แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 945
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 945
เฉินเข่อเอ๋อร์รีบพูดว่า “พี่เฉินโม่ รีบวิ่งสิ! ไม่งั้นพี่จะแพ้นะ”
เฉินโม่ยังพูดแบบไม่ตระหนกตกใจ “วางใจเถอะ ฉันบอกว่าชนะเขาได้ ก็ต้องชนะแน่นอน”
เฉินเข่อซินแสยะยิ้ม “หึ คุยโวโอ้อวดไม่กระดากอาย อีกเดี๋ยวถ้าแพ้ ฉันจะคอยดูว่านายจะจัดการยังไง!”
เมื่อหมิงเจ๋อเซวียนวิ่งได้รอบหนึ่งแล้วกลับมา เห็นเฉินโม่ยังอยู่ที่เดิม เขาหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “เฉินโม่ นายคงไม่ได้ขี่ม้าไม่เป็นเลยใช่ไหม”
“ดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ ค่อยยุ่งเรื่องคนอื่น” เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ แล้วแผดเสียงเบาๆ ว่า “ย้า!”
ม้าตัวที่เฉินโม่นั่งคร่อมอยู่ไม่ได้เรื่องจริงๆ ดูแข็งแกร่งมาก แต่เมื่อวิ่ง แย่กว่าม้าของหมิงเจ๋อเซวียนมาก
หมิงเจ๋อเซวียนนั่งอยู่บนม้า มองเฉินโม่ที่อยู่ด้านหลังเป็นระยะ แสยะยิ้มตลอด “ไอ้หมอนี่ ฉันบอกเขานายแล้วว่าม้าตัวนั้นไม่ได้เรื่อง เขาก็ไม่ยอมฟัง มาเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้ว”
เฉินเข่อเอ๋อร์ร้อนใจจนกระทืบเท้าอยู่กับที่ “โอ๊ย ฉันผิดเอง ม้าตัวนั้นไม่ดีจริงๆ ถ้าพี่เฉินโม่แพ้ เป็นเพราะฉันทำร้ายเขาแท้ๆ”
เฉินเข่อซินแสยะยิ้มพูดว่า “อย่าพูดไร้สาระ เพราะหมอนั่นหลงตัวเอง ไม่เกี่ยวกับเธอ ถ้าเขาแพ้ คอยดูได้เลยว่าฉันจะจัดการเขายังไง!”
เฉินเข่อเอ๋อร์มองเฉินเข่อซินอย่างน้อยใจ แล้วพูดเตือนว่า “พี่อย่าเอาแต่เล่นงานพี่เฉินโม่ได้ไหม อันที่จริงพี่เฉินโม่น่าสงสารมากนะ!”
“น่าสงสารเหรอ ยัยโง่ เธออย่าโดนคำพูดไพเราะแต่ไม่จริงใจของเขาหลอก เขาน่าสงสารที่ไหนกัน!” เฉินเข่อซินแสยะยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
พริบตาเดียว หมิงเจ๋อเซวียนวิ่งจบสองรอบแล้ว เพราะเฉินโม่ออกตัวช้า บวกกับม้าที่วิ่งช้า ตามหลังหมิงเจ๋อเซวียนอยู่หนึ่งรอบเต็มๆ
ระยะห่างหนึ่งรอบ ถึงเป็นนักขี่ม้าอันดับสุดยอดของโลก ก็ไม่มีทางตามทันแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นเฉินโม่ยังเป็นแค่มือใหม่ที่ไม่ชำนาญทักษะการขี่ม้าด้วย
“ไอ้หมอนั่นแพ้แน่นอน!” เพื่อนและลูกน้องของหมิงเจ๋อเซวียน ต่างมีสีหน้าได้ใจ ราวกับว่าเห็นผลแล้ว
เฉินเข่อซินก็แสยะยิ้มตลอดเวลา “น้องสาว หมอนั่นแพ้แน่นอน อีกเดี๋ยวเธอห้ามพูดแทรก ดูได้เลยว่าฉันจะจัดการเขายังไง!”
เฉินเข่อเอ๋อร์ทำปากจู๋ พูดด้วยใบหน้าดื้อรั้นว่า “พี่ ยังไม่ถึงช่วงสุดท้าย พี่อย่าด่วนสรุปมั่วๆ!”
เฉินเข่อเอ๋อร์หันกลับมา ใบหน้าเล็กที่งดงามของเธอ เต็มไปด้วยความแน่วแน่อย่างไม่เข้าใจ “ฉันเชื่อพี่เฉินโม่ เขาบอกว่าชนะ ก็ต้องชนะแน่นอน!”
เฉินเข่อซินส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ “น้องโง่ ดูเหมือนเธอหลงคำพูดไพเราะแต่ไม่จริงใจของเขาไม่เบาเลยนะ เขาตามหลังอยู่หนึ่งรอบเต็มๆ จะชนะได้ยังไง เว้นเสียแต่หมิงเจ๋อเซวียนหยุดอยู่กับที่ให้เขาไล่ตาม!”
เฉินเข่อซินเพิ่งพูดจบ ม้าตัวที่หมิงเจ๋อเซวียนคร่อมอยู่หยุดนิ่งอยู่กับที่จริงๆ
“ย้า!” ไม่ว่าหมิงเจ๋อเซวียนกระตุ้นเร่งยังไง ม้าตัวนั้นไม่ยอมก้าวไปด้านหน้าแม้แต่ก้าวเดียว สุดท้ายมันคุกเข่าลงบนพื้นตัวสั่นงันงก เหมือนเจออะไรที่น่ากลัวสุดขีด
“ไอ้ม้าเวรนี่เป็นอะไร!” หมิงเจ๋อเซวียนกลุ้มใจมาก ใกล้ถึงเส้นชัยแล้ว แต่ม้าตัวนี้กลับไม่วิ่งซะงั้น
เพื่อนกับลูกน้องของหมิงเจ๋อเซวียนมองจากไกลๆ พูดด้วยสีหน้าสงสัยว่า “ทำไมพี่หมิงไม่ขยับล่ะ อย่าบอกนะว่าเขาอ่อนให้เหมือนไอ้หมอนั่น”
อีกคนหนึ่งพูดว่า “ฉันว่าไม่น่าใช่ ดูเหมือนม้าของพี่หมิงมีปัญหา”
“ไม่น่าเป็นไปได้นะ พี่หมิงชำนาญเรื่องการเลือกม้ามาก เส้นทางแข่งสั้นขนาดนี้ ถึงเป็นม้าป่วยก็สามารถอดทนได้จนจบ!”
แต่การกระทำพูดได้ดังกว่าคำพูด ม้าของหมิงเจ๋อเซวียนหมอบลงกับพื้น ไม่ว่าหมิงเจ๋อเซวียนจะกระตุ้นยังไง ก็ไม่ขยับเลย
สาวน้อยเฉินเข่อเอ๋อร์ยิ้มจนตาหยี “พี่ พี่นี่เก่งจริงๆ เลย พี่พูดถูกด้วย ไอ้หมอนั่นหยุดอยู่ที่เดิมรอพี่เฉินโม่จริงๆ”