แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1199 นี่คือยอมรับแล้ว บทที่ 1200 มอมเมาคนทั่วหล้า
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1199 นี่คือยอมรับแล้ว บทที่ 1200 มอมเมาคนทั่วหล้า
บทที่ 1199 นี่คือยอมรับแล้ว
คฤหาสน์หลังหนึ่งในเมืองหลวง
หานเซี่ยนอวี่ถอดเสื้อนอกโอตกูตูร์ที่หรูหราบนตัวออก จากนั้นเดินไปเปิดไวน์แดงหนึ่งขวดที่บาร์เครื่องดื่ม รินใส่แก้วแล้วเดินไปยังระเบียง
ทางด้านหลัง เฟ่ยหยางเห็นหานเซี่ยนอวี่ยังดื่มเหล้าในเวลานี้ ก็อดตกใจไม่ได้
การใช้ชีวิตของหานเซี่ยนอวี่เข้มงวดกับการดูแลร่างกายมาก นอกจากตอนต้องเข้างานสังคมและไปสังสรรค์กับเพื่อน ปกติเขาดื่มเหล้าคนเดียวน้อยมาก
แต่นี่ก็ไม่แปลก อาจเพราะวันนี้บริษัทได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ อารมณ์ดีไม่เลวก็เลยดื่มสักสองแก้วละมั้ง
เฟ่ยหยางไม่ได้สังเกตรายละเอียดเล็กน้อยนี้ เดินไปซุบซิบกับหานเซี่ยนอวี่อย่างตื่นเต้น “สวรรค์! ข่าววันนี้ก็น่าตกใจเกินไปแล้ว! เยี่ยไป๋กลับเป็นเยี่ยกวนกวนน้องสาวของเยี่ยมู่ฝานซะได้ นี่มัน…”
หานเซี่ยนอวี่ยืนอยู่หน้าระเบียง มองฟ้ายามราตรีที่ราวกับน้ำหมึกตรงหน้า เอ่ยแก้คำพูดของเฟ่ยหยางว่า “หวันหวั่น หวั่นจากคำว่าผูกผมรวมใจ[1]”
“อ้อๆ จริงด้วย หวันหวั่น เยี่ยหวันหวั่น! เซี่ยนอวี่ นายไม่รู้สินะ ตอนนี้ทั้งวงการฮือฮากันใหญ่แล้ว ในกลุ่มที่ฉันอยู่ต่างก็กำลังคุยเรื่องนี้ แถมโทรศัพท์ฉันใกล้ถูกคนพวกนั้นโทรหาจนระเบิดแล้ว! แม่เจ้า ฉันก็มึนตึ้บเหมือนกัน เพิ่งรู้เมื่อคืนนี้เองโอเคไหม แต่นายหานเซี่ยนอวี่ ดันรู้ตั้งนานแล้ว!”
เฟ่ยหยางพูด ไม่รู้ว่าคิดอะไร พลันตบหัวเอ่ยขึ้นว่า “เชี่ย! หรือว่า…หรือว่าผู้หญิงที่เป็นข่าวกับนายเมื่อครั้งก่อนคนนั้น ก็คือเยี่ยไป๋?”
หานเซี่ยนอวี่จิบไวน์ ไม่พูดอะไร นับว่ายอมรับโดยนัยแล้ว
เฟ่ยหยางเผยสีหน้ากระจ่างแจ้งทันที “เชี่ยเอ๊ย! ไม่น่าล่ะ! ฉันก็ว่าจู่ๆ นายจะเอาใจใส่ผู้หญิงคนหนึ่งขนาดนั้นได้ยังไง ทั้งจับชู้เพื่อเธอ ทั้งเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเธอ! แล้วยังมีอีกนะ ฉันยังสังเกตเห็นว่าท่าทีของนายที่มีต่อเยี่ยไป๋แปลกขึ้นทุกที อ่อนโยนจนน่าตกใจ ตอนนั้นฉันยังคิดนะว่า นายดูแลผู้ชายตัวโตขนาดนี้ อ่อนโยนขนาดนี้ทำไม ทำเอาฉันเกือบนึกว่า แค่กๆ …”
นึกว่านายเป็นเกย์ไปแล้ว…
เฟ่ยหยางหยุดคำพูดถัดมาไว้ได้ทัน จากนั้นเขามองหานเซี่ยนอวี่ด้วยสีหน้าเหมือนโลกกำลังจะถล่ม “หมายความว่า…เยี่ย…เยี่ยไป๋เป็นผู้หญิงจริงๆ เหรอ?”
