แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 601
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 601
เจียงเหอซานรู้สึกหดหู่ชั่วขณะหนึ่ง
แต่เมื่อเขาเห็นเฉินโม่ดื่มชาอย่างผ่อนคลาย ราวกับว่าทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับเขา เจียงเหอซานก็หัวเราะออกมาทันที
แต่การหัวเราะนั้นเป็นการหัวเราะเยาะตนเอง
“คิดไม่ถึงว่าสภาพจิตของผมจะพ่ายแพ้ให้แกเด็กหนุ่มคนหนึ่ง!”
หลังจากปรับอารมณ์แล้ว เจียงเหอซานกล่าวด้วยความจริงจังว่า “ในเมื่อท่านได้ตกลงตามเงื่อนไขของคุณแล้ว ดังนั้นตอนนี้ถือว่าคุณเป็นเจ้าหน้าที่ของทางราชการแล้ว เพียงแต่ตอนนี้คุณยังขาดตำแหน่ง”
เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ผมไม่ต้องการตำแหน่ง ผมคิดว่าเป็นแบบนี้มันก็ดีแล้ว!”
เจียงเหอซานกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไม่ได้! ทางราชการไม่เลี้ยงคนที่ไม่ทำงาน คุณจำเป็นต้องมีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เพื่อหลีกเลี่ยงการติฉินนินทาของชาวบ้าน!”
เฉินโม่มองเขา “แล้วคุณจะให้ตำแหน่งอะไรกับผม?”
เจียงเหอซานครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วเหลือบมองเฉินโม่ “ด้วยฝีมือของคุณแล้ว ไม่ควรเสียไปเปล่าๆ ฮั่วตงหมิงหัวหน้าของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี ได้หายตัวไปสักพักหนึ่งแล้ว ผมสงสัยว่าเขาต้องแอบเข้าไปในค่ายของศัตรู แล้วก็เกิดเรื่องร้าย”
“ประจวบเหมาะที่คุณมาทำงานแทนเขาชั่วคราว เป็นหัวหน้ารักษาการของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี!”
เฉินโม่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณให้ความสำคัญกับผมมากเกินไปแล้ว ให้ผมเป็นหัวหน้าของหน่วยรบพิเศษเลย! เพียงแต่ผมไม่สนใจตำแหน่งพวกนี้ คุณหางานที่สบายให้ผมดีกว่า!”
เจียงเหอซานมองเฉินโม่และกล่าวด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ “คุณวางใจเถอะ หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีมีระบบที่สมบูรณ์แบบ ถึงแม้จะไม่มีหัวหน้า พวกเขาก็สามารถทำงานได้ตามปกติ คุณเป็นหัวหน้าเพียงแค่ในนามเท่านั้น และแน่นอนว่าถ้าคุณรู้สึกผิด คุณก็สามารถถ่ายทอดฝีมือให้สมาชิกของหน่วยรบพิเศษเหล่านั้นได้!”
“เมื่อเป็นเช่นนั้น ผมก็จำต้องยอมรับ!” เฉินโม่กล่าวด้วยความไม่เต็มใจ
เจียงเหอซานหันหลังแล้วเดินออกไปด้วยความโกรธ แล้วโยนของบางอย่างให้เฉินโม่ด้วยความโกรธเคือง “หลังจากคุณจัดการเรื่องของตนเองเรียบร้อยแล้ว ไปหาผมที่ยานจิง! นี่คือตราของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี มีมันแล้ว คุณถึงจะกลายเป็นสมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีอย่างแท้จริง!”
เฉินโม่หยิบตราเล็ก ๆ สีเงินขึ้นมา ด้านบนเป็นรูปนกอินทรีกลางปีก
เฉินโม่ตกตะลึงครู่หนึ่ง “ไม่น่าบังเอิญขนาดนั้น!”
เฉินโม่เคลื่อนจิต จากนั้นหยิบตราที่ชายวัยกลางคนมอบให้เขา ตอนที่อยู่ในทะเลทรายออกมาจากแหวนเก็บของ
แล้วเปรียบเทียบกัน ตราทั้งสองชิ้นเหมือนกันทุกประการ เพียงแต่ตราที่ชายวัยกลางคนมอบให้เขา หัวนกอินทรีเป็นสีทอง แต่อีกอันไม่มีสี
“รอสักครู่!” เฉินโม่รีบเรียกเจียงเหอซานซึ่งเดินไปถึงประตูแล้ว
เจียงเหอซานหันกลับมามองเฉินโม่ด้วยสีหน้าหงุดหงิด “มีอะไรอีก?”
เฉินโม่ยกตราที่เกือบจะเหมือนกันทั้งสองชิ้นขึ้นมา แล้วกล่าวด้วยสีหน้าแปลก ๆ ว่า “คุณมาดูตรานี่สิ”
เมื่อเห็นตราที่อยู่ในมือของเฉินโม่แล้ว สีหน้าของเจียงเหอซานเปลี่ยนไปทันที เขารีบเดินมาอยู่หน้าเฉินโม่ คว้าตราชิ้นนั้นมา แล้วมองอย่างละเอียด
เจียงเหอซานเงยหน้าขึ้นมองเฉินโม่ด้วยความเย็นชาและถามว่า “คุณได้ตรานี้มาจากไหน?”
สีหน้าของเฉินโม่ราบเรียบ และตอบตามความเป็นจริงว่า “ในทะเลทรายทางตะวันตกเฉียงเหนือ ชายวัยกลางคนมอบให้ผม นอกจากนั้น เขายังฝากคำพูดถึงหยางติ่งเทียน”
เจียงเหอซานกล่าวอย่างประหม่า “แล้วเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เขาถูกผู้แข็งแกร่งทางตะวันตกสองคนไล่ฆ่า ตอนที่ผมเห็นเขานั้น เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว!”
เมื่อพูดถึงบุคคลนั้น เฉินโม่รู้สึกเสียใจ เดิมทีเขาสามารถมีชีวิตรอด แต่ตัวเขาเองไม่อยากมีชีวิตอยู่ ทำให้เวลาในการรักษาล่าช้าไป สุดท้ายแม้แต่เฉินโม่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้
“เขาฝากคำพูดถึงหยางติ่งเทียน ในเมื่อคุณเป็นผู้บังคับบัญชาของหยางติ่งเทียน งั้นบอกคุณก็เหมือนกัน”