แดนนิรมิตเทพ - บทที่1329
จูเทียนเหลียงสีหน้าดูไม่จืด ตั้งแต่เขาเกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกปากเชื้อเชิญคนอื่น แต่กลับถูกปฏิเสธต่อหน้าผู้คน
เด็กลูกน้องที่ยืนข้างหลังจูเทียนเหลียงคนหนึ่งกระโดดออกมา ชี้หน้าเฉินโม่ตวาดใส่ไปว่า “ไอ้เด็กน้อย ขนาดนายน้อยตระกูลฉันยังกล้าปฏิเสธ ฉันว่าหัวสมองแกนี่ท่าจะโดนลาโง่กระทืบใส่แล้วมั้ง!”
ก็ขนาดลูกน้องของจูเทียนเหลียง ก็ยังรับไม่ได้กับพฤติกรรมของเฉินโม่
เฉินโม่ยืนเอามือไพล่หลัง มองไปที่ทุกคน แต่ในสายตาว่างเปล่า คนเหล่านี้ไม่มีทางจะเข้าไปอยู่ในสายตาเขาได้เลย
“ทำไมฉันจะปฏิเสธไม่ได้?” เฉินโม่ย้อนถามเสียงชืด ๆ
ใช่สิ ทำไมจะปฏิเสธไม่ได้?ไม่มีใครกำหนดว่าต้องไปเอาใจจูเทียนเหลียง การไร้ความอยากใคร่ย่อมแข็งกล้า นี่คงจะเป็นความคิดแบบเฉินโม่
“ไอ้สาม กลับมา!แค่พวกมดปลวก ทำไมจะต้องไปยุ่งกับมัน!” จูเทียนเหลียงพูดอย่างเหยียด ๆ ในน้ำเสียง เย้ยหยันไปสุด ๆ
ในเวลานั้นเอง มีคนโพกผ้าปิดหน้าแปดคนถลันเข้ามาในทันใด พวกนี้ยังมีปืนอยู่ในมือด้วย
“ห้ามขยับ คุกเข่าลงกับพื้นทั้งหมด!” มีคนหนึ่งชูปืนขึ้นตวาดใส่
“อ๊ะ!”
พวกเศรษฐีอิทธิพลเหล่านี้ตกใจร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
เพิ่งจะได้ยินประกาศแจ้งว่าเรือสำราญนี้ได้ออกพ้นเขตแดน เข้าสู่น่านน้ำสากลแล้ว พวกโจรสลัดเหล่านี้ก็ได้บุกขึ้นมา เห็นชัดได้ว่ามีการวางเป้าหมายจ้องมาที่เรือสำราญลำนี้ไว้ก่อนแล้ว
จูเทียนเหลียงที่เพิ่งวางมาดข้าใหญ่คนเดียว ตกใจกุมหัวหดคลานลงไปอยู่กับพื้น
นอกจากเฉินโม่ คนที่อยู่ทั้งหมดต่างเอามือกุมหัว นั่งยองอยู่กับพื้น
“ไอ้หนู มึงแม่งเบื่อโลกแล้วหรือไง?พ่อสั่งให้มึงนั่งลงได้ยินหรือเปล่า!” คนปิดผ้าคลุมหน้าคนหนึ่งตะคอกใส่อย่างเดือดดาล ก้าวยาวเดินเข้าหาเฉินโม่
ผู้หญิงคนที่นั่งยองกับพื้นคนนั้น แอบดึงกระตุกขากางเกงเฉินโม่ “คนกล้าไม่เสี่ยงกับสถานะที่เสียเปรียบ พวกมันต้องการแต่ทรัพย์สิน อย่าไปแหย่พวกมัน”
เฉินโม่ไม่ขยับ แต่กลับจ้องไปที่โจรโพกผ้าปิดหน้าที่ก้าวมาอย่างรวดเร็ว พูดเสียงเยือกไปว่า “ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ฉันไม่เคยก้มตัวลงให้กับใครมาก่อน!”