“ไม่อย่างนั้นแล้วยังไงล่ะ” ในที่สุดหานเซี่ยนอวี่ก็เอ่ยปาก เขาเหลือบมองเฟ่ยหยาง ก่อนกลืนไวน์แดงลงคอ เอ่ยช้าๆ ว่า “หรือพี่นึกว่าผมชอบผู้ชาย?”
เสียงทุ้มต่ำของหานเซี่ยนอวี่ลอยหายไปในความมืด…
พริบตาที่เฟ่ยหยางได้ยินประโยคนี้ เดิมทีเขายังไม่เข้าใจความหมาย แต่หลังผ่านไปสามวินาที เขาก็เงยหน้าขวับมองทางหานเซี่ยนอวี่ สีหน้าเปลี่ยนไปยกใหญ่
เวรๆๆ!
นี่หานเซี่ยนอวี่หมายความว่ายังไง?
นี่…นี่คือยอมรับแล้วว่า…เขาชอบเยี่ยไป๋!!
เฟ่ยหยางยืนอยู่กับที่ อึ้งตะลึงไปแล้ว
เขาจ้องหานเซี่ยนอวี่อย่างตาโตอ้าปากค้าง พบว่าตัวเองได้รู้เรื่องที่สุดยอดเข้าแล้ว “เอ่อ เซี่ยนอวี่…นาย…นายชอบเยี่ยไป๋”
หานเซี่ยนอวี่ได้ยินดังนั้นก็ไม่พูดอะไร
ถึงแม้หานเซี่ยนอวี่ไม่พูด แต่เฟ่ยหยางอยู่ข้างหานเซี่ยนอวี่มาตั้งหลายปีขนาดนี้ เข้าใจอีกฝ่ายเป็นอย่างดี มองแววตาเขาก็เดาออกแล้ว
อีกอย่างก่อนหน้านี้ตอนที่ยังไม่รู้ว่าเยี่ยไป๋เป็นผู้หญิง เขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติของหานเซี่ยนอวี่แล้ว
หลังจากใจเย็นลง เฟ่ยหยางครุ่นคิดอีก ดีเลวยังไงเยี่ยไป๋ก็เป็นผู้หญิง หานเซี่ยนอวี่ไม่ได้เบี่ยงเบนสินะ!
