แดนนิรมิตเทพ - บทที่1335
“นินจาชั้นล่างเท่ากับนักบู๊แดนนอกของหัวเซี่ยของพวกคุณ นินจาชั้นกลางเทียบเท่ากับนักบู๊แดนใน นินจาชั้นสูงเทียบเท่ากับปรมาจารย์ นินจาขั้นพิเศษเทียบเท่ากับว่าที่ปรมาจารย์ขั้นเทพ นินจาดินคือผู้แข็งแกร่งขั้นเทพ สำหรับนินจาฟ้าส่วนตัวฉันเองก็ไม่รู้แล้ว”
“ทว่า ฉันรู้อยู่ว่าผู้สืบทอดของยากิวยิโตะดาบเดียว ยากิวยิโตะคนปัจจุบัน ได้บรรลุขั้นนินจาดินตั้งแต่เมื่อสิปีที่แล้ว ถ้าถามว่าในประเทศต้าเหอมีใครจะเป็นนินจาฟ้าได้ ก็คงจะต้องเป็นยากิวยิโตะ”
เฉินโม่มองไปที่โอคาโมโตะ เมอิจิ คิดทบทวนนัยในคำพูดของเขา
ถ้านินจาดินเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งขั้นเทพในโลกบู๊หัวเซี่ย แล้วนินจาฟ้าจะเทียบเท่ากับแดนไหน?
ดูท่าว่าในโลกบู๊ของหัวเซี่ยที่เหนือขึ้นไปกว่าขั้นเทพ จะต้องมีแดนขั้นที่สูงขึ้นไปอีก
เฉินโม่มองหน้าโอคาโมโตะ เมอิจิ พูดเสียงชืด ๆ ว่า “ถ้าพูดเช่นนี้ คุณคือนินจาดิน?”
โอคาโมโตะ เมอิจิ ผงกหัว “ถูกแล้ว เป็นมาตั้งแต่สามปีที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถก้าวทะลวงขึ้นไปอีกได้ ไม่แน่ว่าการต่อสู้กับเจ้าในครั้งนี้ จะช่วยให้ฉันทะลวงผ่านได้”
“ฉะนั้น ฉันมุ่งมั่นรอที่จะต่อสู้กับเจ้า เฉินไต้ซือ!”
“ได้!”
โอคาโมโตะ เมอิจิหายตัวไปทั้งเงาทั้งร่างจากที่เดิม ดูเหมือนกลืนไปกับอากาศ
เฉินโม่ตื่นกลัวเล็กน้อย “ถึงขนาดหลบเลี่ยงจากจิตทิพย์ของเราเองได้เลยหรือนี่?วิชาเร้นกายของซามูไรประเทศต้าเหอ มีความไม่ธรรมดาอยู่จริง ๆ ”
โอคาโมโตะ เมอิจิสามารถหลอกสายตาของเฉินโม่ได้ สามารถหลบพ้นจิตทิพย์ของเฉินโม่ได้ แต่ว่าหนีไม่พ้นกฎเกณฑ์ฟ้าดินได้
เฉินโม่ยื่นมือวาดแนวรูปร่างพิสดารในความว่างเปล่ากลางอากาศ นั้นคือวิชากำหนดเขตหวงห้ามในวงกว้างอันเป็นวิชาต้องห้ามของตำราอู่สิง
ห้าธาตุของฟ้าดิน วิชาเร้นกายของซามูไรประเทศต้าเหอพวกนี้ แท้ที่จิงก็อาศัยหลักพลังห้าธาตุ แปรสภาวะพลังของตัวเองกลายไปป็นสภาพของธาตุใดธาตุหนึ่ง หลบออกจากสายตาฝ่ายตรงข้าม
แน่นอนว่า พลังของตัวเองยิ่งเก่งกาจเท่าไหร่ การเร้นกายก็จะยิ่งจะหลบพ้นสายตาคนได้มากยิ่งขึ้น เหมือนการเร้นกายของผู้แข็งแกร่งขั้นพิเศษอย่างโอคาโมโตะ เมอิจิ ก็ถึงขนาดสามารถหลบพ้นจิตทิพย์ของเฉินโม่ไปได้
“ขังไว้!”
เฉินโม่ตวาดเบา ๆ รูปภาพของค่ายกลที่ลี้ลับถูกเขาโยนขึ้นไปบนอากาศ พริบตานั้นความเป็นฟ้ากับดินผสมผสานกลมกลืนเข้ากัน
ไฟเรืองแสงแวบผ่าน ฟ้าดินเหมือนวูบมืดลงไป ทำให้เงาร่างของคนชุดดำค่อย ๆ ปรากฏขึ้น
โอคาโมโตะ เมอิจิ ในขณะนั้น ยังคงอยู่ในท่ากำหมัดพุ่งไปข้างหน้า ยังอยู่ห่างอีกสามเมตร ก็จะอัดใส่ลงตรงชายโครงของเฉินโม่แล้ว
แต่ว่า ตอนนี้เอง เขาชะงีกหยุดการจู่โจม
“เจ้าทำลายวิชาเร้นกายของฉันได้!” โอคาโมโตะ เมอิจิสะท้านใจกลัวออกให้เห็นอย่างที่สุด
เฉินโม่ไม่ตอบ เพราะความเป็นจิงมีให้เห็นอยู่แล้ว
“วิชาเร้นกายของฉันแม้แต่ยากิวยิโตะยังทำลายไม่ได้ ฉันถึงแม้ว่าไม่มีความอัจฉริยะด้านบู๊สูงกว่าเขาได้ แต่ทางด้านวิชาเร้นกายนี้ ฉันสูงกว่าเขามีแต่เหนือไม่ด้อยกว่าเขา”
โอคาโมโตะ เมอิจิแหงนหน้า ถอนหายใจตัดพ้อไปกับฟ้าว่า “คิดไม่ถึงจริง ๆ เจ้าถึงขนาดทำลายวิชาเร้นกายของฉันได้!”
“วิชาเร้นกาย ทางช่องน้อยแค่นั้นเอง เจ้าไปงมงายในด้านนี้ แล้วจะไปขึ้นเหนือชั้นกว่ายากิวยิโตะได้ยังไง?” เฉินโม่พูดเสียงเรียบ ๆ
“อย่าทำให้เสียเวลาฉันเลย เร่งสู้ให้จบ ๆ ไปให้เร็ว ๆ!”
เฉินโม่พูดจบ กระบี่สับสวรรค์ใหญ่ขึ้นในทันใด ฟันใส่ไปที่หัวโอคาโมโตะ เมอิจิ
โอคาโมโตะ เมอิจิพลิ้วตัวถอยไปอย่างรวดเร็ว พูดเสียงทุ้มหนัก “ถึงแม้ฝีมือด้านบีของฉันจะไม่ได้อย่างยากิวยิโตะ แต่ก็ไม่ใช่เจ้าจะดูหมิ่นได้”
พูดจบ มีดดาบซามูไรเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของโอคาโมโตะ เมอิจิ สองมือของเขากุมมีดดาบเงื้อขึ้นสูง ตวาดเสียงลั่น ฟันเข้าใส่กระบี่สับสวรรค์ของเฉินโม่ไปอย่างดุดัน
“ว้าก!”
เสียงสนั่นดังลั่นกับโลหะแกร่งกระทบกัน กระบี่สับสวรรค์ถูแรงกระแทกกระเด็นกลับไป แต่โอคาโมโตะ เมอิจิก็ถูกกระเด็นกลับไป หยุดอยู่ที่อีกฟากถนนปูหินกรวดนั้น