เหล่าบรรดาเศรษฐีอิทธิพลมองไปที่เฉินโม่ สายตาเหมือนอารมณ์ที่ใช้มองพวกคนหน้าโง่
“ไอ้เด็กน้อยนี่ท่าจะบ้าแล้วมั้ง?ไอ้พวกนี้มันพวกโจรปล้นนะ ไม่ใช่จูเทียนเหลียง มันไม่คิดจะมีชีวิตแล้วมั้ง!”
“มิน่าเมื่อกี้นี้ถึงได้กล้ากระทบกระทั่งกับจูเทียนเหลียง ที่แท้เป็นคนบ้า!”
จูเทียนเหลียงก็แอบมองไปที่เฉินโม่ แววตาแสดงออกด้วยความประหลาดใจ “รนหาที่ตาย!”
“ไปตายซะ!” เจ้าโจรคนนั้นเข้าไปถึงข้างตัวเฉินโม่ เงื้อพานท้ายปืนขึ้น กระแทกใส่ลงหัวเฉินโม่อย่างแรงในทันที
“ว๊าย!”
พวกผู้หญิงตกใจกรีดร้องกันขึ้นมา พวกหล่อนยังไม่เคยเห็นการฆ่ากันมาก่อน
ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เฉินโม่ ก็ได้แต่ส่ายหัว คิดอยู่แต่ในใจว่า “ดูท่าแล้วที่เราเห็นคงเป็นภาพหลอน ที่แท้เขาก็แค่เพียงคนประเภทระห่ำบ้า!”
โจรคนนั้นฟาดปืนลงไป ไม่เห็นเฉินโม่มีปฏิกิริยาใด ๆ มือข้างหนึ่งกลับล็อกอยู่ที่คอหอยของโจรคนนั้น ยกจนตัวลอยขึ้นสูง ก็เหมือนกับหิ้วไก่ขึ้นมา เบา ๆ สบาย ๆ
นี่มัน……..
ทุกคนต่างตาโตปากอ้าค้าง
“เขา ทำได้ยังไงนั่น!”
“ปล่อยพี่น้องของกูลง!” หนึ่งในกลุ่มโจรพวกนั้นตะคอกมาเสียงลั่น อีกหลายคนต่างหันกระบอกปืนเล็งไปที่เฉินโม่ เตรียมพร้อมยิงได้ทันที
เฉินโม่กวาดสายตามองไปที่ทุกคน สุดท้ายลงหยุดที่จูเทียนเหลียง
“ตอนนี้ ฉันจะให้พวกคุณได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่ามดปลวก!”
พูดจบ เฉินโม่ออกแรงใส่ไปอย่างเฉียบพลัน เสียงใสชัดของกระดูกแตกหักดังขึ้น เจ้าโจรคนนั้นคอพับห้อยลง จบชีวิตไปเดี๋ยวนั้น!
“ฆ่ามัน!” หัวหน้าโจรคำรามลั่นด้วยความโกรธแค้น ปืนak47หลายกระบอกพ่นเป็นไฟแลบขึ้นพร้อมกัน ตับ ตับ ตับ ตับ ลูกกระสุนดั่งห่าฝนสาดเข้าใส่เฉินโม่
“อ๊ะ!” ทุกคนต่างก็ตกใจหลับตาปี๋ ไม่อยากมองเห็นภาพเฉินโม่ตัวพรุนเป็นตะแกรง
เสียงปืนหยุดลงอย่างรวดเร็ว ในห้องโถงเงียบสงบอย่างน่าประหลาด
ทุกคนลืมตาขึ้น ที่เห็นนั้นคือเฉินโม่ไม่มีบาดแผลใด ๆ ยังคงยืนนิ่งสบาย ๆ อยู่กับที่ มือก็ยังไพล่หลังอยู่
เหล่าโจรทั้งหลายตกใจกันกลืนน้ำลายกันแทบไม่ทัน โจรคนหนึ่งในกลุ่มถามขึ้นอย่างกลัวสุด ๆ ว่า “แก เป็นคนหรือผีนี่?”