แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 955 วันนี้หล่อมาก / บทที่ 956 ผมให้คุณ
บทที่ 955 วันนี้หล่อมาก
ขณะเดียวกัน ในห้องพักที่สูงที่สุดของโรงแรม
การเค้นถามจากนรกยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
เนี่ยถังเซียวมองลอหน้าต่างออกไปยังกลุ่มคนที่พลุกพล่านข้างล่าง “สามคนนั้น คุณแม่ชอบใครมากที่สุด?”
เห็นได้ชัดว่า ‘สามคนนั้น’ ที่เขาพูดถึง น่าจะหมายถึงลั่วเฉิน กงซวี่ และหานเซี่ยนอวี่
ถังปินกับซ่งเฉียงกอดกันตัวกลม
อย่าถามอีกเลย!
พระเจ้าได้โปรดไว้ชีวิตด้วย พวกเรายังเป็นแค่เด็กอยู่เลย!
พวกเราไม่รู้อะไรทั้งนั้น…
“พวกนายสองคนเป็นอะไรไป?”
ตอนนี้เอง เยี่ยหวันหวั่นที่เสร็จธุระแล้วเปิดประตูเดินเข้ามา ปรากฏว่าเห็นถังปินกับซ่งเฉียงกำลังทำหน้าลนลานหวาดกลัว
“ปะ…เปล่าครับ…” สองคนนั้นไม่กล้าฟ้องอยู่แล้ว ทำได้เพียงถอยไปยืนเงียบๆ อยู่ด้านหนึ่ง
“แม่ครับ” เด็กน้อยเห็นเยี่ยหวันหวั่นก็รีบกระโดดลงจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปหาทันที ใบหน้าเปื้อนยิ้มอ่อนโยน ดวงตากลมโตเป็นประกายไหวระริกเล็กน้อย บนใบหน้าอ่อนเยาว์ยังปรากฏลักยิ้มตื้นๆ สองจุดอีกด้วย
ถังปินกับซ่งเฉียงถึงกับพูดไม่ออก…
พระเจ้า…ถ้าท่านทำอย่างนี้…หัวใจชองพวกเราจะรับไม่ไหวเอานะครับ…
“พี่ชาย…” เด็กน้อยเหมือนรู้ตัวว่าตัวเองเรียกผิด เลยรีบเปลี่ยนคำพูด
เยี่ยหวันหวั่นลูบใบหน้าที่งามเหมือนหยกสลัก “ไม่เป็นไร ตอนที่ไม่มีใครอยู่เรียกอย่างนี้ก็ได้!”
อย่าว่าแต่เรียก “แม่” เลย แม้เขาอยากได้ดวงดาวบนฟ้า เธอก็จะบินขึ้นไปสอยมาให้เขา!
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เสียงฝีเท้าวุ่นวายก็ดังมาจากข้างนอก เดาว่าพิธีข้างหน้าคงจบลงแล้ว คนอื่นเองก็ทยอยกลับมากันแล้ว
ผู้ช่วยเสี่ยวชิงกับบอดี้การ์ดสองคนขนช่อดอกไม้กับของขวัญกองใหญ่จากแฟนคลับเข้ามา ลั่วเฉินที่สวมเครื่องแบบทหารเพื่อให้เข้ากับการโปรโมทออกสื่อเดินตามหลังมา
ลั่วเฉินเป็นคนมีบุคลิกมาดเข้มอยู่แล้ว เวลานี้ท่าทางของเขาดูน่าเลื่อมใส ใส่ชุดเครื่องแบบทหารยืนหลังตรง สวมถุงมือสีขาว และรองเท้าหนังสีดำ บนเอวคอดบาง หัวเข็มขัดลายนกเหยี่ยวส่องประกายยามต้องแสงไฟ
การแต่งตัวอย่างนี้เหมาะกับบุคลิกของเขามากจริงๆ ไม่แปลกที่เมื่อกี้แฟนคลับข้างนอกถึงได้ตื่นเต้นและกรี๊ดจนคอแทบแตก
“พี่เยี่ย!” พอเข้ามา ลั่วเฉินก็เดินตรงมาหาเยี่ยหวันหวั่น แล้วหยิบกล่องๆ หนึ่งจากมือผู้ช่วยยื่นให้เยี่ยหวันหวั่น “พี่เยี่ย อันนี้พี่เอากลับไปลองดูเถอะ!”
