แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1083 ดูกล้ามท้องผมสิ! / บทที่ 1084 หม่อมฉันทำไม่ได้
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1083 ดูกล้ามท้องผมสิ! / บทที่ 1084 หม่อมฉันทำไม่ได้
บทที่ 1083 ดูกล้ามท้องผมสิ!
กงซวี่ร้องโวยวาย พี่เยี่ย ผมแย่กว่าลั่วเฉินตรงไหน ปกติผมก็ออกกำลังกายเป็นประจำเถอะ พี่ดูกล้ามท้องผมนี่ ดูกล้ามท้องผม!
เอ่ยจบ กงซวี่ก็ถลกเสื้อขึ้น แล้วโชว์ให้เยี่ยหวันหวั่นดูกล้ามหน้าท้องเล็กๆ อันภาคภูมิใจของเขา
เยี่ยหวันหวั่นปากกระตุกอย่างเอือมระอา จงใจพูดกระตุ้นโทสะเขา แค่นี้ก็คิดว่าเจ๋งแล้วเหรอ? กล้ามหน้าท้องนายน่ะ สู้ลั่วเฉินตอนที่ยังไม่เคยฝึกกับศิลปะการต่อสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ!
กงซวี่ได้ยินอย่างนั้นก็เดือดทันที อะไรนะ! พี่เคยเห็นของลั่วเฉินด้วยเหรอ! เมื่อไหร่! ที่ไหน! เจ้าหมอนี่! ฉวยโอกาสตอนฉันไม่อยู่เล่นตุกติกจริงๆ ด้วย! เกินไปแล้ว!
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก… หมอนี่หลงประเด็นไปไหนแล้ว…
ลั่วเฉินเองก็หมดคำพูดเหมือนกัน
ลั่วเฉินขยับออกห่างเขาเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากถูกกงซวี่แพร่เชื้อไอคิวต่ำใส่
พอได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น ลั่วเฉินก็อดนึกถึงวันแรกที่เยี่ยหวันหวั่นรับเขาเข้าสังกัดอย่างเป็นทางการไม่ได้
ตอนนั้นพี่เยี่ยบอกให้เขาถอดเสื้อผ้าเพื่อดูหุ่นของเขา จะได้จัดตารางการออกกำลังกายให้เขาตามสภาพร่างกายของเขา ปรากฏว่าตอนนั้นเขากลับมองพี่เยี่ยด้วยจิตใจที่คับแคบ ถึงขั้นสงสัยว่าเขาเป็นเหมือนโจวเหวินปิน…
พอนึกมาถึงตรงนี้ ลั่วเฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขัดเขิน เขารู้สึกร้อนไปถึงใบหู
เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาขาวใส่กงซวี่ นั่นมันตั้งแต่ตอนที่ฉันเพิ่งรับลั่วเฉินเข้าสังกัดแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีนายซักหน่อย!
กงซวี่หลบไปนั่งเพาะเห็ดอยู่ตรงมุมกำแพงทันที ผมรู้อยู่แล้วว่าในใจพี่ผมไม่มีวันเทียบลั่วเฉินได้หรอก…เพราะเขามาก่อนผมเหรอ? เมื่อก่อนผมก็ไร้ที่พึ่ง ผมก็น่าสงสารเหมือนกันนะ! ทำไมต้องหมางเมินผมด้วย!
พอเห็นเจ้าหมอนี่เริ่มแสดงอีกแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็เตะเขาด้วยความหมั่นไส้ ลุกขึ้นมา! ถ้าปกตินายแสดงเก่งอย่างนี้ จะชวดรางวัลราชาจอเงินไปได้เหรอ?
กงซวี่ได้ยินก็ตาเป็นประกาย โอ๊ย พี่เยี่ย ผมรู้อยู่แล้วว่าพี่ยังเห็นแววในตัวผมอยู่! ด้วยทักษะการแสดงของผม เหมาะสมกับรางวัลราชาจอเงินเป็นที่สุด!
เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าเอือมระอา
เมื่อกี้เธอไม่ได้ชมเขาซักหน่อย
พัฒนาการสมองของเจ้าหมอนี่ต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ…
รายละเอียดการฝึกก่อนการถ่ายทำของกงซวี่กับลั่วเฉินมี การต่อสู้มือเปล่า การยิงปืน การใช้อาวุธ การกำจัดทุ่นระเบิด การกระโดดร่มเป็นต้น ขอบเขตการฝึกค่อนข้างกว้าง ถ้าหากพวกเขาสองคนตั้งใจฝึกฝนอย่างดี เท่านี้ก็มากพอที่จะใช้ประโยชน์ในการถ่ายทำแล้ว
เพราะเป็นวันแรก เยี่ยหวันหวั่นก็เลยไปกับพวกเขาด้วย
ไม่นาน ครูฝึกเหลยก็พาพวกเขาสามคนมาถึงสนามฝึกแห่งหนึ่ง
ตลอดทางกงซวี่รู้สึกแปลกใหม่กับทุกสิ่ง เขาเดินตามมาถึงสนามฝึกด้วยความตื่นเต้น
พอมาถึงที่หมาย ใบหน้าสดใสร่าเริงของกงซวี่ก็ซีดเผือดทันที…
เห็นเพียงข้างหน้ามีบ่อโคลนขนาดใหญ่อยู่หนึ่งบ่อ ด้านบนบ่อโคลนเป็นตาข่ายไฟฟ้า พวกพี่ชายทหารหลายสิบคนกำลังคลานไปข้างหน้าในบ่อโคลน แทบไม่เหลือสภาพเดิมแล้ว พอเงยหน้าขึ้นหน่อยก็โดนตาข่ายไฟฟ้าจนต้องร้องโอดโอย…
ตะ…ต้องท้าทายขนาดนี้เลยเหรอ?
กงซวี่ยกมือลูบทรงผมใหม่สีชมพูลูกพีช เสื้อสเวตเตอร์รุ่นลิมิเต็ด แล้วก็ผิวหน้าอันเนียนนุ่มและบอบบางของตัวเอง สองเท้าผงะถอยหลังโดยสัญชาตญาณ…
เยี่ยหวันหวั่นตาไว คว้าคอเสื้อของกงซวี่ไว้ได้ทัน จะหนีไปไหน?
พี่เยี่ย ผม…ผมว่าแค่แสดงหนัง…ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้มั้ง… กงซวี่สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของการฝึกโดยสัญชาตญาณทันที
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย ก่อนจะมานายบอกว่าเพื่อเสี่ยวมี่เจี้ยนให้บุกน้ำลุยไฟก็ยอมไม่ใช่เหรอ?
ก็ใช่ไง! ผมหมายถึงบุกน้ำลุยไฟ! ไม่ได้หมายถึงอย่างนี้ซักหน่อยนี่! กงซวี่เถียงอย่างเต็มปาก
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
……………………………………………………….
บทที่ 1084 หม่อมฉันทำไม่ได้
อ๊ากก! พี่เยี่ย ผมไม่ไปนะ ไม่เอา! พี่เชื่อในทักษะการแสดงของผม ถึงแม้ไม่ได้สัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง ผมก็ต้องแสดงได้ดีแน่นอน! กงซวี่พูดพลางพยายามเอี้ยวตัวหนีไปข้างหลัง
เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าเอือมระอา แม้แต่นักแสดงมืออาชีพก็ยังไม่กล้าพูดอย่างนี้เลย นายไปเอาความมั่นใจมาจากไหน? เพราะทักษะการแสดงของนายมันแย่เกินไป ฉันถึงได้ตั้งใจมานายมาที่นี่ นายต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มี เพื่อกลายเป็นทหารอย่างแท้จริง นายต้องฝึกจนไม่จำเป็นต้องแสดงอะไรเลย นายก็คือทหารคนหนึ่ง เข้าใจหรือเปล่า?
กงซวี่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ มะ…หม่อมฉันทำไม่ได้…
เยี่ยหวันหวั่นนวดหัวคิ้ว แล้วหันไปมองครูฝึกเหลยที่ยืนอยู่ด้านหนึ่ง ฉันขอคุยกับเขาแป๊บหนึ่งได้ไหมคะ?
ครูฝึกเหลยมองหน้าคุณชายผิวบอบบางอย่างกงซวี่ สีหน้าดูไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ได้ครับ
เยี่ยหวันหวั่นถมึงตาจ้องกงซวี่ นายมานี่ พวกเรามาคุยกันหน่อย
พี่เยี่ย พวกเรากลับไปคุยที่บ้านได้ไหม?
ไม่ได้!
