แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 890
เคล็ดวิชาบู๊นี้ มู่หงเต้าเรียนรู้จากการกลั่นยา โดยเลียนแบบการควบคุมเปลวไฟในระหว่างการกลั่นยา หลังจากฝึกฝนมาหลายปี ในที่สุดมู่หงเต้าก็ประสบความสำเร็จในเส้นทางนักบู๊
ความจริงแล้วชี่แท้ของเขากำลังเลียนแบบวิถีต้าเต๋า
สร้างตาข่ายชี่แท้อยู่ตรงหน้าสิบกว่าชั้น แต่ละชั้นของตาข่ายชี่แท้มีการป้องกันที่แข็งแกร่ง ตาข่ายที่สร้างขึ้นจากชี่แท้หลายสิบชั้นซ้อนทับกัน กลายเป็นการป้องกันที่น่าทึ่ง
แต่พลังบำเพ็ญของมู่หงเต้าเป็นเพียงแดนคุ้มกายเท่านั้น ซึ่งวิชาพันไหมของเขาสามารถต้านการโจมตีของแดนมองขวัญได้ แต่ไม่สามารถต้านการโจมตีของเฉินโม่ได้
ปัง!
เฉินโม่ปล่อยหมัดกระแทกไปที่หน้าอกของมู่หงเต้า ทำให้มู่หงเต้ากระเด็นกลับหัวออกไป อย่างไรก็ตาม วิชาพันไหมเป็นวิชาที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ เพราะมันสามารถสกัดกั้นพลังส่วนใหญ่หมัดนี้ของเฉินโม่ได้ มู่หงเต้าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“บรรพบุรุษ!” สีหน้าของมู่จือเสว๋ที่อยู่ด้านข้างเต็มไปด้วยความตกใจกลัว
สามารถกล่าวได้ว่ามู่หงเต้าเป็นเสาหลักทางใจของตระกูลมู่ เป็นเฒ่าประหลาดที่ใช้เทคนิคลับต่าง ๆ เพื่อยืดอายุขัยของตนเอง แต่ถึงกระนั้นเฒ่าประหลาดก็ไม่สามารถสกัดกั้นการโจมตีของเฉินโม่ได้!
มู่จือเสว๋รู้สึกว่าตนเองประเมินความแข็งแกร่งของเฉินโม่ต่ำไปอีกครั้ง
มู่หงเต้าลุกขึ้นยืน มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและกล่าวว่า “เจ้าหนู แกเป็นอัจฉริยะจากตระกูลไหน? นึกไม่ถึงว่าหลังจากฉันปลีกวิเวกเป็นเวลาหลายสิบปี จะมีคนอย่างแกปรากฏตัวอยู่ในโลกฝึกบู๊!”
“แกไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร ถ้าแกมีความสามารถแค่นี้ ก็อย่ามาขัดขวางฉันช่วยกำจัดคนเลวของตระกูลมู่!” เจตนาฆ่าประกายอยู่ในดวงตาของเฉินโม่ นับตั้งแต่วินาทีที่มู่จือเสว๋มีเจตนาร้ายกับเขา เขาก็ตัดสินใจจะฆ่ามู่จือเสว๋แล้ว
เมื่อมู่จือเสว๋ได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกตกใจและมองเฉินโม่ด้วยความหวาดกลัว จากนั้นหันไปมองมู่หงเต้า ก้มกราบอย่างต่อเนื่องและกล่าวว่า “บรรพบุรุษ ช่วยด้วย ช่วยด้วย บรรพบุรุษ!”
สีหน้าของมู่หงเต้าแดงก่ำ จ้องเฉินโม่ด้วยสายตาโกรธเคือง “เจ้าหนู ออกไปจากตระกูลมู่ แล้วตระกูลมู่จะให้ในสิ่งที่แกต้องการ เรื่องนี้ก็ให้มันจบตรงนี้ แกว่าไง?”
“บรรพบุรุษ!” มู่จือเสว๋รู้สึกประหลาดใจ มู่หงเต้าคิดจะประนีประนอมแล้วเหรอ!
“หุบปาก ยังขายหน้าไม่พออีกเหรอ?” มู่หงเต้ามองมู่จือเสว๋ และด่าด้วยความโกรธ
มู่จือเสว๋ก้มหน้าลงและเงียบทันที
เฉินโม่เยาะเย้ยด้วยสีหน้าแปลก ๆ “ตอนแรกฉันคิดจะใช้เหตุผลคุยกับตระกูลมู่ และแลกเปลี่ยนอย่างยุติธรรม แต่สมาชิกของตระกูลมู่กลับเล่นลูกไม้ และวางแผนชั่วกับฉัน ตอนนี้เมื่อฉันใช้หมัดคุยกับตระกูลมู่ พวกแกกลับต้องการคุยกับฉันด้วยเหตุผล”
“พวกแกพูดเหตุผลไปหมดแล้ว แล้วฉันจะสามารถพูดอะไรได้อีก”
สีหน้าของมู่หงเต้าเคร่งขรึมจนน่ากลัว และกล่าวว่า “หมายความว่าแกเป็นฝ่ายมีเหตุผล แล้วจะไม่ยอมปล่อยพวกเราใช่ไหม?”
“ฉันเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น!” สีหน้าของเฉินโม่ราบเรียบ แต่ทุกคำที่เขาพูดนั้นหนักแน่นโดยไม่ต้องสงสัย
ใบหน้าของมู่หงเต้าทรุดลงอย่างกะทันหัน ราวกับว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจ!” หลังจากมู่หงเต้ากล่าวจบ เขาก็หยิบหนังแกะสีดำโบราณออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ดูเหมือนจะมีร่องรอยของพลังชั่วร้ายหลงเหลืออยู่บนหนังแกะสีดำโบราณ มองแล้วน่าหวาดกลัว
สีหน้าของเฉินโม่เปลี่ยนไป เขาสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้ายที่อยู่บนหนังแกะสีดำโบราณ เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของตนเองแล้ว มันต้องเป็นสิ่งที่มีพิษอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นสิ่งนั้น สีหน้าของมู่จือเสว๋เปลี่ยนแปลงอย่างมาก และอุทานออกมาว่า “นั่นคือ….แผนผังค่ายกลปกป้องในตำนาน!”
“ที่แท้ตำนานที่สืบทอดของตระกูลมู่นั้นเป็นความจริง!” สีหน้าของมู่จือเสว๋เต็มไปด้วยความตกใจ แล้วเปลี่ยนเป็นความปีติยินดีทันที เมื่อมีแผนผังค่ายกลปกป้องแล้ว ก็จะสามารถสร้างค่ายกลปกป้องสำนักยาเซียนได้ เฉินโม่จะต้องตายอย่างแน่นอน
“เฮ้อ เพียงแต่น่าเสียดายสูตรยาวิเศษล้ำเลิศเหล่านั้น!” มู่จือเสว๋คาดการณ์ว่าเฉินโม่จะต้องตายอย่างแน่นอน