แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 909
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 909
เมื่อเข้าไปในมหาวิทยาลัย ก็จะเห็นแผนกต้อนรับของงานประชุมแลกเปลี่ยน
ศาสตราจารย์เสิ่นเดินไปพร้อมกับเฉินโม่และพรรคพวกของเขา
“มหาวิทยาลัยหัวหนาน มาที่งานประชุมแลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์ชีวภาพนี้” ศาสตราจารย์เสิ่นพูดเบาๆ
นักศึกษาสองคนที่รับผิดชอบแผนกต้อนรับที่อยู่ด้านหลังโต๊ะเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองไปยังฝูงชน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แสดงอะไรออกมา แต่พวกเขาก็ตระหนักดีว่า สายตาของทั้งสองคนนั้นดูถูกเหยียดหยาม
“ลงทะเบียนก่อน” หนึ่งในนั้นพูดอย่างไร้ความรู้สึก
ศาสตราจารย์เสิ่นหยิบปากกาขึ้นมาและเขียนชื่อมหาวิทยาลัยหัวหนาน ลงในสมุดทะเบียน
“เดินตรงไปตามถนนเส้นนี้ สุดทางจะเป็นห้องรับแขก” นักศึกษาคนนั้นพูด
“ขอบคุณ!” ศาสตราจารย์เสิ่นพูดอย่างสุภาพ โดยนำเฉินโม่และคนอื่นๆเดินไปในทิศทางที่นักศึกษาชี้แนะ
ระหว่างทางมีป้ายบอกทาง สุดถนนจะเป็นโรงยิม ซึ่งเป็นห้องรับรองชั่วคราว
เข้ามาในห้องรับรอง ข้างในมีคนอยู่เยอะมาก
หน้าประตูมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชิงหัวรับผิดชอบแผนกต้อนรับ โดยชี้ตำแหน่งของศาสตราจารย์เสิ่นและคนอื่นๆ
ศาสตราจารย์เสิ่นได้พาเฉินโม่และพรรคพวก ไปค้นหาโต๊ะที่มีป้ายของมหาวิทยาลัยหัวหนานและนั่งลง
“พวกนายรออยู่ที่นี่ ฉันจะไปดูว่ายังมีขั้นตอนอะไรต้องทำอีก” ศาสตราจารย์เสิ่นพูดกับทุกคน
“ครับ”
เฉินโม่และคนอื่นๆพยักหน้า และมองดูศาสตราจารย์เสิ่นเดินจากไป
ทันทีที่ศาสตราจารย์เสิ่นเดินจากไป นักศึกษาหลายคนรู้สึกโล่งใจ
จางอี้นักศึกษาปีสองเหลือบมองไปรอบๆ และพูดด้วยความสลดใจว่า “แม้ว่างานประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้จะเป็นวิทยาศาสตร์ทางชีววิทยาที่ศาสตราจารย์เสิ่นเชี่ยวชาญที่สุด แต่เหตุการณ์เช่นนี้ยังไม่สามารถมองโลกในแง่ดีได้ พวกนายดูสิมีใครบ้างที่มาจากมหาลัยชื่อดังเหล่านั้น?”
หลายคนสังเกตเห็นนานแล้ว ยกเว้นเฉินโม่ คนทั้งหกคนนี้ได้เข้าร่วมในงานประชุมแลกเปลี่ยนหนึ่งหรือสองครั้ง และพวกเขารู้จักผู้คนมากมายจากมหาลัยที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น
คนนั้นดูเหมือนจะเป็นศาสตราจารย์ลู่จากมหาวิทยาลัยหมากง ถึงกับเชิญเขามาที่นี่!” หวางเฉิงรุ่นพี่ปีสี่อุทาน
นั่นคือศาสตราจารย์ลู่ที่อยู่หนึ่งในห้าอันดับแรกในด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพหรือ? เขามีชื่อเสียงมากกว่าศาสตราจารย์เสิ่น!” จางซินเหมิงที่อยู่ปีสามอุทาน
“พวกนายดูทางฝั่งมหาวิทยาลัยยานจิงสิ ชายชราที่ไว้เครายาวคนนั้น ถ้าผมเดาไม่ผิด เขาคงจะเป็นหยางจื่อหนิงคุณหยาง” หวางเฉิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
จางซินเหมิงอุทานว่า “นั่นคือศาสตราจารย์หยางจื่อหนิงที่เคยได้รับรางวัลระดับนานาชาติใช่หรือไม่? ถูกต้อง ผมเคยเห็นเขาในข่าวข่าวทีวีชาติคือเขานั่นเอง!”
“ไม่คิดว่า มหาวิทยาลัยยานจิงจะเชิญเขามาที่นี่ ดูเหมือนว่างานประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้เขาจะต้องเอาชนะให้ได้!”
จางอี้พูด “ไม่ใช่แค่พวกเขา ทุกคนที่มาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นต่างไม่ธรรมดา แม้ศาสตราจารย์เสิ่นจะแข่งกับพวกเขา อย่างมากสุดก็อยู่ตรงกลางเท่านั้น”
“ความสามารถของมหาวิทยาลัยหัวหนาน ยังดีไม่พอ!” หวางเฉิงถอนหายใจ
ทุกคนผลักเปลี่ยนกันพูด ใบหน้าของพวกเขาเคร่งเครียด ท้ายที่สุด พวกเขาก้มหน้าหมดอาลัยตายอยาก การต่อสู้ยังไม่เริ่มต้น พวกเขาก็ยอมแพ้แล้ว
ทันใดนั้นจางอี้ก็ยิ้มเยาะ และพูดว่า “ยิ่งไปกว่านั้นงานประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ศาสตราจารย์เสิ่นยังทำหน้าที่เป็นตัวสำรอง และบางทีอาจจะไม่เข้าร่วมเลย พวกเราก็รอขายขี้หน้าเลย!”
ชั่วขณะนักศึกษาทั้งหกคนก็มองไปที่เฉินโม่ และพบว่าเฉินโม่กำลังเอนนอนอยู่บนเก้าอี้และผล็อยหลับไป
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินโม่ได้เข้าร่วมงานประชุมแลกเปลี่ยน และเขาไม่รู้จักใครเลย และเขาก็ไม่สนใจที่จะฟังคนสองสามคนบ่นกันเอง ดังนั้นเขาจึงเอนตัวนอนบนเก้าอี้แล้วหลับตาเพื่อพักผ่อน .
สีหน้าของจางซินเหมิงเปลี่ยนไป และเขาก็อดไม่ได้ที่จะทำเสียงอย่างเย็นชา “ไม่รู้ว่าศาสตราจารย์เสิ่นไปชอบอะไรในตัวเขา ถึงกับมอบหมายให้เขาเข้าร่วมงานประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้แทนตัวเอง กับคนแบบนี้ มาที่นี่เพื่อทำให้มหาวิทยาลัยหัวหนานอับอายขายหน้าเท่านั้น!”
หวางเฉิงยังยิ้มเย้ยหยัน “นั่นสินะ ได้ยินมาว่าเป็นเพราะเขา ศาสตราจารย์เสิ่นเกือบจะล้มเลิกการมางานประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ด้วย”