แดนนิรมิตเทพ - บทที่1433
ผ่านไปอีกหนึ่งวัน ค่ายกลคงรากยังคงทำลายไม่สำเร็จ หลินว่านเหนียนเริ่มหงุดหงิดแล้ว
“ค่ายกลสับปะรังเคแค่อันเดียว เราใช้เวลาไปทั้งวันยังไม่สามารถทำลายมันได้เลย หากข่าวแพร่กระจายออกไปเราไม่ถูกหัวเราะกันหรือ!”
“วันนี้ทุกคนเพิ่มพลังเข้าไปอีก ต้องทำลายค่ายกลนี้ให้ได้!”
เพียงแต่ว่าค่ายกลของโลกบำเพ็ญเซียนมันเป็นสิ่งที่นักบู๊จะทำลายได้ง่ายๆเหรอ?
วันที่สอง หลินว่านเหนียนและพวกยังคงเสียแรงไปเปล่าประโยชน์
ในป่า หญิงชุดดำคนนั้นมองคนของนักบู๊โบราณ มีความไม่พอใจเล็กน้อย “ไอ้พวกไร้ประโยชน์ พรุ่งนี้เรามาช่วยพวกเขากันเถอะ!”
“ค่ะ คุณหนู!”
วันที่สาม หลินว่านเหนียนโกรธเหมือนกินรังแตนมา ตะโกนไปทางค่ายกลคงราก “เฉินไต้ซือ หากแน่จริงก็ออกมาสู้กับฉันสักตั้ง อย่าทำตัวเป็นเต่าหดหัวอยู่ข้างใน!”
เพียงแต่ว่าตอนนี้เฉินโม่กำลังทะลวงแดนอยู่ ไม่มีเวลาไปสนใจเขา
หลังจากที่ตะโกนไปหลายที ก็ไม่มีคนสนใจเขา หลินว่านเหนียนพูดกับเหล่านักบู๊อย่างขุ่นเคือง “โจมตี โจมตีต่อไป ฉันไม่เชื่อว่าว่าค่ายกลนี้จะมีพลังทิพย์มากพอที่จะมาเสียเปล่า!”
ที่ขอบของค่ายกล ผู้หญิงสองคนในชุดดำปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ที่ตรงนี้ค่อนข้างห่างไกลจากคนของในโลกบู๊โบราณ และพวกเขาไม่พบใครมายุ่งเกี่ยวกับที่นี่
“คุณหนู คุณมีวิธีทำลายค่ายกลมั้ยคะ?” หนึ่งในหญิงชุดดำถามขึ้น
“ต้องลองดูก่อน ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างไรก็ตามต่อให้ไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้ได้ มันก็สามารถย่นระยะเวลาให้มันสั้นลง เพื่อให้นักบู๊ไร้ประโยชน์พวกนั้นทำลายค่ายกลได้โดยเร็ว!” หญิงชุดดำอีกคนพูดอย่างเย้ยหยัน
“อืม”
หญิงในชุดดำพลิกฝ่ามือและหยิบค้อนไม้ขนาดเล็กที่มีแสงวิบวับออกมา
“คุณหนู มันคืออะไรคะ?”
หญิงชุดดำกล่าว “ค้อนทำลายค่ายกล ใช้มาทำลายฐานค่ายกลโดยเฉพาะ ตามฉันมา!”
ทั้งสองคนเข้าไปในค่ายกล เริ่มตามหาฐานค่ายกล
เอียนชิงเฉิงที่กำลังควบคุมค่ายกลอยู่ เห็นผู้หญิงชุดดำสองคนที่บุกเข้ามาในค่ายกลก็ตกใจ รีบแบ่งพลังออกมาทันที เพื่อให้ค่ายกลเริ่มการโจมตี
ในค่ายกล หญิงชุดดำสองคนมองพลังโจมตีที่แข็งแกร่งบนท้องฟ้า แววตามีความเย้ยหยัน
“การโจมตีแบบนี้ใช้กับนักบู๊พวกนั้นยังพอไหว อยากจะมาใช้กับฉัน มันห่างชั้นกันเกินไป”
เธอแค่สะบัดมือ การโจมตีของก้อนหินไฟก็หายไป หัวใจของเอียนชิงเชิงจมดิ่งลง เธอมองออกถึงความสามารถของผู้หญิงคนนี้ มันไม่ธรรมดาเลย ถึงขนาดที่ฝีมือวิธีการกลอุบายยังมีคล้ายกับของเฉินโม่เลย
เอียนชิงเฉิงยังอยากที่จะโจมตีต่อ แต่เธอเชี่ยวชาญเพียงระดับแรกของวิธีโจมตีค่ายกลห้าธาตุกลับหัว และเธอยังไม่ได้เรียนรู้วิธีโจมตีที่ดีกว่านี้ และด้วยพลังบำเพ็ญของเธอ ก็ไม่สามารถใช้วิธีการโจมตีที่สูงกว่านี้ได้
ในค่ายกล หญิงชุดดำคนหนึ่งเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ากำลังหาอะไรอยู่
“ฐานของค่ายกลห้าธาตุกลับหัวส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในแหล่งพลังรวมของห้าธาตุ แม้ว่าค่ายกลนี้จะแตกต่างจากค่ายกลห้าธาตุกลับหัวอยู่บ้าง แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลุดออกจากพันธนาการของค่ายกลห้าธาตุได้ เธอช่วยไปหาในส่วนที่มันแตกต่างจากค่ายกลหน่อย”
“ค่ะ คุณหนู!”
ทั้งสองคนค้นหาในค่ายกลอย่างไม่ยอมหยุด เอียนชิงเชิงได้โจมตีไปหลายครั้ง หญิงชุดดำยังคงสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายๆ
ดังนั้น เอียนชิงเชิงก็ไม่โจมตีอีกต่อไป แต่พยายามมาควบคุมค่ายกลเพื่อขัดขวางนักบู๊ของโลกบู๊โบราณ
ซังซังซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง มองผู้หญิงชุดดำสองคนที่เคลื่อนไหวผ่านหน้าจอ และถามอย่างไม่เข้าใจ “คุณหนูคะ พวกเขากำลังมองหาอะไรในค่ายกลคะ?”
เอียนชิงเฉิงส่ายหัว “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าในใจฉันมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี เกรงว่าสอนคนนี้จะมาทำลายแผนการที่อาจารย์วางเอาไว้!”