แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 655
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 655
เฉินโม่ไม่ตอบ สีหน้าเย็นชาเล็กน้อย สายตากวาดมองทุกคน และสุดท้ายก็หยุดอยู่ที่พานรุ่ยหมิงที่อยู่บนเวที
“คนของตระกูลเว่ยอยู่ที่ไหน?” เสียงของเฉินโม่เย็นชาเล็กน้อย ไม่ได้ซ่อนเจตนาฆ่าที่อยู่บนร่างกาย
พานรุ่ยหมิงไม่ตอบ แต่เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเว่ยชางหยุนที่นั่งอยู่ใต้เวที
คนอื่นอดไม่ได้ที่จะหันไปทางกลุ่มสมาชิกของตระกูลเว่ย
ดูเหมือนว่าเฉินไต้ซือมีความแค้นส่วนตัวกับตระกูลเว่ย
สีหน้าของเว่ยชางหยุนตึงเครียด แต่กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ต่อหน้าคนในโลกฝึกบู๊ของเจียงหนานแล้ว เขาไม่สามารถแสดงความขี้ขลาดออกมาได้
“ตระกูลเว่ยอยู่ที่นี่!” เว่ยชางหยุนยืนขึ้นและเงยหน้าขึ้นสูง จ้องเฉินโม่อย่างเย็นชา “เฉินไต้ซือ มีธุระอะไร?”
“ส่งตัวเซวียจื่ออีออกมา แล้วผมจะปล่อยให้ตระกูลเว่ยมีสายเลือดสืบต่อไป” เสียงของเฉินโม่ราบเรียบ แต่ทำให้นักบู๊ทั้งหมดของเจียงหนานรู้สึกขนพองสยองเกล้า
เพราะมันหมายความว่าเขาจะทำลายล้างตระกูลเว่ย!
เซวียมู่หัวที่อยู่ด้านข้างรู้สึกตกใจ มองเฉินโม่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง สมเป็นเฉินไต้ซือจริงๆ!
“ฮึ่ม! กล้าข่มขู่ว่าจะทำลายล้างตระกูลเว่ยต่อหน้าคนของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนาน ไม่เห็นโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนานอยู่ในสายตา!” เจ้าสำนักของสำนักบู๊แห่งหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเว่ย ตบโต๊ะแล้วตะโกนด้วยความโมโห
“ถูกต้อง จองหองมากเกินไปแล้ว! ทำราวกับว่าโลกฝึกบู๊ของเจียงหนานเป็นอากาศธาตุ วันนี้พวกเราจะทำให้เขาออกไปจากที่นี่ไม่ได้!”
เกือบทุกคนรู้สึกแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม และจ้องเฉินโม่ด้วยความโมโห
แม้แต่ผู้นำตระกูลหม่าและผู้อาวุโสเกาที่มาดูความคึกคัก ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย และรู้สึกว่าสิ่งที่เฉินโม่พูดมันมากเกินไป!
พานรุ่ยหมิงที่ยืนอยู่บนเวทีแอบรู้สึกตื่นเต้น เฉินโม่แข็งแกร่งมาก และเขาสมดังปรารถนาแล้ว เพราะตอนนี้เขาไม่กลัวว่าคนของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนานเหล่านี้จะไม่ร่วมมือกัน
เว่ยชางหยุนเงยหน้าขึ้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่า ๆ ๆ เฉินไต้ซือ จองหองจริง ๆ! วันนี้ต่อหน้าคนมากมายของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนาน ฉันจะคอยดูว่าแกจะทำลายล้างตระกูลเว่ยของฉันได้อย่างไร!”
“ผู้นำตระกูล เจ้าเด็กคนนี้จองหองเกินไปแล้ว ให้ผมไปสอนวิธีการเป็นคนให้เขาเถอะ!” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเว่ยชางหยุนกล่าวด้วยความโมโห และเป็นฝ่ายเสนอที่จะช่วยเหลือ
เว่ยชางหยุนเหลือบมองเขาแล้วพยักหน้า และกล่าวด้วยความปลื้มปีติว่า “โอเค อวี้เหอ ไม่เสียแรงที่เป็นลูกหลานของตระกูลเว่ย ไปเถอะ อย่าทำให้ตระกูลเสียศักดิ์ศรี!”
“ผู้นำตระกูลวางใจเถอะ!”
คนรอบข้างมองชายหนุ่มเดินออกจากกลุ่มของตระกูลเว่ย ทุกคนต่างสนทนาแสดงความคิดเห็นกัน
“เขาคือเว่ยอวี้เหอ เป็นลูกพี่ลูกน้องของเว่ยอวี้เฉิง เขากับเว่ยอวี้เฉิงถูกเรียกขานว่าเป็นอัจฉริยะของตระกูลเว่ย ได้ยินมาว่าเขาเข้าสู่แดนในชั้นสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว และเพื่อการประชุมบู๊ครั้งนี้ เขาปลีกวิเวกเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม และออกจากการปลีกวิเวกคราวนี้ ต้องมีความก้าวหน้าอย่างแน่นอน เกรงว่าเขาคงจะเข้าสู่แดนในชั้นสูงสุดแล้ว!”
“ตอนนี้ตระกูลเว่ยมีเด็กรุ่นหลังที่เป็นอัจฉริยะมากมาย อีกไม่กี่ปีตระกูลเว่ยก็จะสามารถแข่งขันกับตระกูลหนานกงและตระกูลพานได้!”
เว่ยอวี้เหอซ่อนพลัง เดินอย่างมั่นคงและสงบ เดินไปอยู่ตรงหน้าเฉินโม่อย่างแผ่วเบามไม่มีท่าอื่นๆ
ผู้นำหม่าและผู้อาวุโสเกาที่นั่งโซนวีไอพี แอบพยักหน้า “รู้วิธีเก็บซ่อนความแข็งแกร่ง ไม่โอ้อวดเพื่อเรียกร้องความสนใจ เป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เลวจริง ๆ!”
เว่ยอวี้เหอประสานมือทั้งสองเป็นการคำนับเฉินโม่ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เว่ยอวี้เหอแห่งตระกูลเว่ย เฉินไต้ซือโปรดชี้แนะด้วย!”
เฉินโม่เหลือบมองเขา จากนั้นมองข้ามเขาทันที แล้วมองไปที่เว่ยชางหยุน “แกไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน เปลี่ยนคนเถอะ!”
“จองหอง!”
เหล่านักบู๊ของเจียงหนานต่างตะโกนด่า!
เว่ยอวี้เหอเป็นคนที่มีชื่อเสียงในโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนาน เด็กหนุ่มบางคนถึงกับให้เขาเป็นเป้าหมาย ตอนนี้เฉินโม่บอกว่าตนเองไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาทำให้คนที่ฝีมือด้อยกว่าเว่ยอวี้เหอ ไม่สามารถทนต่อแรงกระตุ้นแบบนี้ได้?
เซวียมู่หัวที่ยืนอยู่ด้านข้าง พูดอะไรไม่ออก เขารู้สึกว่ารูปแบบการทำงานของเฉินโม่ เป็นพวกประเภทนอกกลุ่ม!
แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าเฉินโม่จองหองมากเกินไป แต่ถ้าเซวียจื่ออีน้องสาวของเขาอยู่ที่นั่น เธอต้องเลื่อมใสเฉินไต้ซือมากยิ่งขึ้นไปอีก