แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 936
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 936
เทียบกับการกล่าวสุนทรพจน์ระดับอาจารย์ที่ปรึกษา การกล่าวสุนทรพจน์ระดับนักเรียน เหมือนกำลังทำเรื่องน่าอายชัดๆ
แม้การกล่าวสุนทรพจน์ของหมิงเจ๋อเซวียน ไม่มีข้อผิดพลาด แต่เป็นเพียงแค่การนำเอาเนื้อหาในหนังสือ มาพูดด้วยคำพูดของตัวเอง ไม่ต่างจากฟังตำราเรียน
แต่ถึงแม้เป็นแบบนี้ การแสดงออกของหมิงเจ๋อเซวียน ยังคงอยู่อันดับต้นๆ ในหมู่นักเรียนของโรงเรียนที่มีชื่อเสียง 29 แห่ง ส่วนหานทงโดนยกเลิกสิทธิ์การเข้าแข่งขัน ทำให้เหลือโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเพียง 29 แห่งจาก 30 แห่ง
งานประชุมแลกเปลี่ยนใช้เวลาเพียง 2 วันก็เสร็จสิ้นลง ในคืนวันเดียวกัน เหล่ากรรมการประกาศอันดับรายชื่อ
เฉินโม่อยู่ในอันดับที่หนึ่งในการกล่าวสุนทรพจน์ระดับอาจารย์ที่ปรึกษา หยางจื้อหนิงครองอันดับที่สอง
ส่วนผลคะแนนของหวางเฉิงได้ที่สองนับจากสุดท้าย ทำให้นักเรียนบางส่วนหัวเราะเยาะ นี่คือระดับปกติของมหาวิทยาลัยหัวหนาน
หวางเฉิงกับนักเรียนอีกสองสามคนอายจนหน้าแดง แทบอยากมุดดินหนีเข้าไป
แม้พวกหวางเฉิงแพ้แล้ว แต่ผลคะแนนของเฉินโม่ เพียงพอที่จะดูหมิ่นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงทั้งหมด เรียกได้ว่าครั้งนี้มหาวิทยาลัยหัวหนานลืมตาอ้าปากได้
ตอนคณะกรรมการประกาศผลคะแนน ศาสตราจารย์เสิ่นยิ้มไม่หุบ ขนาดพวกหวางเฉิงยังมีสีหน้าตื่นเต้น
นักเรียนและครูของมหาวิทยาลัยหัวหนาน รอคอยวันนี้มานานเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ และเป็นวินาทีที่มหาวิทยาลัยหัวหนานลบล้างความอับอายในงานประชุมแลกเปลี่ยนครั้งที่ 18 ด้วย
หากอาจารย์อาวุโสของมหาวิทยาลัยหัวหนานที่ล่วงลับไปแล้วรู้ เกรงว่าพวกเขาคงตื้นตันจนร้องไห้ขี้มูกโป่งทันที
หลังงานประชุมแลกเปลี่ยนสิ้นสุดลง พวกกรรมการสองสามคนรีบมาหาเฉินโม่ แสดงความหวังว่าเขาจะสามารถพูดคุยกับเฉินโม่เป็นการส่วนตัวได้
แต่จำนวนคนเยอะไปหน่อย ขนาดหยางจื้อหนิงก็มาร่วมวงด้วย
เรื่องที่รับปากไปแล้ว เฉินโม่จึงปฏิเสธยาก ตัดสินใจอยู่กับคนพวกนี้ เริ่มการสนทนาแลกเปลี่ยนรูปแบบเล็กๆ
ระหว่างนั้นเฉินโม่ได้บรรยายให้พวกเขาฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ชีวภาพบนดาวเคราะห์ที่มีเทคโนโลยีสูงดวงนั้น อีกทั้งยังตอบข้อสงสัยที่เหล่าศาสตราจารย์ถามทีละคน
เทคโนโลยีของดาวเคราะห์ดวงนั้น เหนือกว่าดาวไอกาหลายพันหลายหมื่นเท่า ข้อมูลความรู้ต่างๆ ก็ทิ้งห่างจากดาวไอกาแบบเยอะมาก คำตอบที่เฉินโม่อธิบายให้พวกเขาฟังทุกคำตอบ เพียงพอที่จะรวมเข้าไปในตำรา ถึงขนาดที่สามารถบันทึกลงหนังสือประวัติศาสตร์ได้ด้วย
แม้แต่หยางจื้อหนิงผู้ซึ่งเชี่ยวชาญด้านอณูชีววิทยา ก็ได้รับประโยชน์มากมายจากเฉินโม่ อีกทั้งยังประกาศกร้าวว่าอีกสองสามปี เขาจะมีผลวิจัยอย่างหนึ่งออกมาให้ทุกคนเห็น ต้องช็อกโลกแน่นอน!
จากการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ บุคคลอาวุโสในสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ได้รู้จักเฉินโม่ใหม่อีกครั้ง
ก่อนมาพวกเขาเห็นเฉินโม่เป็นคนรุ่นเดียวกัน แต่ตอนกลับ พวกเขาเห็นเฉินโม่เป็นรุ่นพี่ การกระทำและน้ำเสียงที่ใช้กับเฉินโม่ เหมือนที่ใช้กับรุ่นพี่
ภายใต้คำเชิญอย่างจริงใจของพวกศาสตราจารย์ เฉินโม่จึงเสียเวลาไปหนึ่งวัน หลังจากกลับมา ศาสตราจารย์เสิ่นกับเฉินโม่ปรึกษากัน ตัดสินใจพักที่นี่หนึ่งวัน จองตั๋วเครื่องบินของวันมะรืน
อันที่จริงศาสตราจารย์เสิ่นกะว่าจะพาคนกลับ หลังจากที่งานประชุมแลกเปลี่ยนสิ้นสุดลง แน่นอนว่าถ้าเฉินโม่ทำผลงานได้ไม่เลว เขาอาจคิดอยู่ต่อประมาณครึ่งวัน ให้เด็กพวกนี้เที่ยวที่ยานจิง
แต่เฉินโม่กลับได้อันดับหนึ่ง นี่ทำให้ศาสตราจารย์เสิ่นดีใจจนนอนไม่หลับ เขาอดดีใจไม่ได้ โทรหาผู้อำนวยการทันที
ผู้อำนวยการดีใจจนทำแก้วชาแตก และให้ศาสตราจารย์พานักเรียนเที่ยวที่ยานจิงหนึ่งวัน ให้เขาได้มีเวลาจัดงานเลี้ยงแสดงความยินดี
เมื่อพวกหวางเฉิงได้ยินว่าจะได้เที่ยวที่ยานจิงหนึ่งวัน ก็ดีใจมาก แต่เฉินโม่กลับไม่ได้รู้สึกอะไร ถึงขั้นที่มีความรู้สึกต่อต้านยานจิงเมืองหลวงของหัวเซี่ยอยู่เล็กน้อย
เพราะในชีวิตของเฉินโม่ ทุกครั้งที่มายานจิง มักจะเจอเรื่องไม่ค่อยดีครั้งหนึ่ง
เฉินโม่ปฏิเสธคำชวนของพวกหวางเฉิง พักอยู่ที่โรงแรมคนเดียว เทียบกับความวุ่นวายข้างนอก เฉินโม่ชินกับความสงบมากกว่า