แดนนิรมิตเทพ - บทที่1346
หลังจากรวมพลังทิพย์เสร็จแล้ว อยากที่จะยกไปอีกขั้นก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากแล้ว แม้ว่าเรื่องนี้สำหรับเฉินโม่แล้วมันคือการทำใหม่อีกครั้ง แต่ระหว่างนั้นมันก็ยังมีความอันตรายอยู่เช่นกัน
ขอเพียงระวังไม่พอ ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้จะสูญเปล่า
ดีที่เฉินโม่ได้เตรียมการล่วงหน้าหมดแล้ว ในขณะที่ชี่ทิพย์ในฟ้าดินไม่สามารถส่งต่อเนื่อง หินทิพย์สามสิบก้อนที่หมุนอยู่รอบเหนือศีรษะของเฉินโม่ก็จะเกิดประโยชน์อย่างมหาศาล
หินทิพย์สามสิบหกก้อน ช่วยส่งพลังทิพย์สุดท้ายให้กับเฉินโม่ในการยกอุปสรรค เพื่อให้เฉินโม่ผ่านด่านได้ในการใช้พลังเพียงครั้งเดียว
เฉินโม่และยากิวยิโตะที่นัดต่อสู้กันในวันที่สาม ตอนเช้าในเวลาแปดโมง
แสงรูปมังกรพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า และหายไปในพริบตา
อย่างไรก็ตาม มันถูกคนมากมายเห็นเข้าแล้ว
“นั่นคืออะไร?”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นโทเท็มของหัวเซี่ย มังกรที่เล่าขานกันในตำนาน!”
“มังกรของหัวเซี่ยทำไมถึงมาอยู่ที่ประเทศต้าเหอของเราได้ล่ะ? นายตาฝาดป่ะ!”
“นายสิที่ตาฝาด มังกรตัวใหญ่ขนาดนั้นนายไม่เห็นเหรอ?”
“อย่าเถียงกันเลย พวกนายไม่เห็นเหรอ มังกรตัวนั้นมันบินออกมาจากโรงแรมปิงเซียงเก๋อนะ?”
“ก็โรงแรมที่มีเมฆดำอยู่บนดาดฟ้าเมื่อสองวันก่อนไง?”
“ใช่ๆ”
“หรือว่าสิ่งที่เหนือธรรมชาติสองวันก่อนมากับมังกรตัวนี้?”
“ฉันว่ามีความเป็นไปได้นะ”
“เฉินไต้ซือนัดต่อสู้กับยากิวยิโตะ จากนั้นมังกรในตำนานจากโทเท็มของจีนก็มาอยู่ที่ประเทศต้าเหอของเรา ทั้งสองอย่างนี้จะมีความเกี่ยวข้องกันมั้ย?”
“ใครจะไปรู้”
ยากิวยิโตะนั่งอยู่ในลานบ้าน กำลังเช็ดดาบยาวที่อยู่ในมือของเขา
เห็นแสงรูปมังกรที่พุ่งทะยานไปบนท้องฟ้า แววตาของยากิวยิโตะก็เกิดความสงสัย “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพลังบำเพ็ญของเฉินไต้ซือเพื่อจะสำเร็จล่ะ?”
แม้ว่ายากิวยิโตะจะเป็นอันดับหนึ่งในโลกฝึกบู๊ ตอนนี้เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเฉินโม่นั้นยังกันแน่
การที่จะฝึกพลังบำเพ็ญให้สำเร็จคนเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาสามวันมั้ง!
ถ้าอย่างนั้นก็ล้มเหลวไปนานแล้ว หรือคงสำเร็จไปนานแล้ว แต่ใช้เวลาสามวันถึงฝึกสำเร็จ มันหมายความว่าไง?
ยากิวยิโตะนั้นเข้าใจพลังวิชาของโลกฝึกบู๊เหมือนกัน แต่สถานการณ์อย่างเฉินโม่เขายังไม่เคยเห็นมาก่อน
“ช่างเถอะ เฉินไต้ซือแปลกมากขนาดนี้ ตั้งหน้าตั้งตารอการต่อสู้ของวันนี้ดีกว่า!”
ในห้อง ในที่สุดเฉินโม่ก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว
“แดนรวมพลังชั้นแปด!”
เฉินโม่พ่นลมหายใจออกมา มังกรทองสองตัวในดวงตาก็ยิ่งตัวก็ใหญ่ยิ่งขึ้น และเวลาเคลื่อนไหวของมันก็นานกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า
“เวลาใกล้เคียงกับที่ฉันคาดการณ์ไว้ พอดีกับเวลาที่นัดต่อสู้กับยากิวยิโตะ”
ได้ยินเสียงของการเคลื่อนไหว เล่หรูหั่วที่รออย่างกระวนกระวายนานแล้วได้มาเคาะประตูเฉินโม่อย่างร้อนใจ “เฉินโม่ วันนี้เป็นวันที่นายนัดหมายไว้กับยากิวยิโตะ นายไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
เฉินโม่ฟังออกถึงน้ำเสียงที่ความกังวลของเล่หรูหั่ว เขาแค่สะบัดมือ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก
เล่หรูหั่วที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ยืนมองเฉินโม่อยู่ตรงหน้าประตูอย่างเงียบๆ
อาจเป็นเพราะเฉินโม่เปิดประตูอย่างกะทันหัน เล่หรูหั่วมีความลนลานเล็กน้อย และถามด้วยสายตาที่หลบเลี่ยง “นายขังตัวเองอยู่ในห้องมาสามวันแล้ว นายไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
เล่หรูหั่วตื่นตระหนก “มันเรื่องอะไรกัน ทำไมฉันเห็นสายตาของเฉินโม่แล้วมีความรู้สึกใจร้อนจนอยากจะช่วยเขาทำทุกอย่าง?”
“ฉันเป็นอะไรเนี่ย?”
เฉินโม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง ประโยชน์ของการฝึกวิชามังกรขึ้นสวรรค์ได้ค่อยๆปรากฏขึ้นแล้ว เล่หรูหั่วนั้นถูกครอบงำด้วยพลังมังกรบนตัวของเขา จึงไม่กล้าที่จะสบตากับตัวเขา
“ฉันไม่เป็นไร ก็แค่ยกพลังบำเพ็ญได้บ้างแล้ว ทำให้เป็นเป็นห่วงแล้ว” เฉินโม่พยายามกดทับพลังที่อยู่ในร่างกาย เพื่อไม่ให้เล่หรูหั่วได้รับผลกระทบ
“นายยกพลังบำเพ็ญได้แล้วเหรอ?” เล่หรูหั่วพูดอย่างตื่นเต้นดีใจ
เฉินโม่พยักหน้า “อืม”
“ดีมากเลย วันนี้นายต่อสู้กับยากิวยิโตะ ก็มีโอกาสในการชนะเพิ่มขึ้นล่ะสิ!” เล่หรูหั่วพูดอย่างดีใจ
เฉินโม่ไม่ได้ตอบ ลุกขึ้นแล้วพูดกับเล่หรูหั่ว “ไปเขาฟู่ถุกันเถอะ”
“อืม”