แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1129 กลับบ้านเรา บทที่ 1130 ทำอะไรผิด
บทที่ 1129 กลับบ้านเรา
ซือเยี่ยหานลูบหัวหญิงสาว “กลับบ้านกันไหม?”
ดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นเป็นประกาย “ไปบ้านคุณเหรอ?”
แววตาของซือเยี่ยหานลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ พยายามข่มใจไม่ให้จูบเธอ “บ้านของเรา”
เยี่ยหวันหวั่นดีอกดีใจ รีบวิ่งตึกตักๆๆ ไปทางรถเองทันที…
ห่างไปไม่ไกล หลังจากเห็นเยี่ยหวันหวั่นขึ้นรถสีดำคันนั้นออกไป ในที่สุดเยี่ยมู่ฝานก็ได้สติ
“เชี่ย! บ้าเอ๊ย! ลงมาเดี๋ยวนี้นะ แกขึ้นรถคนอื่นมั่วซั่วได้ยังไง!” เยี่ยมู่ฝานตะโกนด่า แล้วรีบวิ่งตามไป
เยี่ยหวันหวั่นที่ยืนอยู่ข้างประตูรถเอียงคอมองหน้าเขา “นายเป็นใคร?”
เยี่ยมู่ฝานโมโหแทบตาย “ให้ตายเถอะ! ฉันก็พี่ชายแกไง!”
“ฉันไม่รู้จักนาย” เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็เดินขึ้นรถไปเลย
ลมหนาวพัดผ่านไปอย่างเงียบงัน
เยี่ยมู่ฝานพูดไม่ออก
ยัยบ้านี่! ไม่นึกเลย…ถึงขั้นพูดว่าไม่รู้จักเขา!
พอมีแฟนก็ลืมพี่ชายอย่างเขาไปโดยสิ้นเชิงเลย!
ซือเยี่ยหานหยุดเหลือบมองเยี่ยมู่ฝานแวบหนึ่ง จากนั้นเอามือป้องหัวเยี่ยหวันหวั่น ก่อนจะขึ้นรถตามไป
ไม่นาน รถสีดำสองคันก็หายลับไปในความมืดยามค่ำคืน
กงซวี่กับคนอื่นๆ จึงโผล่หัวออกมาจากที่ซ่อนตัว
กงซวี่มองไปข้างหน้าอย่างระแวดระวัง “ปะ…ไปแล้วเหรอ?”
ลั่วเฉินรีบดึงมือกงซวี่ออกแทบจะทันที
เยี่ยมู่ฝานกระชากคอเสื้อกงซวี่อย่างเดือดดาล “ไอ้บ้า นายให้เธอดื่มอะไรเข้าไปกันแน่?”
กงซวี่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ บริสุทธิ์ไร้ซึ่งความผิด “เหล้า…ก็เหล้าธรรมดา…ไวน์ลาฟิต…แล้วก็วิสกี้…ผมก็ดื่ม…พวกคุณก็ดื่มเหมือนกันนี่…”
เยี่ยมู่ฝานผลักกงซวี่ออกห่างด้วยความโมโห
กงซวี่ตัวสั่น “อา ช่างเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดจริงๆ…ไม่น่าล่ะพี่เยี่ยถึงไม่เคยดื่มเหล้าเลย ครั้งหน้าผมจะไม่ตื๊อให้พี่เยี่ยดื่มเหล้าอีกแล้ว ฮือ!”
“ยังจะมีครั้งหน้าอีกเหรอ” เยี่ยมู่ฝานออกคำสั่งอย่างเกรี้ยวกราด “ต่อไปห้ามใครให้เยี่ยไป๋ดื่มเหล้าอีก เพิ่มกฎข้อนี้เข้าไปในคู่มือการทำงานด้วย!”
เฟ่ยหยางที่ยืนซ่อนตัวอยู่ไกลๆ พยักหน้าอย่างเห็นด้วยรัวๆ “กฎข้อนี้สมควรมี! จำเป็นต้องมี!”
นี่เป็นครั้งแรกที่เยี่ยมู่ฝานได้เจอแฟนของเยี่ยหวันหวั่น
พอนึกได้ว่ายายเด็กน้อยที่เคยบอกว่าพี่ชายเธอหล่อที่สุด กลับพูดกับเขาว่าแฟนของเธอหล่อกว่าเขาร้อยเท่า ตอนนั้นเขายังไม่อยากจะเชื่อ
ตอนนี้เหรอ…ให้ตายเถอะ…ต้องยอมรับว่า…เป็นอย่างที่ยัยเด็กนั่นพูด…หล่อกว่าเขาร้อยเท่าจริงๆ…
ไม่น่าล่ะ! ไม่น่าล่ะจู่ๆ ยัยเด็กนั่นถึงได้ไม่สนใจกู้เยว่เจ๋อเลย ไม่แม้แต่จะอาลัยอาวรณ์ซักนิด
ก่อนหน้านี้เยี่ยหวันหวั่นบอกว่าเจ้าหมอนั่นเป็นพนักงานของตระกูลซือ แต่ดูจากเวลาออกข้างนอกแล้วพาบอดี้การ์ดมาด้วยอย่างนี้ หรือว่าจะเป็นหัวหน้าแผนกอะไรสักอย่าง?