ตอนนั้นเยี่ยไป๋ฉุดหานเซี่ยนอวี่ที่อยู่ในช่วงลำบากที่สุดขึ้นมา ต่อมาทั้งสองคนก็เข้ากันในทุกด้าน พอคิดแบบนี้ ในเงื่อนไขที่ว่าเยี่ยไป๋เป็นผู้หญิง หานเซี่ยนอวี่จะชอบเยี่ยไป๋ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เฟ่ยหยางกระแอมหนึ่งที ลองถามหยั่งเชิงว่า “งั้น…งั้นนายตั้งใจจะทำยังไง จะ…สารภาพรักอะไรหรือเปล่า”
หานเซี่ยนอวี่ดื่มไวน์แดงในแก้วหมดรวดเดียว “ไม่ใช่ทุกความชอบจะต้องพูดออกไป”
————————————————————————————
บทที่ 1200 มอมเมาคนทั่วหล้า
สถานที่จัดงานเลี้ยงอยู่ห่างจากคฤหาสน์กุหลาบมาก ระหว่างทางน่าเบื่ออยู่บ้าง เยี่ยหวันหวั่นจึงให้สวี่อี้เปิดวิทยุบนรถ
วิทยุกำลังออกอากาศรายการตอนเที่ยงคืน เสียงดนตรีผ่อนคลายพลันดังขึ้นในรถ
เยี่ยหวันหวั่นตาปรือกอดถังถังไว้ เอนพิงไหล่ซือเยี่ยหาน เพลิดเพลินกับความสบายใจอันหาได้ยาก
เส้นประสาทตึงเครียดมานาน ในที่สุดก็ได้ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว
หลังฟังจบหนึ่งเพลง เสียงของพิธีกรรายการก็ดังขึ้นมาในวิทยุ
“เชื่อว่าบรรดาเพื่อนผู้ฟังทุกท่านต่างรู้ว่า งานรางวัลจินหลานในค่ำคืนนี้ได้ปิดม่านลงแล้วในที่สุด อีกทั้งเมื่อเทียบกับงานครั้งก่อนๆ งานรางวัลจินหลานครั้งนี้ก็เป็นงานหนึ่งที่ฮือฮามากที่สุด รางวัลราชินีจอเงินตกอยู่ในมือของม้ามืดหน้าใหม่เจียงเยียนหราน อีกทั้งยังมีราชาจอเงินคู่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วย แต่ในงานพิธีมอบรางวัลจินหลานครั้งนี้ ผู้ที่โดดเด่นที่สุดไม่ใช่ราชาจอเงินทั้งสองคน และก็ไม่ใช่ราชินีจอเงิน แต่เป็นท่านเทพที่อยู่เบื้องหลังการปั้นราชาจอเงินสองคนและราชินีจอเงินหนึ่งคนนี้…”
เมื่อได้ยิน เยี่ยหวันหวั่นพลันมีกำลังวังชา
เอ๊ะ ฟังวิทยุอยู่ดีๆ ก็ได้ฟังเรื่องรางวัลจินหลาน แถมพิธีกรยังพูดถึงตัวเธอ…
เยี่ยหวันหวั่นยืดตัวตรงฟังพิธีกล่าวชมตัวเองอย่างตื่นเต้น
“ท่านเทพที่อยู่เบื้องหลังคนนี้ ก็คือผู้จัดการของกงซวี่ ลั่วเฉิน รวมถึงราชินีจอเงินหน้าใหม่เจียงเยียนหราน เยี่ยไป๋ครับ! ไม่รู้ว่าทุกคนได้ดูถ่ายทอดสดรางวัลจินหลานของคืนนี้หรือเปล่า เอาเป็นว่าผมเสี่ยวเสี่ยวได้ดูแล้ว เสี่ยวเสี่ยวไม่นึกเลยว่าถึงเขาจะได้ออกกล้องในงานรางวัลจินหลานไม่มาก แต่ผู้จัดการลึกลับคนนี้ก็หล่อเหลามากจริงๆ ไม่น้อยหน้าไปกว่าราชาจอเงินสองคนแม้แต่น้อย ขนาดเสี่ยวเสี่ยวเองยังใจเต้นไปชั่วพริบตาหนึ่งครับ ไม่น่าล่ะบรรดาเพื่อนในโลกออนไลน์ถึงให้ชื่อเพราะๆ อย่าง ‘กลุ่มอุดมคนงาม’ กับจูเสินสือไต้…”
พิธีกรเสี่ยวเสี่ยวเหมือนเป็นแฟนคลับเยี่ยไป๋โดยสมบูรณ์แล้ว พูดต่ออย่างตื่นเต้น “นอกจากนั้นยังมีข่าวลือน่าตกใจใหม่ล่าสุดออกมาสดๆ ร้อนๆ เยี่ยไป๋ไม่ใช่ผู้ชายครับ แต่เป็นผู้หญิงที่ปกติชอบแต่งชายเพื่อความสะดวก และเยี่ยไป๋ที่แต่งหญิงยังเป็นนางฟ้าที่น่าตกตะลึงด้วย! ตอนนี้บรรดาสาวๆ ต่างอยากคลอดลูกลิงให้เขา ส่วนหนุ่มๆ ก็ยกเธอเป็นเทพธิดา! ฆ่าเรียบทั้งชายทั้งหญิงจริงๆ!”
