แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 972
เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนตกใจจนใบหน้าสวยซีดเผือด เคลื่อนไหวพละกำลังทั้งหมด ซัดหมัดใส่วิญญาณร้ายตัวนั้น แต่น่าเสียดายที่เหมือนโจมตีลงบนดอกฝ้าย ไม่มีผลอะไรเลย
พลั่ก!
วิญญาณร้ายตัวนั้นโดนหมัดของเฉินโม่ จนสะเทือนกระเด็นออกไป แต่ก็รีบกระโจนเข้ามาอีก
“หึ!”
เฉินโม่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว เข้ามาต่อสู้กับวิญญาณร้ายอย่างอุตลุด
ทั้งสองสู้กันไม่ยอมแยกออกจากกัน วิญญาณร้ายตัวนี้เหมือนกับที่เฉินโม่คิดไม่มีผิด ยังรักษาวิชาตอนมีชีวิตอยู่เอาไว้ พละกำลังแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์แดนมองขวัญมาก ภายใต้สถานการณ์ที่เฉินโม่ใช้เพียงพละกำลังของร่างกาย สามารถสู้กับเฉินโม่ได้อย่างสูสี
ทั้งสองสู้กันสิบกว่ารอบ หลังจากนั้นแยกออกจากกัน
วิญญาณร้ายตัวนั้นสู้ตั้งนานยังไม่ชนะ ยิ่งทำให้อารมณ์ร้อน หมอกสีดำรอบตัวยิ่งรุนแรงขึ้น
“อ๊ากๆๆๆ ฉันจะฆ่านาย!”
“หึ” เฉินโม่ส่งเสียงหึออกมาอย่างเย็นชา เขาพลิกมือ หยกแขวนชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นบนฝ่ามือเขา
ใส่พลังทิพย์เข้าไปในหยกแขวน ค่ายกลไฟแท้สมาธิถูกกระตุ้น
ฟู่ว!
ไฟลุกขึ้นมาบนหยกแขวน พุ่งเข้าไปหาวิญญาณร้ายอย่างรวดเร็ว
“อ๊าก!” วิญญาณร้ายตัวนั้นกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา ถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ไฟแท้สมาธิต่อต้านสิ่งชั่วร้ายโดยเฉพาะ แม้ตอนมีชีวิตอยู่วิญญาณร้ายตัวนี้ อาจเป็นผู้บำเพ็ญที่แข็งแกร่งมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าไฟแท้สมาธิ ทำได้แค่ล่าถอยกลับเท่านั้น
“ไป!” เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ พาเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนหันหลังเดินไปยังชั้นสาม
วิญญาณร้ายสูญเสียเป้าหมาย รีบย้ายสายตาไปที่ผู้อาวุโสสองสามคนตรงหัวบันไดทันที มันแผดเสียงออกมา แล้วกระโจนเข้าไปหาสองสามคนนั้น
“นี่มันหายนะที่คาดไม่จริงๆ!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งยิ้มอย่างขมขื่น
“จะสู้หรือจะหนี ทุกคนรีบคิดสิ” ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่ง ถามอย่างเคร่งขรึม
“หนีอยู่แล้ว! นายไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้เขาแข็งแกร่งขนาดไหน เราพ่นไฟไม่ได้นะ!”
เมื่อผู้อาวุโสคนนั้นพูดจบ ก็หันหลังหนี สองสามคนนี้เป็นปรมาจารย์แดนมองขวัญ ถ้าจะหนีจริงๆ วิญญาณร้ายก็ทำอะไรไม่ได้
เฉินโม่พาเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนขึ้นมาบนชั้นสาม เพิ่งขึ้นมา กลิ่นอายเศร้าและอ้างว้างมากมาย โถมเข้ามาใส่หน้า
เฉินโม่ไม่เป็นอะไร แต่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเกือบคุกเข่าลงบนพื้น หมอบกราบป้ายวิญญาณเหล่านั้น
เฉินโม่จับมือเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเอาไว้ ใส่พลังทิพย์เข้าไป เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนจึงรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
เฉินโม่เดินช้าๆ มองป้ายวิญญาณเป็นแถวๆ แม้ผ่านไปหลายปีแล้ว รอยอักษรบนป้ายวิญญาณเหล่านี้ยังชัดเจนเหมือนเดิม
“อานหลิงเทียน อานฉิงเทียน อานพั่วเทียน อานป้ายเทียน……”
สิ่งที่น่าเสียดายคือ นอกจากป้ายวิญญาณพวกนี้แล้ว ไม่มีสิ่งของที่เฉินโม่ต้องการเลย
แค่ชื่อพวกนี้ เฉินโม่ไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย
“เฉินโม่ พวกนี้น่าจะเป็นคนตระกูลเดียวกัน ชื่อพวกเขาคล้ายกันมาก!” เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเอ่ยขึ้น
“อืม ตอนนั้นที่นี่คงเป็นเจดีย์วิญญาณของตระกูลอาน แต่ไม่แน่ใจว่าตระกูลอานเป็นตระกูลแบบไหน” เฉินโม่เสียดายเล็กน้อย ถ้าหาเบาะแสเจอที่นี่ บางทีอาจรู้ว่าในยุคที่ไกลแสนไกล ดาวไอกาเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ฉันว่าตระกูลอานต้องเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งมาก ขนาดวิญญาณร้ายเมื่อกี้ยังแข็งแกร่งขนาดนั้น ตระกูลนี้ต้องไม่ต่างกันเท่าไรแน่นอน!” เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างจริงจัง
เฉินโม่พยักหน้า “เธอวิเคราะห์ถูกต้องมาก ตระกูลอานไม่ธรรมดามาก แต่นั่นเป็นเรื่องในอดีต เราไปกันเถอะ!”
ในเจดีย์วิญญาณ ไม่มีของจำพวกสมบัติล้ำค่า ยาวิเศษ บางทีอาจจะมี แต่คงมีคนชิงเอาไปก่อนตอนที่เขาซูคงเปิด
นักบู๊กลุ่มแรกที่เข้าไป ล้วนตายฟรี
เฉินโม่พาเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนออกจากเจดีย์วิญญาณ ไม่ได้ฆ่าวิญญาณร้ายตัวนั้น ในเมื่อเขามีสติปัญญาแล้ว ก็คงเป็นคนที่มีโชค เฉินโม่ไม่เข่นฆ่าตามใจชอบ
แต่เฉินโม่คงคิดไม่ถึงแน่นอน เพราะความเมตตาของเขา กลับสร้างศัตรูตัวฉกาจให้เขา
เมื่อมาถึงข้างนอก ผู้อาวุโสคนนั้นรีบถามเฉินโม่ “ได้อะไรบ้างไหม”
เฉินโม่ส่ายหน้า “เป็นป้ายวิญญาณคนตายทั้งนั้น ไม่มีของที่ใช้ประโยชน์ได้เลย”
“ไม่เป็นไร เดินไปข้างในต่อ ต้องเจอของดีแน่นอน” ผู้อาวุโสยิ้มบางๆ ปลอบใจเฉินโม่
เฉินโม่ไม่ได้ตอบ พูดกับเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนว่า “ไปกัน”