แดนนิรมิตเทพ - บทที่1447
ได้ฟังคำพูดของเฉินเยว่แล้ว เฉินกั๋วเหลียงยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ “มิน่าล่ะพวกแกถึงได้กล้าฆ่าคนและแย่งสำนักของคนอื่นในเวลากลางวันแสกๆ ที่แท้ก็เป็นพวกไม่มีขื่อมีแป วันนี้ฉันจะเป็นตัวแทนของหัวเซี่ย ลงโทษพวกแกเอง!”
“ไอ้แก่เอ๊ย ดูเหมือนแกเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ!” ชายหนุ่มชุดขาวพูดอย่างขุ่นเคือง “ลุยเลย!”
“ครับ!”
นักบู๊สิบกว่าคนก็กระโจนเข้าไปในทันที ได้ล้อมรอบเฉินกั๋วเหลียงเอาไว้
“คุณปู่รอง ระวังตัวด้วย!” เฉินเยว่พูดอย่างเป็นห่วง
“เยว่เอ๋อร์ เธอติดตามปู่เอาไว้นะ ดูสิว่าวันนี้ฉันจะสั่งสอนพวกคนโอหังนี่ยังไง!” เฉินกั๋วเหลียงตะโกนพูดอย่างขุ่นเคือง
เฉินกั๋วเหลียงต่อสู้เป็นครั้งแรก อดไม่ได้ที่จะลนลานเล็กน้อย แต่ความโกรธของเขาได้เจือจางความกลัวในใจของเฉินกัวเหลียงไปมาก
“ฆ่าพวกมัน!” คุณชายของตระกูลหยู หยูจุนโม่คำรามเสียงดัง
“ลุย!”
นักบู๊สิบกว่าคนลุยไปข้างหน้า พุ่งโจมตีเฉินกั๋วเหลียงกับเฉินเยว่
นักบู๊เหล่านี้ล้วนเป็นนักบู๊แดนใน มีสองสามคนที่เป็นแดนในชั้นสูงสุด หากตอนที่เฉินกั๋วเหลียงเพิ่งมาถึง แล้วถูกคนมากขนาดนี้โจมตี บางทีอาจจะทำอะไรไม่ถูก
แต่ยังดีที่ได้ลองเชิงฝีมือกับสามคนนั้นก่อนแล้ว เฉินกั๋วเหลียงถือว่ามีประสบการณ์จริงแล้วบ้าง ตอนที่ต่อสู้กับคนพวกนี้ จึงผ่อนคลายไปไม่น้อย
ปรมาจารย์กับแดนใน แม้จะห่างชั้นกันแค่แดนเดียว แต่พลังนั้นห่างกันเหมือนฟ้ากับดิน แม้ว่าเฉินกั๋วเหลียงจะขาดประสบการณ์การต่อสู้จริง แต่ก็ไม่ใช่คนที่นักบู๊แดนในจะสามารถเอาชนะได้
ในไม่ช้า นักบู๊พวกนี้ก็ถูกเฉินกั๋วเหลียงทำร้ายจนล้มอยู่บนพื้น นอนอยู่บนพื้นและร้องอย่างโหยหวน
ใบหน้าของเฉินกั๋วเหลียงแดงเล็กน้อย อย่างไรเสียเป็นครั้งแรกที่ต่อสู้กับคนเยอะขนาดนี้ และพลังงานในร่างกายของเขาก็หมดลงเล็กน้อย
แต่ว่าเฉินกั๋วเหลียงสัมผัสได้ถึงความสะใจที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อเทียบกับร่างกายที่แก่หง่อมอย่างเมื่อก่อน ร่างกายตอนนี้ดีกว่าไม่รู้กี่เท่า!
มองพวกนักบู๊ที่ร้องโหยหวนอยู่บนพื้น เฉินกั๋วเหลียงก็พูดอย่างเย็นชา “ครั้งนี้ก็ถือเสียว่าเป็นการสั่งสอนพวกแก ถ้าหากยังกล้าทำชั่วอีก ฉันจะจับพวกแกเข้าคุกให้หมด!”
หยูจุนโม่โกรธจนหน้าบูดบึ้ง มองลูกน้องที่อยู่บนพื้น พูดอย่างเย็นชา “ไอ้พวกไร้ประโยชน์ แม้แต่ตาแก่คนเดียวก็สู้ไม่ได้ ฉันจะมีพวกแกไว้ทำไม?”
“ไอ้แก่เอ๊ย แกอย่าโอหังให้มันมากนะ ฉันจะจัดการแกเอง!” หยูจุนโม่คำรามเสียงดัง แล้วชกหมัดไปทางเฉินกั๋วเหลียง
หยูจุนโม่ก็มีพลังของแดนปรมาจารย์ และเข้าสู่แดนแปรเทพนานกว่าเฉินกั๋วเหลียงมาก ความสามารถก็เลยแข็งแกร่งกว่าเฉินกั๋วเหลียงเล็กน้อย
อีกอหย่างหยูจุนโม่เกิดและเติบโตที่โลกบู๊โบราณ และเป็นอัจฉริยะที่ตระกูลหยูทุ่มเททรัพยากรในการฝึกฝน ไม่เช่นนั้นด้วยอายุของเขาก็คงจะไม่มีทางถึงปรมาจารย์แดนแปรภาพ
ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ด้านการต่อสู้ หรือประสบการณ์ด้านอื่นๆก็มากกว่าเฉินกั๋วเหลียง เฉินกั๋วเหลียงแม้จะสามารถสู้เสมอเขาในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถ้าสู้กันนานขึ้นเรื่อยๆเฉินกั๋วเหลียงต้องแพ้อย่างแน่นอน
เฉินเยว่มองเห็นถึงจุดนี้อย่างชัดเจน และร้อนใจอย่างมาก แต่เธอก็ไม่มีวิธีอื่น ทำได้เพียงมองดู
หยูจุนโม่ก็มองเข้าใจในจุดนี้เช่นกัน และเชื่อมั่นอย่างมาก หัวเราะพูด “ไอ้แก่เอ๊ย วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ตายใต้กระบี่เล่มนี้!”
หยูจุนโม่ดึงกระบี่ออกมาจากเอว แสงกระบี่เย็นยะเยือก แค่ดูก็รู้ว่าไม่ธรรมดา
เฉินกั๋วเหลียงไม่ได้มีอาวุธเลย เมื่อกี้ทั้งสองล้วนใช้หมัดในการต่อสู้ เขายังสามารถสู้สูสีกับหยูจุนโม่ ตอนนี้หยูจุนโม่ดึงกระบี่ออกมา ใช้กระบวนท่าที่พิเศษ เฉินกั๋วเหลียงก็ต้านไม่ไหวในทันที แล้วพ่ายแพ้ในที่สุด
เฉินกั๋วเหลียงถูกกระบี่ของหยูจุนโม่สับจนต้องถอย มองหยูจุนโม่ตกใจกลัว “ไอ้หนุ่ม ถือว่านายเก่ง วันนี้ฉันแพ้แล้ว!”
“อย่างไรก็ตาม นายอย่าเพิ่งได้ใจไป รอให้ฉันกลับเอาอาวุธมาก่อน แล้วค่อยมาสู้กับนาย!” เฉินกั๋วเหลียงพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
เฉินเยว่ที่สีหน้าหมดคำพูด คุณปู่คิดว่านี่การหารือเรื่องศิลปะการต่อสู้เหรอ แพ้แล้วก็อยากจะไปเลย ก็ไม่ถามคนอื่นว่าจะเห็นด้วยหรือเปล่า!