วินาทีที่พูดว่า ‘ฆ่าเรียบทั้งชายทั้งหญิง’ คำนี้ เยี่ยหวันหวั่นอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด ไม่กล้ามองสีหน้าของซือเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้างแม้แต่น้อย
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินประโยคที่ว่า ‘แม้แต่เสี่ยวเสี่ยวเองยังใจเต้นไปชั่วพริบตาหนึ่ง’ ก็เริ่มรู้สึกผิดปกติบ้างแล้ว รอจนได้ยินประโยคต่อจากนั้น เป็นอย่างที่คาด ยิ่งฟังยิ่งเป็นเวรเป็นกรรม…
โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่เธอได้ยินนั้น…
อุตส่าห์คิดว่าจัดการวิกฤตได้แล้ว ใครจะรู้ว่าครู่เดียวก็ดันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ตอนแรกนึกว่ากลับไปแต่งหญิงแล้ว แรงดึงดูดจะน้อยลงครึ่งหนึ่ง แต่ผลลัพธ์กลับมากขึ้นครึ่งหนึ่งเสียอย่างนั้น?
เยี่ยหวันหวั่นอธิษฐานขอให้ซือเยี่ยหานไม่ทันได้ยิน แต่ผลคือ วินาทีถัดมาเสียงเรียบนิ่งของเขาก็ดังขึ้นข้างหูเธอ “ฆ่าเรียบทั้งชายทั้งหญิง?”
เยี่ยหวันหวั่นไร้ซึ่งคำพูด
เธอกะพริบตาปริบ จ้องใบหน้าชายหนุ่มที่มอมเมาคนยามค่ำคืนราวกับปีศาจร้าย พองแก้มเอ่ยว่า “ฉะ…ฉันฆ่าเรียบทั้งผู้ชายผู้หญิงแล้วทำไม ทีคุณยังมอมเมาคนทั่วหล้าเลย! ศัตรูหัวใจของฉันมากกว่าคุณตั้งเยอะแยะฉันยังไม่พูดอะไรเลย! ฉันยังโกรธอยู่นะเนี่ย!”
เยี่ยหวันหวั่นตัดสินใจหาเรื่องกลับเสียเลย
ซือเยี่ยหานได้ยินดังนั้นก็จ้องหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาลึกล้ำ ไม่พูดอะไรอยู่นาน เหมือนว่าย้อนนึกอะไรขึ้นมาได้…
พอเห็นใบหน้าซือเยี่ยหาน เยี่ยหวันหวั่นคิดว่าตัวเองพูดได้สมเหตุสมผลมาก จึงเกิดความมั่นใจขึ้นมา ถลึงตาใส่อย่างไม่ยอมแพ้ “ทำไม หรือว่าฉันพูดผิดเหรอ”
เวลานี้ สายตาของซือเยี่ยหานพลันมองถังถังที่หลับตาง่วนงุนอยู่ในอ้อมกอดของเยี่ยหวันหวั่น
จากนั้นชายหนุ่มยื่นฝ่ามือใหญ่ปิดตาของถังถังก่อน ต่อมาก็พลันโน้มตัวเข้าไปหาหญิงสาว พูดข้างหูเธอด้วยเสียงแหบพร่า “ไม่อยากมอมเมาคนทั่วหล้า…”
วินาทีถัดมา ชายหนุ่มประกบริมฝีปากนุ่มหอมหวานของหญิงสาว คำพูดหลังจากนั้นจมลงไปในจูบนี้…
“อยากแค่…มอมเมาเธอ…”
เยี่ยหวันหวั่นตกตะลึง
…………………………….