แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1279 ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว บทที่ 1280 วิกฤติ
บทที่ 1279 ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว
“พันธมิตรอู๋เว่ย…ทหารรับจ้างระดับ SS ใต้การดูแลของแบดเจอร์…ชีซิง!”
เสียงสูดหายใจเย็นๆ ดังทั่วทิศ
เด็กหนุ่มที่ดูเหมือนไม่ชอบพูด ดูผอมแห้งแรงน้อย แต่กลับเป็นหนึ่งในกำลังรบสำคัญของพันธมิตรอู๋เว่ย!
……
“ที่นี่…ก็คือตระกูลหลี่งั้นเหรอ…”
ผ่านไปเนิ่นนาน เด็กหนุ่มจึงเพิ่งกระแอมเสียงเบา แล้วหันไปมองชายชราที่ยืนอยู่ด้านหนึ่ง
“ใช่แล้ว” ชายชราเสื้อดำเอ่ยว่า “ภารกิจในวันนี้ ก็คือกำจัดสองตระกูลสุดท้ายที่พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราออกคำสั่งฆ่าล้างโคตร ตระกูลหลี่คือหนึ่งในนั้น”
เพิ่งจะสิ้นเสียง ชายสิบกว่าคนก็พรวดพราดออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลี่
ผู้นำตระกูลหลี่ที่เดินนำออกมาคนแรกโกรธจนเส้นเอ็นบนหน้าผากนูนชัด ตะโกนด้วยความเคียดแค้น “พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกแก…รังแกคนเกินไปแล้ว ตระกูลหลี่ของพวกเราไม่เคยมีความแค้นกับพันธมิตรอู๋เว่ย พวกแก…ทำไมต้องออกคำสั่งฆ่าล้างโคตรพวกเราด้วย?!”
“ไม่เคยมีความแค้น…”
เด็กหนุ่มชีซิงพึมพำเบาๆ จากนั้นนัยน์ตาที่ไร้ความรู้สึกนั้นกลับมีประกายเย็นชาพาดผ่าน และหายไปอย่างรวดเร็ว
“ตระกูลหลี่…พูดจาว่าร้ายพันธมิตรอู๋เว่ยของเรา สมควรถูกกวาดล้าง” ชีซิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนไร้พิษภัย
“เหอะ พันธมิตรอู๋เว่ยของแกทำเรื่องชั่วทุกรูปแบบ! ทุกเรื่องที่ทำ มีเรื่องไหนบ้างที่ไม่ผิดหลักคุณธรรม!” ผู้นำตระกูลหลี่พูดอย่างเดือดดาล
“ชีซิง พวกมันตระกูลหลี่ความตายมาเยือนตรงหน้าแล้ว แต่กลับยังไม่สำนึก น่าขำจริงๆ” ชายชราพูดด้วยท่าทางยโสโอหัง แล้วมองผู้นำตระกูลหลี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ฆ่ามัน” ชีซิงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“อู๋เว่ย!”
“อู๋เว่ย!”
“อู๋เว่ย!”
ชีซิงเพิ่งจะพูดจบ คนของพันธมิตรอู๋เว่ยก็พุ่งเข้าใส่คนของตระกูลหลี่ดุจสิงโตคลั่ง
วินาทีต่อมา ท่ามกลางสายตาเหลือเชื่อของเยี่ยหวันหวั่น เลือดสดๆ ได้ย้อมดินใต้เท้าของตระกูลหลี่จนกลายเป็นสีแดงไปทั้งผืน คนของพันธมิตรอู๋เว่ยเพียงสิบกว่าคนคนเผชิญหน้ากับนักสู้หลายสิบคนของตระกูลหลี่อย่างไม่เกรงกลัว เพียงพริบตาเดียว ตระกูลหลี่ก็ล้มตายไปกว่าครึ่ง
“แกยังเด็กยังเล็ก อายุก็ยังไม่มาก แต่กลับโหดเหี้ยมขนาดนี้…สมควรตาย!”
ทันใดนั้น ผู้นำตระกูลหลี่กระโดดสูงราวกับลอยตัวเหนืออากาศ แล้วพุ่งเข้ามาหาชีซิงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับซัดฝ่ามือไปที่ขมับของชีซิง
แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กหนุ่มชีซิงกลับหายตัวไปจากตรงนั้นอย่างไร้ร่องรอย
“เร็วมาก!”
