับกล้าไร้มารยาทกับผู้นำตระกูลจินนอนาคต แล้วตระกูลจินจะไม่โกรธได้อย่างไร?
จินเจิ้งเหอสีหน้าไม่ดีนัก การคาดเดาภายในใจเหมือนจะได้รับการยืนยันแล้ว กงซุนจื่อยิง มาอย่างไม่เป็นมิตร!
“น้องจั่วเสวียนถูกฆ่า ฉันเองก็เสียใจเช่นกัน แต่ฉันเคยเตือนเขาแต่แรกแล้ว แต่อื้อรั้นกู่ไม่กลับ ถึงได้ทำให้ตัวเองต้องตาย สิ่งที่ตระกูลจินของฉันสามารถทำได้ ก็ได้พยายามทำเต็มที่แล้ว” จินเจิ้งเหอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย พูดอย่างมีเหตุผล
“พยายามเต็มที่แล้ว? อย่างนี้แล้วฉันยังต้องขอบคุณคุณสินะ? อาของฉันตาบอดจริงๆ ทำไมถึงได้แต่งงานกับคนไม่ได้เรื่องแบบนี้!”
คนของตระกูลจินต่างก็ลุกขึ้นยืน แล้วชี้หน้ากงซุนจื่อยิงอย่างโมโห “บังอาจ ถึงแม้กงซุนจื่อเสวียนพ่อของเธออยู่ที่นี่ ก็ไม่กล้าไร้มารยาทต่อตระกูลจิน!เธอมันก็แค่เด็กน้อย เห็นว่ามีสำนักโยวหลานหนุนหลังอยู่ ก็ช่างกล้ามาเหยียดหยามตระกูลจินขงฉัน!”
“ใครมันให้ความใจกล้ากับเธอ!”
พวกชายหนุ่มข้างกายกงซุนจื่อยิง หันไปจ้องมองคนตระกูลจินพวกนั้น สีหน้ามีความดูถูก มีความคิดที่จะลงมือทำร้าย
กงซุนจื่อยิงยิ้มเยาะ ใบหน้าแสดงออกถึงความดูถูกเหยียดหยาม แววตาจ้องมองท่านจิน “ก็แค่เฉินไต้ซือคนเดียว แต่กลับข่มจนตระกูลจินของพวกนายกลัวหางจุกตูด มองดูหลานของตัวเองโดนทำร้ายจนขาหัก ตระกูลจินของพวกนายก็ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ พ่อของฉันถูกฆ่า ตระกูลจินของพวกนายก็ยืนมองเฉยๆ”
“นายบอกฉันสิ ว่าหากตระกูลจินไม่ใช่พวกไร้ประโยชน์แล้วคืออะไร!”
กงซุยจื่อยิงตะคอกเสียงดัง เมื่อเสียงอยู่ในหูของพวกตระกูลจินแล้วช่างแสบหูยิ่งนัก