แดนนิรมิตเทพ - บทที่1356
ทุกครั้งที่ทั้งสองออกหมัด จะมีเสียงเสียดสีขนาดใหญ่กลางอากาศ และทุกครั้งที่หมัดตัดกัน จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง
มันเหมือนระเบิดนิวเคลียร์รูปร่างมนุษย์สองลูก พวกมันรุนแรงและน่าสะพรึงกลัว
ในประเทศหัวเซี่ย ที่รัฐสภา
เจียงเหอซานกับผู้บังคับบัญชาดูภาพถ่ายทอดสดการต่อสู้ของทั้งสองผ่านจอมอนิเตอร์
ตอนนี้มันแทบมองไม่เห็นแล้ว เหลือเพียงจุดสีดำจุดสีขาวสองจุดที่เคลื่อนไหวอย่างว่องไวบนจอ
“ความสามารถของประเทศต้าเหอคนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ สามารถสู้กับเฉินโม่ได้อย่างดุเดือด” ผู้บังคับบัญชาพูดอย่างราบเรียบ
“ประเทศต้าเหอแม้จะเล็ก แต่ทุกคนล้วนฝึกยุทธ์ นักบู๊มากมายมีหัวใจที่มั่นคงในการฝึกฝน เมื่อเทียบกับนักบู๊ของโลกฝึกบู๊ในหัวเซี่ยแล้ว มีเจตนาที่บริสุทธิ์กว่า อย่างไรก็ตามโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ยก็เคยมีคนที่ปล่อยวางทุกอย่างเพื่อตามหาการฝึกเพียงอย่างเดียวเช่นกัน เพียงแต่ป่ามันใหญ่ก็เลยมีนกหลายประเภท ทำให้นักบู๊ที่เจตนาไม่ดีบางส่วน ทำโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ยเสื่อมเสียชื่อเสียง” เจียงเหอซานกล่าว
ค่ายทหารในยานจิง หน่วยรบพิเศษศึกมังกร
ชายวัยกลางคนในชุดจงซานสีดำ ที่ใบหน้าเข้มขรึม กำลังดูคลิปที่ถูกส่งมาจากทางโทรศัพท์
ด้านข้าง ยังมีชายสวมชุดทหารสิบกว่านาย
“หัวหน้าครับ หัวหน้าว่าเฉินไต้ซือจะชนะมั้ย?” ชายที่หางตามีรอยแผลเป็นถามอย่างเสียงดัง
ชายวัยกลางคนส่ายหัว “เฉินไต้ซือไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด ยากิวยิโตะก็เช่นกัน ดังนั้นยังดูไม่ออกว่าใครแพ้ใครชนะ!”
“หัวหน้า ถ้าหากให้หัวหน้าไป หัวหน้ามั่นใจที่จะชนะยากิวยิโตะมั้ย?” ชายคนนั้นถามอย่างยิ้มๆ
ชายวัยกลางคนส่ายหัว “เขาสองคนฉันไม่สามารถชนะได้สักคน”
“เป็นไปได้ไง? หัวหน้าเป็นถึงเทพสงครามยานจิงเลยนะ หัวหน้า ตอนนี้เราจะมาถ่อมตัวไม่ได้นะ? ลูกน้องกำลังฟังอยู่นะ?” ราวกับว่าจะไม่สามารถรับคำพูดของหยางติ่งเทียนได้ ชายหนุ่มคนนั้นพูดอย่างร้อนใจ
หยางติ่งเทียนมองเขา สีหน้าเรียบเฉย “ความจริงก็เป็นแบบนี้ โม้ไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร?”
“เส้นทางของการฝึกบู๊ ต้องมีหัวใจที่แน่วแน่ ตอนนี้ฉันได้ออกจากความตั้งใจเดิมแล้ว และหันมาทำงานให้กับประเทศ เป็นเรื่องปกติที่ความสามารถของฉันจะสู่คนอื่นไม่ได้
ชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกแล้ว ผ่านไปครู่หนึ่ง เขามองหยางติ่งเทียน แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ “หัวหน้า แม้ว่าหัวหน้าจะไม่ใช่นักบู๊ที่เก่งที่สุด แต่หัวหน้าเป็นทหารที่เก่งที่สุดในบรรดานักบู๊!”
หยางติ่งเทียนหัวเราะ “พูดได้ดีมาก เราไม่ใช่นักบู๊ที่เก่งที่สุด แต่เราเป็นทหารที่เก่งที่สุดในบรรดานักบู๊”
ชายสิบกว่าคนในห้องโถงก็หัวเราะอย่างเสียงดัง
จนกระทั่งเสียงหัวเราะของทุกคนหยุดลง น้ำเสียงที่แผ่วเบาของหยางติ่งเทียนก็ดังขึ้น “แม้ว่าฉันจะชนะเขาไม่ได้ แต่ฉันสามารถฆ่าเขาได้!”
ทันใดนั้น สีหน้าของทุกคนก็ปรากฏขึ้นด้วยความตกใจ!
การต่อสู้ของเฉินโม่กับยากิวยิโตะได้มาถึงช่วงที่ดุเดือดที่สุดแล้ว และการเคลื่อนไหวของทั้งสองคนก็ช้าลงเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม พลังของการโจมตีแต่ละครั้งนั้นรุนแรงกว่าเดิม
บนยอดเขาฟู่ถุ เสียงดังสนั่นไม่มีที่สิ้นสุด ท่วงท่าการต่อสู้ของทั้งสองไม่ได้มีกฎเกณฑ์ใดๆแล้ว เหลือเพียงการปะทะกันของพละกำลังเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ถึงตอนนี้แล้ว ทั้งสองคนก็ยังคงไม่เปิดเผยท่าไม้ตายของตัวเอง
หลังจากออกหมัดหนักอีกครั้ง ทั้งสองก็แยกจากกัน และได้หยุดการโจมตีกันเหมือนรู้กันทั้งสองฝ่าย
ทั้งสองคนห่างกันสิบเมตร ยืนอยู่ตรงข้ามกัน
ลมแรงได้พัดเสื้อผ้าและผมของคนทั้งสองปลิวไหว แรงลมที่โดนหน้าคนจนเจ็บ
ยากิวยิโตะมองเฉินโม่ แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “เฉินไต้ซือ คุณไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ”
เฉินโม่ก็มองยากิวยิโตะเช่นกัน พูดอย่างราบเรียบ “คุณก็เช่นกัน คุณเป็นนักบู๊ที่เก่งที่สุดจากที่ผมเคยเจอ”
ดูจากท่าทางแล้ว ทั้งสองมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันจริงๆ
ยากิวยิโตะแหงนหน้ามองฟ้า ทันใดนั้นก็ถอนหายใจไปหนึ่งที “ถ้าหากคุณเกิดในประเทศต้าเหอ เราจะสามารถเป็นเพื่อนประลองฝีมือกัน และเรียนรู้แลกเปลี่ยนกันได้ทุกวัน น่าเสียดายที่คุณเป็นคนของหัวเซี่ย น่าเสียดายจริงๆ!”
เฉินโม่ไม่ได้พูดอะไร มองยากิวยิโตะอย่างเงียบๆ จากคำพูดของเขา เฉินโม่ฟังออกถึงความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ได้