แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 815
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 815
เล่ชิงชางและบรรดาเจ้าสัวก็ไม่แน่ใจเรื่องภูมิหลังของเฉินซงจื่อ
แต่เมื่อพวกเขาเห็นความมั่นใจบนใบหน้าของเอี๋ยนฟู่ พวกเขาก็รู้สึกว่าเฉินซงจื่อแค่คุยโวโอ้อวด
หลีเจี้ยนฮุยยิ้มเยาะกล่าวว่า “แค่คุยโวโอ้อวดเท่านั้น หากเจ้ามีความสามารถมากมายขนาดนี้จริงๆ ก็คงได้ผูกขาดตลาดน้ำชีวิตในจงไห่ทั้งหมดไปตั้งนานแล้ว”
“ใช่ ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน!” หวังไข่เยว่กล่าว
เฉินซงจื่อเหลือบมองพวกเขาอย่างไม่แยแส แล้วพูดอย่างเย็นชา “นายคิดว่าคนอื่นเป็นเหมือนพวกคุณที่ทำทุกวิถีทางเพื่อผลประโยชน์งั้นหรือ หากผมคิดจะแข่งขันแย่งชิงกับพวกคุณ ก็จะเอาชนะพวกคุณอย่างสง่างาม ให้พวกคุณยอมรับอย่างหมดใจ”
“วิธีสกปรกพวกนี้ ผมไม่อยากใช้!”
เพียงประโยคเดียว ทำให้ใบหน้าของบรรดาเจ้าสัวแดงก่ำ แม้แต่ใบหน้าชราของเล่ชิงชางก็แดงเช่นกัน ความรู้สึกอับอายผุดขึ้นในใจ
ลองคิดดูว่าระหว่างพวกเขาและหอการค้าโม่เจีย พวกเขาเป็นฝ่ายพุ่งเป้าไปที่หอการค้าโม่เจียมาโดยตลอด ถึงขั้นทำทุกวิถีทางมาแล้ว
แม้ว่าหอการค้าโม่เจียจะมีคนเก่งอย่างเฉินซงจื่อ แต่ก็ไม่เคยใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสมใดๆ มาต่อสู้แย่งชิงกับพวกเขา ซื่อสัตย์สง่าผ่าเผยมาโดยตลอด
เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองฝ่าย เล่ชิงชางและเจ้าสัวทั้งหลายจะไม่ละอายใจได้อย่างไร?
แต่เพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของตระกูลพวกเขา หอการค้าโม่เจียจำเป็นต้องออกจากจงไห่ พวกเขาสามารถทำทุกวิถีทางเพื่อสิ่งนี้
เพื่อปิดบังความต่ำช้าของตัวเอง หลีเจี้ยนฮุยกล่าวยิ้มเยาะว่า “พ่อค้าไล่ล่าผลกำไรมันคือเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่านายไม่สนใจจะทำ แต่นายกำลังสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาอยู่”
เอี๋ยนฟู่ยิ้มเยาะเช่นกัน “ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมอาของผมยังไม่มาอีก? นายคงไม่คิดจะให้พวกเรารอทั้งวันใช่ไหม!”
“ฮ่าฮ่า อาจจะรอเป็นเดือนก็ได้!” หวังไข่เยว่พูดเย้ยหยัน
“แล้วถ้ารอถึงหนึ่งปีล่ะ?”
“หนึ่งปีเหรอ? หึหึ ผมว่ารอทั้งชีวิตก็ไม่เจอหรอก ใครๆ ก็คุยโวได้!”
ในเวลานี้บรรดาเจ้าสัวทำตัวเหมือนเด็ก ผลัดกันพูดโจมตีเฉินซงจื่อ
เฉินซงจื่อไม่โกรธ เขาหลับตาเพื่อพักผ่อน รอฉู่เหวินสงอย่างเงียบๆ
ไม่กี่นาทีต่อมา เอี๋ยนฟู่ลุกขึ้นยืนและมองไปที่เฉินซงจื่ออย่างเหยียดหยาม เขาเกือบจะยอมรับแล้วว่าเฉินซงจื่อกำลังพูดโกหกอยู่
“เอาล่ะ ผมคิดว่าพวกเราไม่ต้องรออีกแล้ว รอต่อไปก็ไม่มาหรอก”
เอี๋ยนฟู่ประสานมือพูดกับเล่ชิงชาง “พี่เล่ กลับไปผมจะตัดขาดการจัดหาน้ำชีวิตให้หอการค้าโม่ทันที ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณ!”
พูดจบก็มองไปที่เฉินซงจื่ออย่างดูถูก
เล่ชิงชางรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ประสานมือกล่าวว่า “ขอบคุณคุณเอี๋ยน”
บรรดาเจ้าสัวเหล่านั้นรู้สึกว่าเรื่องราวต่างๆ ได้คลี่คลายลงแล้ว เห็นได้ชัดว่าเฉินซงจื่อกำลังคุยโวโอ้อวดอยู่
พวกเขาลุกขึ้นยืนทีละคน แล้วพูดประจบเอี๋ยนฟู่ “ขอบคุณคุณเอี๋ยน!”
“ไม่มีปัญหา!” เอี๋ยนฟู่ยิ้มกลับไปตามมารยาท
แต่ทว่าในเวลานี้เอง เสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธได้ดังขึ้นอย่างกะทันหัน
“ใครต้องการตัดขาดน้ำชีวิตของหอการค้าโม่เจีย? เคยถามผมไหม?”
ฉู่เหวินสงพาไอ้มีดที่เป็นลูกน้องมาด้วย เดินตามชายชราหน้าตาน่าเกรงขามเข้ามา
“อา…ท่านอา!” เอี๋ยนฟู่หน้าถอดสี มองชายชราคนนั้นด้วยความตกใจ
“ท่านพรตเฉิน!” ฉู่เหวินสงรีบเข้าไปคารวะเฉินซงจื่อพร้อมกับไอ้มีด
ชายชรามองไปที่เฉินซงจื่อที่สวมจีวรนักพรตเต๋า พลางถามฉู่เหวินสงอย่างงุนงง “ประธานฉู่ ท่านนี้คือ…”
เฉินซงจื่อลืมตาขึ้นในทันใด มองไปที่ชายชราอย่างเฉียบขาด
ฉู่เหวินสงรีบตัดบทชายชรา แล้วพยักหน้าพูดว่า “ใช่แล้ว!”
ชายชราเหมือนจะรู้สึกตัว เขารีบเดินเข้าไปโค้งคำนับให้เฉินซงจื่อ “เอี๋ยนฉี ผู้จัดการน้ำชีวิตของมณฑลเจียงไห่ คารวะท่านพรตเฉิน!”