แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1045 ขนาดนี้แล้วยังทนได้อีกเหรอ บทที่ 1046 มีแต่ขยะทั้งนั้น
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1045 ขนาดนี้แล้วยังทนได้อีกเหรอ บทที่ 1046 มีแต่ขยะทั้งนั้น
บทที่ 1045 ขนาดนี้แล้วยังทนได้อีกเหรอ?
ฉินรั่วซี ซุนเสวี่ยเจิน แล้วยังมีซุนลี่จ้งที่เป็นผู้นำตระกูลของตระกูลซุน ต่างก็ตะลึงงัน สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ความสามารถของราชาหมาป่าเซนนี พวกเขารู้ดีที่สุด แต่อัจฉริยะแห่งวงการคาราเต้ของประเทศ R คนนี้ กลับกำราบราชาหมาป่าได้ในกระบวนท่าเดียว…
ยามาโมโตะเหวี่ยงเท้าเตะร่างของราชาหมาป่าออกไปไกลหลายเมตร
ซุนลี่จ้งรีบสั่งให้คนประคองราชาหมาป่าขึ้นมา
“อย่ารังแกคนอื่นให้มันมากนัก!”
คนของตระกูลซุนและตระกูลฉินสิบคน รีบล้อมยามาโมโตะทันที
“พวกขยะ…คนเยอะอีกแค่ไหน ก็เป็นขยะเหมือนกันหมด ใช่ไหมล่ะ?” ยามาโมโตะมองสิบคนรอบกาย แล้วพูดพร้อมหัวเราะหยัน
“จัดการ!”
หัวหน้าตระกูลฉินตวาดเสียงดัง โบกมือออกคำสั่ง จากนั้นก็พุ่งโจมตียามาโมโตะพร้อมกับอีกเก้าคน
แต่ทว่า ผ่านไปไม่นาน คนของตระกูลฉินกับตระกูบซุนทั้งสิบคนก็ถูกยามาโมโตะเหวี่ยงร่างออกไปตามๆ กัน
“นี่มัน…!”
ซุนลี่จ้งปากอ้าตาค้าง ไม่อยากเชื่อภาพที่เห็น
“ตัวแทนทั้งสามของตระกูลซุน ตระกูลฉิน แล้วก็ตระกูลซือ เข้ามาสิ”
ยามาโมโตะก้าวเท้าขึ้นบนเวทีประลอง แล้วใช้นิ้วมือสามนิ้วชี้ไปที่เยี่ยหวันหวั่น ฉินรั่วซี และซุนเสวี่ยเจินพร้อมกัน
ฉินรั่วซีกับซุนเสวี่ยเจินขมวดคิ้ว คนคนนี้แข็งแกร่งและน่ากลัว แม้แต่ราชาหมาป่าก็ยังพ่ายแพ้ให้กับเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเธอ…
“ทำไมล่ะ กลัวเหรอ…ถ้ากลัว พวกคุณจะมาพร้อมกันเลยก็ได้ ผมได้หมด ไม่อย่างนั้นถ้าผมต้องขึ้นไปเชิญด้วยตัวเอง วันนี้ผมอาจซ้อมพวกคุณจนตายไปเลยก็ได้” ยามาโมโตะกวาดตามองพวกเยี่ยหวันหวั่น แล้วแสยะยิ้ม
“นาย…!”
ซุนเสวี่ยเจินแววตาโกรธขึ้ง ทำท่าจะพุ่งตัวเข้าไป
แต่ฉินรั่วซีกลับห้ามซุนเสวี่ยเจินไว้ก่อน
“เสวี่ยเจิน อย่าวู่วาม…” ฉินรั่วซีขมวดคิ้ว
“รั่วซี พวกประเทศ R มาหาเรื่องถึงที่ขนาดนี้แล้วยังจะทนได้อีกเหรอ?!” ซุนเสวี่ยเจินพูดอย่างเดือดดาล
“เธอสู้เขาได้เหรอ?” ฉินรั่วซีย้อนถาม
ได้ยินอย่างนั้น ซุนเสวี่ยเจินก็พูดไม่ออก ความสามารถของคนคนนี้ ได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ตั้งแต่เมื่อกี้จนถึงตอนนี้
ด้วยความสามารถของซุนเสวี่ยเจิน แม้มีเธอสิบคนก็ยังสู้ยามาโมโตะไม่ได้
ถึงแม้ฉินรั่วซีกับซุนเสวี่ยเจินร่วมมือกัน ก็ไม่มีทางต้านรับกระบวนท่าของยามาโมโตะได้เกินสามสี่กระบวนท่าแน่นอน
“ทำไม จะไม่มาจริงๆ เหรอ?!” ยามาโมโตะหันไปมองพวกซุนเสวี่ยเจิน แล้วหัวเราะหยัน “ตระกูลซุนของพวกคุณ นี่มันหัวมังกุฏท้ายมังกรทั้งนั้น ผมท้าทายขนาดนี้แล้ว ก็ยังทนได้”
พอได้ยินประโยคนั้น ซุนเสวี่ยเจินก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอไม่สนใจการห้ามปรามของฉินรั่วซี รีบกระโดดขึ้นเวทีประลองทันที
พอเห็นอย่างนั้น ฉินรั่วซีก็ทำได้เพียงตามขึ้นไป
“อ้อ…ถือว่ายังมีความกล้าอยู่บ้าง” ยามาโมโตะพูดพร้อมรอยยิ้มหยัน
“ยามาโมโตะ นายอวดดีเกินไปแล้ว!” ซุนเสวี่ยเจินตะโกนเสียงเย็น
“เธอคิดว่าฉันอวดดีเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ใช้ความสามารถของเธอมาพิสูจน์สิ” ยามาโมโตะแค่นยิ้ม
“รนหาที่ตาย!”
