แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 641
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 641
สีหน้าของเซี่ยไห่หลงแปลกเล็กน้อย เขามองเฉินโม่และกล่าวว่า “หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีมีครูฝึกบู๊อยู่แล้ว”
“อืม?” เฉินโม่มองเซี่ยไห่หลงด้วยสีหน้าราบเรียบ “เขาคือใคร?”
เซี่ยไห่หลงตอบว่า “เป็นสมาชิกของตระกูลบู๊แห่งเจียงหนาน!”
“ถ้าเช่นนั้นคุณก็บอกเขาว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมาแล้ว ผมจะเป็นคนรับผิดชอบฝึกบู๊ให้หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีเอง!” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่มีความเผด็จการ
“……” เซี่ยไห่หลงส่ายศีรษะและกล่าวว่า “เบื้องบนเป็นผู้ว่าจ้างครูฝึกบู๊สำหรับหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีเป็นพิเศษ ซึ่งผมไม่มีอำนาจเลิกจ้างเขา!”
เฉินโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่เป็นไร งั้นรอให้เขามาถึงแล้ว ผมจะเป็นคนบอกเขาเอง!”
เซี่ยไห่หลงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เฉินโม่รีบโบกมือขวางเขาเอาไว้ “แค่นี้ก่อน ผมจะเป็นคนรับผิดชอบฝึกบู๊ ส่วนเรื่องที่เหลือคุณจัดการเอง!”
เซี่ยไห่หลงพูดอะไรไม่ออก
“แล้วหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีของพวกคุณฝึกวิชาแบบไหน? เอามาให้ผมดูหน่อย!”
ในเมื่อเขาคิดจะทำให้หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีเจริญก้าวหน้า ดังนั้นเฉินโม่จึงตัดสินใจที่จะเริ่มสอนวิชาขั้นพื้นฐาน
เซี่ยไห่หลงหยิบหนังสือเล่มเล็กออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เฉินโม่ “นี่คือวิชาพยัคฆ์คำราม ที่สมาชิกทุกคนของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีฝึก ส่วนตัวผมนั้นด้วยเหตุผลเรื่องสถานะ ผมจึงฝึกวิชาอื่น แต่ผมไม่สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้!”
เฉินโม่พยักหน้า “ที่นี่พลังบำเพ็ญของคุณน่าจะสูงที่สุดใช่ไหม?”
เซี่ยไห่หลงพยักหน้า “ถูกต้อง ผมเป็นแดนในชั้นสูงสุด ส่วนสมาชิกคนอื่นส่วนใหญ่จะเป็นแดนนอก!”
“เอาล่ะ คุณออกไปเถอะ ผมรู้แล้ว!”
เซี่ยไห่หลงทำความเคารพ จากนั้นก็เดินออกไป และขณะที่เขาเดินไปถึงประตู ทันใดนั้นเขาก็หันกลับมา อยากจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่เฉินโม่พูดเร็วกว่าเขา “กลับไป แล้วปฏิบัติตามคำสั่งของผม!”
“ครับ!” เซี่ยไห่หลงพูดไม่ออก หันหลังแล้วเดินจากไป
เฉินโม่หยิบหนังสือวิชาพยัคฆ์คำรามแล้วอ่านคร่าว ๆ มันเป็นเคล็ดวิชาที่ง่ายมาก ถ้าฝึกถึงระดับสูงสุด แค่สามารถบรรลุถึงระดับแดนในชั้นรู้ความเท่านั้น
เมื่อเทียบกับวิชาที่ไม่สมบูรณ์ของคุณท่านจินแล้ว มันแตกต่างกันมาก
ถึงแม้ว่าประเทศหัวเซี่ยจะมีตระกูลบู๊และสำนักบู๊ไม่มากนัก แต่ถ้านับดี ๆ แล้วมันก็มีไม่น้อยเหมือนกัน และหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีเป็นหน่วยพิเศษลึกลับของประเทศหัวเซี่ย แต่นึกไม่ถึงว่ากลับฝึกวิชาง่าย ๆ ที่สามารถบรรลุถึงระดับแดนในชั้นรู้ความเท่านั้น!
แสดงให้เห็นว่าการควบคุมในโลกฝึกบู๊ของประเทศหัวเซี่ยเข้มงวดมาก
“ลำเอียง ยอมให้เคล็ดวิชาหายสาบสูญไปดีกว่าถ่ายทอดให้บุคคลภายนอก นี่ก็คือปัญหาทั่วไปของคนหัวเซี่ย มิเช่นนั้นเคล็ดวิชาที่ยอดเยี่ยมในสมัยโบราณ คงจะไม่หายสาบสูญไปมากมายหรอก บางทีการบำเพ็ญเซียนที่เก่าแก่อาจหายสาบสูญไปเพราะเหตุนี้”
เฉินโม่รู้สึกเศร้าเล็กน้อย หมื่นเผ่าในจักรวาล ล้วนพยายามรวบรวมอัจฉริยะด้านการฝึกจากดาวเคราะห์ต่าง ๆ กระทั่งพยายามบ่มเพาะความสามารถอย่างเต็มที่โดยไม่คำนึงถึงอะไร เพียงเพื่อสามารถสืบทอดได้ตลอดไป ดังนั้นจึงเกิดโลกฝึกเซียนทั้งหมื่นขึ้นมา และหมื่นเผ่าในจักรวาล เจริญรุ่งเรืองยืนยงเป็นเวลานานนับร้อยล้านปี
หากคนของประเทศหัวเซี่ยสามารถเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ บางทีอาจจะไม่มีประวัติศาสตร์ที่อัปยศยาวนานนับร้อยปี
เฉินโม่เลิกเศร้า เริ่มให้ความสนใจกับการปรับปรุงเคล็ดวิชา
“รากฐานของพวกเขาตื้นเขิน และจำนวนคนค่อนข้างมาก ซึ่งผมไม่สามารถมอบยาเสริมจิตเพื่อสร้างรากฐานให้พวกเขาโดยตรง เหมือนเฉินซงจื่อและเอียนชิงเฉิงได้ นอกจากนี้เคล็ดวิชาระดับสูงและยากนั้นไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขา วิชามังกรขึ้นสวรรค์เป็นวิชาที่เหมาะสมที่สุด สำหรับคนที่เริ่มฝึกอย่างพวกเขา”
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เฉินโม่ตัดสินใจใช้วิชามังกรขึ้นสวรรค์ประกบกับวิชาพยัคฆ์คำรามที่พวกเขาเคยฝึก เพื่อปรับปรุงการฝึกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี
ในห้องหนึ่งของฐานหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี เจียงเหอซานนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
เซี่ยไห่หลงยืนตัวตรง รายงานการสนทนาเมื่อสักครู่ระหว่างเขากับเฉินโม่ให้เจียงเหอซานด้วยความระมัดระวัง