“อันนี้คือ?” เยี่ยหวันหวั่นงุนงง
“เอาไว้ใช้นวดน่ะ ก่อนหน้านี้พี่ชอบบ่นว่าปวดกล้ามเนื้อเพราะออกกำลังกายมากไปไม่ใช่เหรอ? แฟนคลับผมให้เครื่องนวดผมมาอันหนึ่ง ผมลองใช้ดูแล้ว ไม่เลวเลยล่ะ เลยซื้อให้พี่เครื่องหนึ่ง” ลั่วเฉินบอก
เฮ้อ มีศิลปินที่ดูแลเอาใจใส่อยู่ในสังกัดช่างเป็นเรื่องโชคดีจริงๆ
“ก็ได้ งั้นฉันจะลองใช้ดู ขอบใจนะ!” เยี่ยหวันหวั่นเองก็ไม่เกรงใจ รับน้ำใจของเขาไว้ จากนั้นก็ตบไหล่ลั่วเฉิน พลางชมด้วยรอยยิ้ม “วันนี้หล่อมาก!”
ลั่วเฉินเก้อเขิน “ขอบคุณครับ…”
ข้างกายเยี่ยหวันหวั่น เนี่ยถังเซียวลอบสังเกตลั่วเฉินเงียบๆ มาโดยตลอด พอได้ยินคำว่า ‘วันนี้หล่อมาก’ ใบหน้าน้อยๆ ที่ไม่เคยปรากฏคลื่นอารมณ์อะไรเลย ก็พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พี่เยี่ย คนนี้คือ?” ตอนนั้นเอง ลั่วเฉินสังเกตเห็นเด็กชายตัวน้อยที่ยืนอยู่ข้างกายเยี่ยหวันหวั่น
“อ้อ ลูกของน้องชายฉันเอง พวกเขาไม่มีเวลาดูแล เลยฝากฉันเลี้ยงสักช่วงหนึ่ง!” เยี่ยหวันหวั่นอธิบายอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ก้มหน้า พูดกับเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ถังถัง ทักทายสิ”
เด็กน้อยเงยหน้าขึ้น “สวัสดีครับ พี่ชาย!”
“สวัสดี!” ลั่วเฉินทักทายด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่เคยเห็นเด็กหน้าตางดงามละเอียดอ่อนแบบนี้มาก่อนเลย เหมือนกับเดินออกมาจากภาพวาดอย่างไรอย่างนั้น
——————————————————-
บทที่ 956 ผมให้คุณ
เนี่ยถังเซียวเอียงคอ พิจารณาชายหนุ่มตรงหน้า
เบบี๋…สุดที่รักเหรอ?
ใช่คนนี้หรือเปล่านะ…
หรือว่าคุณแม่กับผู้ชายคนนี้ให้กำเนิดเขามา
เพราะถึงยังไงคนที่เยี่ยหวันหวั่นเลือกและฝึกมากับมือ ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว นิสัยก็ดีมากด้วย ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นดาราดังไปแล้ว และมีแฟนคลับนับไม่ถ้วน แต่กลับไม่ถือตัวเลยซักนิด
พอรู้ว่าเขาเป็นลูกของน้องชายเยี่ยหวันหวั่น ก็คุยกับเขาอย่างสนิทสนม แล้วยังเอาลูกอมให้เขากินอีก
เนี่ยถังเซียวรับลูกอมมา แล้วมองหน้าแม่ จากนั้นก็มองลั่วเฉิน พอเห็นสองคนมีท่าทางสนิทสนม พูดคุยกันอย่างถูกปากถูกคอเกี่ยวกับเรื่องงานและบทละคร เขาก็จมสู่ภวังค์ความคิด
ในตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าอีกระลอกดังมาจากหน้าห้อง
เห็นเพียงคนคนหนึ่งสวมชุดสูทลายสก๊อตสีขาวแนวย้อนยุคดูมีระดับ สาวเท้าเข้ามาช้าๆ พร้อมกับช่อดอกยิปโซสีม่วงสวยงามชวนฝันช่อโตในมือ ข้างหลังมีผู้ช่วยและชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นผู้จัดการของเขาเดินตามมา
ในมือของผู้ช่วยและผู้จัดการของเขาก็มีช่อดอกไม้และของขวัญจำนวนมากไม่ต่างกัน
ต่างจากบุคลิกเย็นชาของลั่วเฉิน คนคนนี้มีบุคลิกที่ทำให้รู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมและเข้าถึงง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
พอเห็นผู้มา เยี่ยหวันหวั่นก็ทักทายอย่างประหลาดใจ “เซี่ยนอวี่ นายเสร็จแล้วเหรอ เร็วขนาดนี้เชียว?”