ซุนเสวี่ยเจินตะโกนด้วยความเดือดดาล จากนั้นก็พุ่งตัวเข้าไปโจมตียามาโมโตะด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
พอเห็นอย่างนั้น ด้วยความจำใจ ฉินรั่วซีก็ทำได้แค่โจมตีตามไปด้วย
ยามาโมโตะยืนนิ่งอยู่บนเวทีประลอง ไม่ขยับเขยื้อน หยักยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน ปล่อยให้ซุนเสวี่ยเจินกับฉินรั่วซีโจมตีเขา เพียงยืนเอามือไพล่หลัง และเบี่ยงร่างหลบหลีกเบาๆ เท่านั้น
พริบตาเดียวก็ผ่านไปสิบกว่ากระบวนท่าแล้ว แต่กลับไม่อาจสัมผัสได้แม้แต่ชายเสื้อของยามาโมโตะ
พอเห็นอย่างนั้น ซุนลี่จ้งก็ขมวดคิ้ว ยามาโมโตะแข็งแกร่งเดินไป ฉินรั่วซีกับซุนเสวี่ยเจินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
“เนี่ยเหรอตัวแทนของสองในสามตระกูลใหญ่แห่งประเทศจีน…น่าผิดหวังจริงๆ ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนของพวกคุณ มีแค่พวกขยะ ไม่มีค่าให้พูดถึงเลยจริงๆ” ระหว่างหลบหลีก ยามาโมโตะก็พูดพร้อมกับถอนหายใจ
ยามาโมโตะพูดจบก็เหวี่ยงเท้าขวาออกไปอย่างรวดเร็วดุจลูกธนู เรี่ยวแรงมหาศาล จู่โจมฉินรั่วซีกับซุนเสวี่ยเจินในพริบตา
ร่างของทั้งสองกระเด็นออกจากเวทีประลองอย่างไม่อาจต้านทาน
————————————————————————————-
บทที่ 1046 มีแต่ขยะทั้งนั้น
“ขยะทั้งนั้น”
ยามาโมโตะไม่ชายตามองพวกเธอสองคนด้วยซ้ำ เขากวาดตามองทุกคน แล้วแค่นยิ้มอย่างเย้ยหยัน
ยามาโมโตะไม่เปิดโอกาสให้ใครได้พูด เขาหันไปมองเยี่ยหวันหวั่นที่นั่งอยู่บนที่นั่งคนดู แล้วพูดว่า “ตัวแทนตระกูลซือ คุณจะมาเอง หรือจะให้ผมไปหาถึงที่ดีล่ะ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เยี่ยหวันหวั่นกลับยังคงไม่แยแสยามาโมโตะ
ตอนนี้เอง เยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้นแล้วเดินลงจากที่นั่งคนดู แล้วหันไปมองผู้นำตระกูลซุน “ในเมื่อการประลองของสามตระกูลใหญ่จบลงแล้ว งั้นฉันขอตัวนะคะ”
ยามาโมโตะตั้งใจมาหาเรื่องตระกูลซุน เขาตั้งใจมาป่วนงานอย่างเห็นได้ชัด ความแค้นส่วนตัวของตระกูลซุน ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานประชุมศิลปะการต่อสู้ซักหน่อย
ซุนลี่จ้งหน้าเครียด ไม่ได้ตอบอะไร
“คุณมู่ ถ้ามีเวลาก็เชิญมาเป็นแขกที่ตระกูลซือสักครั้งนะคะ” เยี่ยหวันหวั่นหันไปทางมู่สุยเฟิงที่อยู่บนที่นั่งวีไอพี
“ได้ครับคุณหนูเยี่ย ไว้มีเวลาจะไปเยี่ยมแน่นอนครับ” มู่สุยเฟิงกล่าว
ได้ยินอย่างนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้า แล้วหันไปพูดกับบอดี้การ์ดทั้งห้าคนของตระกูลซือ “ไปกันเถอะ”
บอดี้การ์ดของตระกูลซือเดินตามหลังเยี่ยหวันหวั่น ตั้งท่าจะออกจากงาน
แต่ทว่า ในตอนนั้นเอง ยามาโมโตะกลับก้าวลงจากเวทีประลอง แล้วเดินมายืนขวางเยี่ยหวันหวั่น เขามองหน้าเยี่ยหวันหวั่น แล้วแค่นยิ้มหยัน “ตัวแทนตระกูลซือ…ดูเหมือนคุณคงจะเป็นขยะตัวแม่เลยสินะ?”