เยี่ยหวันหวั่นที่ยืนมุงอยู่ไกลๆ หัวใจเต้นเร็ว ความเร็วของชีซิงสุดยอดมากจริงๆ เร็วจนแม้แต่เธอยังเกือบมองตามไม่ทัน
“กำลังหาฉันอยู่เหรอ?” เสียงของชีซิงดังขึ้นอย่างแช่มช้า
ผู้นำตระกูลหลี่ยังไม่ทันขยับตัว พลันนั้น เขาก็รู้สึกราวกับถูกภูเขาทั้งลูกทับหัว
“พลั่ก!” เสียงดังสนั่น
ภาพที่ทุกคนเห็นคือสองเท้าของชีซิงเหยียบอยู่บนหัวของผู้นำตระกูลหลี่
เด็กหนุ่มยืนเอามือไพล่หลัง ท่าทางผ่อนคลาย สีหน้าไม่แยแสต่อสิ่งใด ในแววตาสงบนิ่ง ราวกับไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดของมนุษย์สะท้อนอยู่เลยแม้แต่น้อย
“ไสหัวลงไปเดี๋ยวนี้!” ผู้นำตระกูลหลี่สะบัดลำตัว หมายจะเขย่าเด็กหนุ่มให้หลุดจากหัวตัวเอง แต่ชีซิงกลับเหมือนรูปปั้นแกะสลัก ไม่ว่าผู้นำตระกูลหลี่จะทำยังไง เขาก็ยังแน่นิ่งไม่ไหวติง
“พวกแกมันเศษสวะ…” ผู้นำตระกูลหลี่เคียดแค้น
แต่เมื่อสิ้นเสียงของผู้นำตระกูลหลี่ ชีซิงก็พลิกเท้าข้างหนึ่ง แล้วใช้ปลายเท้าแตะเบาๆ ที่ขมับของผู้นำตระกูลหลี่
วินาทีต่อมา ผู้นำตระกูลหลี่หน้าซีด พูดอะไรไม่ออกอีก จากนั้นร่างทั้งร่างก็ล้มลงไปดัง “โครม” แล้วถูกชีซิงใช้เท้ากระทืบจนตาย
คนของตระกูลหลี่เห็นว่าผู้นำตระกูลโดนฆ่าในพริบตาก็แตกตื่นลนลาน
“อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว”
ชีซิงทิ้งตัวลงพื้น แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
————————————————————————————-
บทที่ 1280 วิกฤติ
ห่างออกไป เยี่ยหวันหวั่นอุ้มฉิวฉิวแน่น และปิดตาเขาทั้งสองข้าง
ครั้งนี้ ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็ได้เห็นด้วยตาตัวเองว่ารัฐอิสระน่ากลัวแค่ไหน…
ฆ่าล้างตระกูลอย่างโจ่งแจ้ง…
เรื่องอย่างนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในประเทศจีนอย่างแน่นอน…
เสียงอ้อนวอนและร้องครวญดังระงมอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนในตระกูลหลี่ กลับยังคงมีแต่การฆ่าล้างตระกูลอันโหดเหี้ยม
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ประเทศจีน เยี่ยหวันหวั่นก็เคยเจอคนจากพันธมิตรอู๋เว่ย แต่ไม่เคยคิดเลยว่าพันธมิตรอู๋เว่ยในรัฐอิสระจะน่ากลัวและโหดเหี้ยมขนาดนี้…
นอกตระกูลหลี่เต็มไปด้วยศพเกลื่อนพื้น ภาพที่เห็นน่าสยดสยอง ยากฟื้นคืนสภาพปกติ
ภาพที่ราวกับนรกขุมอเวจีนี้ เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกในชีวิต จึงไม่แปลกที่จะรู้สึกแย่
ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นอุ้มฉิวฉิวหมุนตัวจากไปอย่างทนดูไม่ไหวอีก
สหพันธ์วิทยายุทธ์ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องอำนาจในรัฐอิสระ และได้รับการยอมรับจากสี่ตระกูลใหญ่ แต่สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์กลับไม่สนใจเรื่องความแค้นส่วนตัวระหว่างแก๊ง
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็กลับมาถึงตระกูลโจว
“หวันหวั่น ทำไมสีหน้าดูไม่ค่อยดีเลยล่ะ?” คุณนายโจวเห็นเยี่ยหวันหวั่นสีหน้าไม่ดี รีบเทน้ำแก้วหนึ่ง แล้วเดินมาหาเธออย่างเป็นห่วง
“เมื่อกี้ตอนกลับมา…หนูเห็นคนของพันธมิตรอู๋เว่ยค่ะ…” เยี่ยหวันหวั่นรับน้ำที่คุณนายโจวยื่นให้ แล้วดื่มรวดเดียวจนหมด
คุณนายโจวกับผู้นำตระกูลโจวหน้าเปลี่ยนสีไปทันที
พันธมิตรอู๋เว่ยนั่น…น่ากลัวมากจริงๆ
“หนูเห็นพวกนักสู้หลายสิบคนโดนพันธมิตรอู๋เว่ยฆ่าโคตรล้างกับตา…” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว
“เฮ้อ เรื่องอย่างนี้มีให้เห็นบ่อยมากในรัฐอิสระ ดังนั้นสำหรับคนนอกอย่างพวกหนู รัฐอิสระเลยไม่ใช่ที่ที่ดีไงล่ะ” ผู้นำตระกูลโจวถอนหายใจ
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดอะไร โจวอูก็เดินจ้ำเข้ามาในห้องโถง สีหน้าซีดเผือด ในมือกำการ์ดสีดำเข้มไว้แน่น
“พ่อ…แม่…เมื่อกี้…เมื่อกี้ผมเจอของสิ่งนี้ในห้องของฉิวฉิว…” พูดจบ โจวอูก็แบมือเผยให้เห็นการ์ดสีดำ
“นี่มันอะไรน่ะ!”