นักข่าวปล่อยตัวเขาออกมาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?
หานเซี่ยนอวี่ยิ้มแล้วเดินมาหา “อื้ม เสร็จแล้ว โชคดีที่กงซวี่มาช่วย”
พูดจบ เขาก็ยื่นช่อดอกไม้ในมือมาตรงหน้า
เยี่ยหวันหวั่นมองช่อดอกไม้ที่ยื่นมาตรงหน้าตัวเอง กะพริบตาปริบๆ แล้วบอกว่า “เอ่อ ดอกยิปโซ…แฟนคลับให้นายมาเหรอ?”
หานเซี่ยนอวี่ยิ้ม แล้วบอกว่า “ไม่ใช่ ฉันเอาให้นาย ช่วงนี้นายเหนื่อยมามาก!”
เยี่ยหวันหวั่นยกมือทาบอกอย่างไม่ทันตั้งตัว “พ่อเทพบุตรของฉัน! ถ้าหากแฟนคลับนายรู้เข้า ต้องอิจฉาฉันตายแน่ๆ!”
เทพบุตร!
เนี่ยถังเซียวหูผึ่งทันที
หานเซี่ยนอวี่มองชายหนุ่มตรงหน้า แล้วบอกว่า “แฟนคลับเห็นพวกฉันเฉพาะเวลาอยู่หน้าม่านเท่านั้น แต่ไม่เป็นไร ความทุ่มเทของพวกนาย พวกฉันรู้ดีกว่าใคร”
เรื่องของสวีหลิน ตอนแรกเขานึกว่าจะไม่มีทางแก้ไขได้แล้ว เขาถึงขั้นเตรียมใจรับผลที่ร้ายแรงที่สุดไว้แล้ว แต่นึกไม่ถึง คนคนนี้กลับพาพวกเขาฟื้นคืนจากความตายได้อีกครั้ง
ตั้งแต่ที่เขารู้จักคนคนนี้ เขาก็สร้างปาฏิหาริย์มาโดยตลอด
ไม่ว่าในสายตาของคนภายนอก พวกเขาจะเปล่งประกายขนาดไหน แต่เขาต่างหากที่เป็นจิตวิญญาณที่แท้จริงของพวกเขา
เยี่ยหวันหวั่นรับดอกไม้ช่อนั้นไปอย่างหวงแหน “ไม่น่าล่ะพวกแฟนคลับถึงได้เรียกนายว่าเทวดา…”
หานเซี่ยนอวี่เป็นคนที่อบอุ่นมากจริงๆ!
เขาเป็นคนที่รอบคอบมากด้วย มักจะสังเกตเห็นความรู้สึกของคนรอบข้าง และสร้างความอบอุ่นให้พวกเขาได้เสมอ
หานเซี่ยนอวี่มองดูช่อดอกไม่สีม่วงอ่อนในอ้อมแขนของหญิงสาว แล้วก้มหน้าสูดดม…
แววตาอ่อนโยนของชายหนุ่มตอนก้มหน้า กลับทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ
ทั้งที่เป็นผู้ชายที่เด็ดขาดมากคนหนึ่ง แต่วินาทีนี้กลับทำให้เขารู้สึกอบอุ่นยิ่งกว่าหญิงสาว…
ขณะที่หานเซี่ยนอวี่กำลังเหม่อลอย จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสายตาที่แทบเรียกได้ว่าคมปลาบมองมาที่ตัวเอง พอหันไปมอง ก็เห็นเด็กผู้ชายหน้าตางดงามเหมือนหยกสลักยืนอยู่ข้างหลังเยี่ยไป๋
หานเซี่ยนอวี่ถามว่า “เยี่ยไป๋ นั่น…”
เด็กที่ไหนกัน?
“อ้อ นี่คือถังถัง เป็นลูกของเพื่อนฉัน…” เยี่ยหวันหวั่นแนะนำเหมือนที่ทำก่อนหน้านี้
เนี่ยถังเซียวยืนอยู่ข้างกายแม่ มองหานเซี่ยนอวี่ด้วยสายตาสำรวจ แววตาหวาดระแวงชัดเจนกว่าตอนที่เจอลั่วเฉินเมื่อกี้สิบเท่า!
………………………….