อายุน้อยแค่นี้ก็สามารถไต่เต้าขึ้นไปถึงตำแหน่งที่มีบอดี้การ์ดติดตัวในตระกูลซือได้แล้ว คงไม่ใช่ว่าอาศัยหน้าตาเพื่อให้ได้เลื่อนตำแหน่งหรอกนะ…
เฟ่ยหยางที่ซ่อนตัวอยู่ไกลๆ กระซิบข้างหูหานเซี่ยนอวี่ว่า “เซี่ยนอวี่ มีเรื่องหนึ่ง ฉันไม่รู้ว่าควรพูดดีหรือเปล่า…”
หานเซี่ยนอวี่ถาม “เรื่องอะไร?”
“ฉันว่าต่อไปนายห่างๆ เยี่ยไป๋ไว้จะดีกว่า!” เฟ่ยหยางเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง
“เขาแค่ดื่มมากไปเลยเป็นอย่างนี้” หานเซี่ยนอวี่บอก
เฟ่ยหยางรีบส่ายหน้า “ไม่ๆ ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้ ฉันค้นพบว่า…รสนิยมทางเพศของเยี่ยไป๋…ไม่ค่อยปกติ…นายว่าเขาคงไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกใช่ไหม?”
ถึงจะอาละวาดเพราะดื่มหนักไป แต่พอดื่มหนักแล้วชอบเต๊าะผู้ชาย…ฟังดูไม่สมเหตุสมผลหรือเปล่า?
หานเซี่ยนอวี่ได้ยินอย่างนั้นก็พูดไม่ออก
เฟ่ยหยางรู้จักหานเซี่ยนอวี่ดี พอเห็นสีหน้าหานเซี่ยนอวี่ ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติทันที “ให้ตายเถอะ! ชอบผู้ชายจริงๆ สินะ! เซี่ยนอวี่ นายคงไม่ได้รู้ตั้งแต่แรกแล้วหรอกนะ! เซี่ยนอวี่นายต้องยืนหยัดเข้าไว้นะ!”
ยะ…อย่าเบี่ยงเบนเด็ดขาดนะ…
————————————————————————————-
บทที่ 1130 ทำอะไรผิด?
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายสงบลง ในที่สุดทุกคนก็พาว่าที่นายหญิงของพวกเขามาส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย
ทุกคนต่างพากันอยู่ห่างซือเยี่ยหานอย่างเต็มที่ เพราะกลัวจะเดือดร้อน
หลังจากลงมาเปิดประตูรถ สวี่อี้ก็รีบถอยห่างออกไปสามเมตร ไม่กล้าเหลือบมองเจ้านายตัวเองแม้แต่น้อย
ถ้าหากคุณชายเก้าของพวกเขากินน้ำส้มสายชู[1]เป็น “ไห” ถ้างั้นคุณหนูหวันหวั่นก็คงกินน้ำส้มสายชูเท่ากับน้ำทะเลแล้ว
แล้วก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าไหนั้นมันจะลอยมาโดนหัวเราตอนไหน
น่ากลัวเกินไปแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นเดินไปข้างหน้าโดยมีซือเยี่ยหานคอยประคอง เดินไปได้ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็หันกลับไป
ซือเยี่ยหานถาม “ทำไม?”
นัยน์ตาดำขลับของเยี่ยหวันหวั่นจ้องเขม็งไปที่บอดี้การ์ดข้างหลัง แล้วเอ่ยปากว่า “ไม่วางใจ ตีให้ตายไปเลยดีกว่า”
ซือเยี่ยหานเงียบ
พวกบอดี้การ์ดพากันตื่นกลัว “…!!!”
มีอย่างที่ไหนเนี่ย!
พวกผมทำอะไรผิด?
เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิด แล้วโบกมือ “ช่างเถอะ ไม่ตีแล้ว…”
พวกบอดี้การ์ดดีใจ เยี่ยม! ในที่สุดคุณหนูหวันหวั่นก็ค้นพบคุณธรรมในใจตนแล้วสินะ
ขณะที่พวกบอดี้การ์ดกำลังคิดอย่างนี้ กลับได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดว่า “เสียเวลาเปล่าๆ ช่วงเวลาในการร่วมหอมีค่าเท่าทองพันชั่ง…”
พวกบอดี้การ์ดต่างพูดไม่ออก
ทางไหนก็ต้องตายทั้งนั้น…ถ้าไม่ถูกซ้อมจนตาย…ก็ต้องกระอักเลือดตายด้วยความอิจฉาตาร้อน…
พอคิดได้อย่างนี้ ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็เลิกเสียเวลาสนใจพวกคนข้างหลัง แล้วเดินเข้าบ้านไปอย่างสุขใจพร้อมกับซือเยี่ยหาน
วิกผมของเยี่ยหวันหวั่นถูกเจ้าตัวดึงออกตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว เสื้อคลุมก็กระเซอะกระเซิงไปหมด เพิ่งจะเดินเข้าบ้าน แล้วปิดประตู เธอก็จับตัวซือเยี่ยหานขึงไว้กับบานประตูแล้วทำท่าจะจู่โจม
แต่เพิ่งจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้ ก็โดนซือเยี่ยหานกดหัวไว้ก่อน “ห้ามเล่น ดื่มชาแก้เมาก่อน”
ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็งอแงปวดหัวอีก
ไม่เคยหลาบจำเลยจริงๆ
ตอนที่ซือเยี่ยหานไปรับเธอ เขาสั่งให้เตรียมต้มชาแก้เมาไว้แล้ว ตอนนี้ชาถูกวางไว้บนโต๊ะในห้องรับแขก
ซือเยี่ยหานเอี้ยวตัวไปลูบถ้วยกระเบื้อง อุณหภูมิกำลังพอดี
“ดื่มซะ” ซือเยี่ยหานยื่นชาให้หญิงสาว
เยี่ยหวันหวั่นจ้องถ้วยชาในมือซือเยี่ยหาน แล้วพูดเหมือนตกใจมาก “คุณไม่ได้พาฉันกลับมาเพื่อนอนด้วย แต่กลับพามาเพื่อให้ดื่มชา?”
ซือเยี่ยหานเห็นหญิงสาวทำหน้าเจ็บปวดเหมือนโดนหลอกก็พูดไม่ออก
“คนหลอกลวง! ฉันไม่ดื่มหรอก!” เยี่ยหวันหวั่นที่รู้ตัวว่าโดนหลอกทำท่าให้ตายก็ไม่ยอมดื่ม
“ดื่มเสีย ไม่งั้นพรุ่งนี้จะปวดหัว”
“ไม่! ฉันไม่ได้มาเพื่อดื่มชา! ฉันรู้แล้วว่าคุณหลอกฉัน ฉันจะไปตีพวกนั้นให้ตาย!”
ผมของเยี่ยหวันหวั่นยุ่งเหยิง เธอโยนเสื้อคลุมทิ้งแล้วทำท่าจะออกไปมีเรื่องอีกครั้ง
ซือเยี่ยหานได้แต่ปวดหัว รีบดึงหญิงสาวกลับมาแล้วกดตัวเธอลงบนเก้าอี้ จากนั้นก็เอ่ยเสียงรอดไรฟัน “ดื่มแล้วค่อยนอนด้วยกัน!”
เยี่ยหวันหวั่นหันหน้ากลับมาทันที “จริงเหรอ?”
ซือเยี่ยหานเอ่ย “จริง”
พูดจบ เขาก็ใช้ช้อนตักชาป้อนหญิงสาว
เยี่ยหวันหวั่นสงบลง และยอมดื่มอย่างว่าง่ายในที่สุด
ไม่รู้ว่าชาแก้เมามีส่วนผสมอะไรบ้าง ถึงได้มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน อร่อยมากทีเดียว หญิงสาวดื่มคำหนึ่ง แล้วทำตาเคลิ้มเหมือนลูกแมวน้อย
ซือเยี่ยหานป้อนเธอทีละคำๆ ส่วนหญิงสาวเองก็เหลือบมองซือเยี่ยหานไปด้วย ดื่มไปด้วย
สุดท้าย เยี่ยหวันหวั่นคล้ายจะหมดความอดทน เธอแย่งถ้วยในมือซือเยี่ยหานมา แล้วยกหัวกระดกจนหมดในไม่กี่ครั้ง
พอดื่มหมด ก็ยื่นถ้วยเปล่าให้ซือเยี่ยหาน “ดื่มหมดแล้วๆ โอเครึยัง? นอนได้ยัง?”
ซือเยี่ยหานเงียบ
……………………………….