แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 702
“อาวุธนิวเคลียร์!” สีหน้าของเสิ่นฉีเซิ่งเต็มไปด้วยความตกใจ คนที่สามารถทำให้ทางการข่มขู่ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ได้ เขายังเป็นมนุษย์อยู่อีกหรือเปล่า?
เสิ่นหยูปิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอมองเฉินโม่ที่ยืนอยู่บนเวทีด้วยสีหน้าสงบ และกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “เฉินไต้ซือ? ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นเฉินไต้ซือ คุณก็ไม่สามารถต้านท่าไม้ตายที่มีชื่อเสียงและกวาดล้างโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ยเมื่อยี่สิบปีที่แล้วได้หรอก!”
เฉินโม่มองซุนบาเทียนที่อยู่กลางอากาศ เขาขยับดวงตา “น่าสนใจ นึกไม่ถึงว่าชี่แท้ของนักบู๊ยังสามารถทำแบบนี้ได้ และวอกแปดแขนไม่ได้เป็นลวงตาทั้งหมด มีความแข็งแกร่งครึ่งหนึ่งของร่างกายหลัก การที่สามารถสร้างเคล็ดวิชาแบบนี้ขึ้นมาบนโลกนี้ได้ บุคคลนี้คู่ควรที่จะถูกเรียกว่าอัจฉริยะ!”
ซุนบาเทียนที่อยู่กลางอากาศ ดูเหมือนว่าทั่วร่างกายของเขาจะถูกวอกแปดแขนปกคลุม เสียงของเขาก้องกังวาน สะเทือนจนทำให้ทุกคนรู้สึกเจ็บแก้วหู “เฉินไต้ซือ ยอมรับความตายเถอะ!”
“ไม่แน่!” เฉินโม่กล่าวประโยคนี้ออกมาอย่างแผ่วเบา เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ยื่นฝ่ามือออกไปอย่างรวดเร็ว และปล่อยพลังหมัดออกไป
“ท่าที่หนึ่งหมัดเทพเทียนเสวียน สยบภูเขา!”
แสงสีขาวที่ทรงพลังจนสามารถทำลายล้างทุกอย่าง ราวกับสายฟ้าฟาดผ่านท้องฟ้ายามราตรี พุ่งเข้าไปหาวอกแปดแขนที่ปกคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งในห้องโถง!
“คนไม่เจียมตัว!”
ซุนบาเทียนพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา แล้วปล่อยพลังหมัดไปที่เฉินโม่
ข้างหลังเขา วอกแปดแขนที่ปกคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งในห้องโถง มีฝ่ามือขนาดใหญ่แปดฝ่ามือ และยังมีอาวุธอีกแปดชนิดอยู่ในมือ พุ่งเข้ามาหาเฉินโม่
เหมือนภูเขาขนาดใหญ่ที่ทรงพลัง ดูเหมือนว่ามันจะสามารถบดขยี้ทุกสิ่งในโลกใบนี้ได้!
มู่หรงเค่อแห่งเจียงหนาน กู้เฟิงแห่งเจียงเป่ย หวงเจิ้นหลงแห่งไห่ตง เสิ่นฉีเซิ่งแห่งไห่ซี รวมถึงนักบู๊ที่อยู่รอบ ๆ แล้วยังมีเสิ่นหยูปิง สองพี่น้องตระกูลฉี หวางเส้าหยู่ และมู่หรงยานเอ๋อร์ที่อยู่มุมห้อง ตลอดจนทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างกลั้นหายใจ และมองการโจมตีนี้ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ
บูม!
เหมือนเสียงสายฟ้าดังก้องอยู่ในหูของทุกคน
“โอ๊ย!” คนธรรมดาพวกนั้นปิดหูตนเองด้วยความตกใจกลัว เสียงนี้ทำให้คนมากมายรู้สึกหูอื้อชั่วคราว
แม้แต่พวกนักบู๊อย่างลุงสุ่ย สีหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเช่นกัน และรีบใช้ชี่แท้ปกป้องคนที่อยู่รอบตัว
สองพี่น้องตระกูลฉี หวางเส้าหยู่ มู่หรงยานเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ต่างปิดหูตนเองด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ทุกคนจะบรรเทาจากความเจ็บปวด วอกแปดแขนที่ปกคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของห้องโถง ค่อย ๆ หายไปภายใต้สายตาที่ตกใจกลัวของทุกคน ราวกับละอองน้ำที่ระเหยจากแสงแดดที่แผดเผา
ซุนบาเทียนที่โหดเหี้ยมและทรงพลัง ถูกกระแทกจนกระเด็นกลับหัวและตกลงบนเวที
เฉินโม่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าสงบและไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ
“ท่าที่สองหมัดเทพเทียนเสวียน แยกน้ำ”
เสียงแผ่วเบาที่ไร้อารมณ์ดังขึ้นอีกครั้ง
เฉินโม่ยื่นฝ่ามือออกไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง วาดครึ่งวงกลมกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าไปหาซุนบาเทียนที่เพิ่งจะยืนมั่นคง
“วอกแปดแขน”
ซุนบาเทียนไม่มีเวลาสนใจอะไร สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย กัดฟันและตะโกน แล้วภาพลวงตาวอกก็ปรากฏอยู่กลางอากาศอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้มีขนาดหนึ่งในสามของก่อนหน้านั้นเท่านั้น
“ทะลวง!”
คราวนี้ ซุนบาเทียนใช้กำลังทั้งหมด วอกแปดแขนลวงตาบินออกไป ราวกับจะกดทับเฉินโม่
พู่!
คราวนี้ ไม่มีเสียงดังสนั่นเหมือนเมื่อสักครู่ เหมือนกับมีดที่เจาะทะลุแผ่นฟิล์มแล้วเกิดเสียงเบา ๆ
เพียงแต่ภาพลวงตาวอกแปดแขนละลายทันทีราวกับหิมะที่ปะทะเปลวเพลิง สลายเร็วกว่าครั้งที่แล้ว
และซุนบาเทียนถูกกระแทกจนกระเด็นกลับหัวออกไปจากเวที และพ่นเลือดออกมาเต็มปาก