ผมอยากกลับบ้าน…
เยี่ยหวันหวั่นพากงซวี่หลบไปที่มุมหนึ่ง
กงซวี่ ฉันถามนายนะ ทำไมนายถึงเข้าวงการบันเทิง? เยี่ยหวันหวั่นถาม
กงซวี่เม้มปากแล้วพูดเสียงเบา ทำไมอะไรกันล่ะ ก็แค่คิดว่ามันสนุกดี…
เยี่ยหวันหวั่นจ้องหน้าเขา เหมือนต้องการจะจ้องทะลุใจเขา
กงซวี่เหมือนคุณชายที่ไม่รู้จักกังวลอะไร แต่ความจริง สถานการณ์ทางบ้านของกงซวี่ซับซ้อนกว่าที่เห็น
พี่ชาย และน้องชายของกงซวี่ ล้วนเป็นลูกที่เกิดจากแม่เลี้ยงของเขา
แม่แท้ๆ ของเขาป่วยตายไปนานแล้ว จากนั้นผู้หญิงที่พ่อเขาเลี้ยงไว้นอกบ้านก็ขึ้นมาเป็นใหญ่ แล้วยังพาลูกชายที่อายุมากกว่ากงซวี่กลับมาด้วย ต่อมาหลังจากผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ในบ้าน ก็มีลูกชายให้พ่อเขาอีกหนึ่งคน ตำแหน่งของเธอจึงมั่นคงขึ้น
พี่น้องต่างแม่ของกงซวี่ทั้งสองคน คนหนึ่งช่วยพ่อดูแลบริษัท คนหนึ่งเป็นอัจฉริยะด้านการแพทย์ ต่างก็ได้รับความรักจากพ่อเขา มีแค่กงซวี่คนเดียวที่ทำตัวเป็นลูกผู้ดีมีเงิน สร้างเรื่องก่อปัญหาไปวันๆ พอเข้าวงการบันเทิงมาก็ไม่เอาจริงเอาจัง ไม่เคยสร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักครั้ง
ก่อเรื่อง สร้างปัญหา เข้าวงการบันเทิง เพียงเพราะต้องการความสนใจ และได้รับความรักเท่านั้นสินะ…
คนในวงการบันเทิงเห็นข่าวที่ตระกูลกงตัดหางปล่อยวัดเขา จึงไม่เกรงกลัวเขาอีก และเพราะรู้เรื่องภายในตระกูลกง รู้ว่าตอนนี้ตระกูลกงอยู่ในกำมือของแม่เลี้ยงและพี่น้องสองคนของเขา กงซวี่ถูกตัดออกจากครอบครัวไปแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นมองหน้าเขาด้วยสายตาคมปลาบเล็กน้อย ถ้างั้นนายตั้งใจจะเล่นแบบนี้ไปตลอดเหรอ? ใช่ ตอนนี้นายยังเด็ก ยังเล่นได้อยู่ ยังเต๊าะสาวได้อยู่ ถึงยังไงนายก็ไม่เคยจริงจังอยู่แล้ว แต่ถ้าหากวันหนึ่งนายเจอผู้หญิงที่นายชอบจริงๆ ล่ะ? นายจะบอกกับเธอว่ายังไง? นายจะปล่อยให้เธอค้นหาชื่อของนาย แล้วเจอแต่ประวัติแย่ๆ ของนาย เจอแต่ข่าวเสียๆ หายๆ ของนาย แล้วก็รูปข่าวซุบซิบเกี่ยวกับแฟนเก่านายงั้นเหรอ?
นิ้วมือของกงซวี่กำเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว ไม่ใช่ถ้าหาก…ผมมีผู้หญิงที่ชอบจริงๆ แล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ โอเค งั้นฉันขอถามนายอีกครั้ง นายมีแผนการใช้ชีวิตยังไง? ถ้าหากนายอยากเป็นแค่ไอดอลคนหนึ่งเฉยๆ นายก็ควรรักษาภาพพจน์ให้ดีตั้งแต่แรก จัดการชีวิตให้ดี ไม่ทำเรื่องที่ขัดกับภาพลักษณ์ของไอดอล แต่ตอนนี้ นายกลับทำเรื่องพวกนั้นจนครบแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นหยุดพูดเล็กน้อย จากนั้นก็พูดต่ออีกว่า ถ้าหากนายอยากเป็นนักแสดง งั้นนายก็ต้องงัดเอาความสามารถและความเป็นมืออาชีพของนายออกมา
กงซวี่จ้องมองสายตาคมปลาบของชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังตำหนิเขาอย่างรุนแรง ใบหน้าที่โดดเด่น รวมถึงสายตาที่จดจ่อและจริงจังยามมองหน้าเขา ไม่รู้ทำไม จู่ๆ เขาก็ร้อนไปทั้งตัว ใบหน้านวลขาวแดงผ่าวขึ้นเรื่อยๆ…
ซวยแล้ว! นี่เขาเปลี่ยนใจแล้วงั้นเหรอ…
…………………….