เมื่อเห็นการ์ดสีดำในมือโจวอู ผู้นำตระกูลโจวก็หน้าซีดไปทันที
“คะ…คำสั่ง…ฆ่าล้างโคตร…ของพันธมิตรอู๋เว่ย…เป็นไปได้ยังไง!” คุณนายโจวแทบจะเป็นลม
นับแต่อดีตจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าตระกูลใดหากได้รับคำสั่งฆ่าล้างโคตรของพันธมิตรอู๋เว่ยแล้ว ไม่เคยมีใครรอดไปได้แม้แต่คนเดียว
“บนการ์ดคำสั่งฆ่าล้างโคตรมีคราบฝุ่นเกาะแล้ว น่าจะผ่านมาพักหนึ่งแล้วล่ะครับ…” โจวอูกัดฟัน
เกรงว่าตอนที่พันธมิตรอู๋เว่ยเอาการ์ดคำสั่งฆ่าล่างโคตรมาทิ้งที่ตระกูลโจว ฉิวฉิวคงบังเอิญเก็บได้ แล้วไม่รู้ว่าเป็นของอะไรถึงได้เอาไปเก็บไว้ในห้อง พวกเขาเลยไม่รู้ว่าตระกูลของตัวเองโดนหมายหัวให้ถูกฆ่าล่างโคตรแล้ว…
“คุณหนูเยี่ย รีบไปเถอะ!” คุณนายโจวรีบลุกขึ้นแล้วผลักเยี่ยหวันหวั่นออกจากตระกูลโจว
“นี่มัน…” เยี่ยหวันหวั่นตื่นตกใจ
คำสั่งฆ่าล้างโคตรหมายถึงอะไรนั้น เธอในตอนนี้เข้าใจบ้างแล้ว ก็เหมือนกับตระกูลหลี่ก่อนหน้านี้ ที่โดนฆ่ายกครัวเพราะได้รับคำสั่งฆ่าล้างโคตรจากพันธมิตรอู๋เว่ย
“ไปเร็ว อย่าอยู่ที่นี่อีก!” ผู้นำตระกูลโจวรีบบอก
ถ้าหากเยี่ยหวันหวั่นยังอยู่ในตระกูลโจวตอนพันธมิตรอู๋เว่ยมาถึงที่นี่ ต้องเจอกับจุดจบที่เลวร้ายแน่นอน พันธมิตรอู๋เว่ยไม่มีทางสนใจว่าเธอเป็นคนของตระกูลโจวหรือไม่…
“พาฉิวฉิวหนีไปด้วย!”
ไม่นาน โจวอูก็อุ้มฉิวฉิวส่งให้เยี่ยหวันหวั่น
สไตล์การทำงานของพันธมิตรอู๋เว่ย เด็ดขาดและโหดร้ายมาตลอด ไม่ว่าชายหญิงคนแก่หรือเด็ก ก็ไม่มีทางปล่อยให้รอดไปได้!
“ฉัน…ฉันจะไปแจ้งตำรวจ…”
เยี่ยหวันหวั่นลนลานทำอะไรไม่ถูก
แต่เพิ่งจะพูดออกไป เธอกลับรู้สึกตลกตัวเอง ที่นี่ไม่ใช่ประเทศจีน…แต่ที่นี่คือรัฐอิสระ…
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ก็โดนคุณนายโจวผลักออกมานอกบ้านแล้ว
ขณะเดียวกัน ชายสิบกว่าคนของพันธมิตรอู๋เว่ยที่เยี่ยหวันหวั่นเห็นก่อนหน้า ได้เดินมุ่งหน้ามาทางตระกูลโจวด้วยท่าทางองอาจผึ่งผายแล้ว
ชีซิงที่เป็นหัวหน้าของพวกพันธมิตรอู๋เว่ย เหลือบเห็นเยี่ยหวันหวั่นด้วยความบังเอิญ เขาอึ้งไปเล็กน้อย แล้วจ้องพิจารณาเธอครู่หนึ่ง ในแววตาเย็นชากลับฉายแววสงสัยแวบหนึ่ง…