แดนนิรมิตเทพ - บทที่1401
ชายวัยกลางคนนั้นยิ้มเยาะ “ก็แค่ศิษย์ที่ทรยศของโลกบู๊โบราณอย่างพวกแก ก็คู่ควรต่อสู้กับพวกเราด้วยเหรอ!รีบส่งของที่อยู่บนตัวของพวกแกออกมาสักดีๆ ฉันอาจจะพิจารณาให้พวกแกตายอย่างไม่ทรมาน!”
“ฝันไปเถอะ!” ผู้หญิงคนนั้นตะโกนพูดอย่างโกรธเคือง
“ฮึ่ม ปากแข็งนัก เดี๋ยวจะจับตัวเธอ ให้เธอเรียกพวกเราว่าพี่ชายที่น่ารัก ฮ่าๆ………” คนของโลกบู๊โบราณต่างก็หัวเราะ แววตาที่มองผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยประกายไฟที่ร้อนแรง
“ไอ้เดรัจฉาน!” ศิษย์พี่ของผู้หญิงคนนั้น โกรธจนลูกตาแทบจะถลนออกมา “ศิษย์น้อง รีบหนีไปก่อน เราจะสู้กับพวกมันเอง!”
“ศิษย์พี่สบายใจได้เลย ต่อให้ต้องตาย ฉันไม่มีทางที่จะให้พวกมันหยามหรอก!” หญิงสาวมองคนของโลกบู๊โบราณโกรธจนหน้าแดง ดวงตาที่สวยงามเกือบจะพ่นไฟออกมา
“ไม่ต้องพูดมากกับพวกมันแล้ว ฆ่าผู้ชายสองคนนั้นซะ เหลือผู้หญิงเอาไว้!” ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างชั่วร้าย ทุกคนก็บุกเข้าไปในทันที
เฉินโม่เฝ้ามองดูอย่างเงียบๆ เดิมเขาไม่คิดที่จะออกโรงช่วย เขาเคยเห็นการฆ่ากันแบบนี้มากนักต่อนักแล้ว
อย่างไรก็ตาม เฉินโม่ทนดูไม่ไหวแล้วจริงๆ กับการกระทำชั่วๆของพวกโลกบู๊โบราณ
เฉินโม่ไม่ได้พูดแม้แต่คำเดียว ได้เดินเข้าไปท่ามกลางในวงต่อสู้
ทั้งสองฝ่ายตกตะลึงกับเฉินโม่โผล่เข้ามาอย่างกะทันหัน ทำได้เพียงหยุดการต่อสู้ไว้ชั่วคราว
“ไอ้หนุ่ม แกเป็นใคร? คิดอยากจะทำอะไร”! ชายวัยกลางคนของโลกบู๊โบราณคนนั้นพูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึม
เฉินโม่หันหน้ามองไปทางเขา แล้วชี้มือออกไป หน้าผากของชายวันกลางก็เป็นรูในทันที มีเลือดไหลออกมา
“ศิษย์พี่ใหญ่!” คนที่เหลือมองเฉินโม่อย่างหวาดกลัว ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเขานั้นมีพลังบำเพ็ญแดนในชั้นสูงสุด แต่เฉินโม่สามารถฆ่าศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเขาได้ในพริบตา ความสามารถต้องอยู่ในระดับแดนปรมาจารย์ขึ้นไปอย่างแน่นอน
แต่เห็นเฉินโม่ที่อายุยังน้อย มากสุดอายุไม่เกินยี่สิบปี ไม่รู้ว่าเป็นอัจฉริยะของสำนักไหน!”
“ไสหัวไป!” เฉินโม่พูดคำนี้ออกมาอย่างเย็นชา พลังกดขี่ที่แฝงไว้ด้วยพลานุภาพมังกร ทำให้คนของโลกบู๊โบราณที่เหลืออยู่ ตกใจจนต้องไปคลานอยู่บนพื้น
“ปรมาจารย์ไว้ชีวิตด้วย ปรมาจารย์ไว้ชีวิตด้วย!” คนของโลกบู๊โบราณที่คุกเข่าอยู่บนพื้นอกสั่นขวัญแขวน โขกหัวขอร้องให้เฉินโม่ไว้ชีวิตอย่างไม่อยู่
“ไสหัวไป!” เฉินโม่คิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะไร้ประโยชน์มากขนาดนี้ แค่พลานุภาพอันน้อยนิดนี้ก็สามารถทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะวิ่งหนี
“ขอบคุณปรมาจารย์ ขอบคุณปรมาจารย์!” ทุกคนโขกหัวอีกครั้ง จากนั้นก็หนีออกไปอย่างน่าสังเวช แม้แต่ศพของศิษย์พี่ใหญ่ก็ไม่มีคนสนใจเลย
และศิษย์พี่น้องสามคนนั้นก็รีบคุกเข่าให้กับเฉินโม่ คารวะแล้วพูด “ขอบคุณปรมาจารย์ที่ช่วยชีวิต!”
เฉินโม่หันหลัง มองมาที่ทั้งสามคน “พวกนายมาตามหาจวนน้ำแข็งเหรอ?”
ทั้งสามคนมองสบตากันแวบหนึ่ง แล้วพยักหน้า “ปรมาจารย์มีบุญคุณช่วยชีวิตพวกเรา เราไม่กล้าโกหกปรมาจารย์ พวกเรานั้นมาตามหาจวนน้ำแข็ง อยากจะมาเสี่ยงโชคดู”
“พวกนายก็แค่พลังบำเพ็ญแดนใน ต่อให้สามารถเข้าไปในจวนน้ำแข็งก็คงไม่มีประโยชน์อะไร เก็บชีวิตไว้บำเพ็ญเพียรต่อเถอะ!” เฉินโม่พูดจบ ก็หันหลังเดินจากไป
“ผู้อาวุโส ช้าก่อน!” หญิงสาวคนนั้นเรียกเฉินโม่เอาไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความแน่วแน่
“ยังมีเรื่องอะไร?” เฉินโม่หันไปมองหญิงสาวคนนั้น
“ผู้อาวุโส ถ้าหากคุณกำลังตามหาจวนน้ำแข็ง บางทีเราอาจจะช่วยคุณได้!” หญิงสาวพูดจบ ศิษย์พี่ทั้งสองคนของเธอต่างก็ตกใจ “ศิษย์น้อง เธอ………”
เฉินโม่จ้องมองเธอไปแวบหนึ่ง คนที่เหลือไม่กล้าพูดเลยแม้แต่คำเดียว
เฉินโม่มองหญิงสาวแล้วพูดขึ้น “เธอมีความสามารถแค่แดนใน มีสิทธิ์อะไรมาช่วยฉัน?”
ศิษย์พี่ทั้งสองเอาแต่ส่ายหัวให้เธอ หญิงสาวพูดขึ้น “ศิษย์พี่ทั้งสองคะ ผู้อาวุโสเป็นผู้มีคุณที่ช่วยชีวิตพวกเรา และไม่เรียกร้องให้เราตอบแทน ฉันรู้สึกว่าผู้อาวุโสคนนี้เป็นคนที่เชื่อถือได้ ของสิ่งนั้นเก็บไว้ที่พวกเรา มีแต่จะนำความหายนะมาให้เรา ไม่สู้เอาให้ผู้อาวุโสคนนี้ไปจะดีกว่า หวังว่าผู้อาวุโสจะพาเราเข้าไปในจวนน้ำแข็ง ด้วย และให้ผลประโยชน์แก่เราบ้างมันก็เพียงพอที่ทำให้เราได้ประโยชน์ไปทั้งชีวิตแล้ว”