ได้ยินอย่างนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดคิ้วเบาๆ แล้วหันไปพูดกับยามาโมโตะว่า “ถ้างั้นคุณก็คงเป็นขยะที่น่ารังเกียจมาก”
“อ้อ…ในสายตาคุณ ผมก็เป็นขยะเหมือนกัน ใช่ไหม?” ยามาโมโตะพูดอย่างสนอกสนใจ
“รบกวนช่วยหลีกทางด้วย คนจีนเขาว่าไว้ เป็นหมาก็อย่าขวางทาง ไม่ทราบว่าคุณไม่เคยได้ยินมาบ้างเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
ซุนเสวี่ยเจินกับฉินรั่วซีมองเยี่ยหวันหวั่น ลอบหัวเราะเยาะในใจ ผู้หญิงคนนี้รนหาที่ตายจริงๆ ความน่ากลัวของยามาโมโตะคนนั้น พวกเธอสองคนสัมผัสมากับตัวแล้ว
ช่างไม่รู้จักกลัวซะบ้างเลย!
“ยามาโมโตะ คุณหนูคนนี้แม้จะเป็นตัวแทนตระกูลซือ แต่ก็เป็นแค่แฟนสาวของผู้นำตระกูลซือ ต่อสู้ไม่เป็น คุณอย่าไปหาเรื่องเธอเลย ปล่อยเธอไปเถอะ” ซุนลี่จ้งขมวดคิ้ว แล้วกล่าว
ที่นี่เป็นถิ่นของตระกูลซุน ถ้าหากเยี่ยหวันหวั่นเป็นอะไรไป เขาก็คงไม่รู้ว่าจะอธิบายกับตระกูลซืออย่างไร
“อ้อ…ต่อสู้ไม่เป็น แต่กลับได้เป็นตัวแทนของตระกูลซือ…ที่แท้ ก็เป็นผู้หญิงของเจ้าขี้โรคตระกูลซือเองเหรอ…ฮ่าๆๆ…” ยามาโมโตะหัวเราะเยาะเสียงดัง
ขณะฟังคำพูดของยามาโมโตะ สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นที่เรียบเฉยมาโดยตลอด ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ประกายเย็นชาพาดผ่านดวงตาไปอย่างรวดเร็ว
ยามาโมโตะหยักยิ้มมุมปาก “เอาอย่างนี้ คุณไม่สู้กับผม ก็ไม่เป็นไร”
ขณะพูด ยามาโมโตะหันไปมองผู้ชายที่สวมชุดสูทสีขาวข้างหลัง แล้วส่งสายตาให้เขา
ชายชุดสูทสีขาวท่าทางเย็นชาเห็น ก็ก้าวเท้าเข้ามาหนึ่งก้าว
ครั้งนี้ ยามาโมโตะพาลูกศิษย์มาด้วยสองคน ชายชุดสูทสีขาวก็คือหนึ่งในลูกศิษย์ของยามาโมโตะ ชื่อคาวาตะ ยอดฝีมือด้านคาราเต้
คาวาตะเดินไปยืนตรงหน้าบอดี้การ์ดของตระกูลซือ โดยไม่พูดอะไร
ทันใดนั้น คาวาตะก็เหวี่ยงฝ่ามือออกไปอย่างรวดเร็ว
“โครม!”
บอดี้การ์ดตระกูลซือคนหนึ่งถูกซัดปลิวออกไปทันที
บอดี้การ์ดตระกูลซือที่ถูกซัดปลิว ยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ ร่างกายกลับเกิดอาการเหน็บชาเพราะความเจ็บปวด
“ขยะทั้งนั้น” ชายชุดสูทสีขาวแค่นยิ้มดูถูก
“หึ…ถ้าหากคนพวกนี้ถูกลูกศิษย์ของผมซ้อมตนตาย คุณกลับไปก็คงอธิบายกับตระกูลซือไม่ได้ ใช่ไหมล่ะ?” ยามาโมโตะยิ้มหยัน
…………………………..