แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1291 ลงทะเลว่ายกลับไป บทที่ 1292 สหายร่วมชีวิต
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1291 ลงทะเลว่ายกลับไป บทที่ 1292 สหายร่วมชีวิต
บทที่ 1291 ลงทะเลว่ายกลับไป
“เธอนี่นะ ก็นิสัยแบบนี้ เรื่องไม่คาดฝันเรื่องเดียว ทำพวกเราเป็นห่วงตั้งหลายปี ชีซิงกับเป๋ยโต่วพวกเด็กบ้านั่นคิดถึงเธอทุกวัน ตอนนั้นต้องพลิกแผ่นดินรัฐอิสระก็จะหาเธอให้เธอ แต่เธอกลับไม่แม้แต่โทรกลับมา ใจร้ายจริงๆ” แม้หญิงสาวพูดแบบนี้ แต่ในดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก สายตาของหญิงสาวก็กลับมองไปที่หน้าอกของเยี่ยหวันหวั่น มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “หลายปีมานี้เปลี่ยนไปมากจริงๆ ถ้าไม่ได้ยินพวกชีซิงพูดว่าเธอกลับมา ฉันก็จำเธอไม่ได้แหง”
พูดจบไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย ก็กอดเยี่ยหวันหวั่นไว้อีกอย่างเปี่ยมอารมณ์เหลือแสน จากนั้นพลันถูไถอย่างกระตือรือร้น
เยี่ยหวันหวั่นถูกสาวงามหอมนุ่มกอด มุมปากก็กระตุกอย่างยากสังเกต
นี่…เร่าร้อนเกินไปหน่อยหรือเปล่า
อย่าบอกนะว่าจะใช้แผนสาวงามกับเธอ
ที่เยี่ยหวันหวั่นไม่สังเกตเห็นคือ สายตาของหญิงสาวตกลงบนบริเวณปกคอเสื้อที่ถูกขยี้จนยุ่งเหยิงอย่างกึ่งตั้งใจไม่ตั้งใจ
เมื่อเห็นปานจันทร์เสี้ยวที่โผล่รางๆ นั้น ดวงตาของหญิงสาวก็ผุดแววแปลกใจระคนยินดีอย่างเห็นได้ชัด
เยี่ยหวันหวั่นยังคงสวมรอยยิ้มบางบนใบหน้า ดูราวกับสนิทสนมกันมาก เพียงแต่ในใจเธอกลับรู้ดี ผู้หญิงคนนี้ก็คงแค่มาหยั่งเชิงตัวเองเท่านั้น
“เอาละ ฉันเหนื่อยนิดหน่อย เธอลงไปก่อนเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเรียบๆ
“โอเคๆ เสี่ยวเฟิง งั้นเธอพักก่อนสักหน่อยนะ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ พลางพยักหน้า ก่อนหันกายจากไป
นอกโถงประชุม ชีซิงพิงกำแพง หลับตาครุ่นคิด
“ชีซิง”
ไม่นาน หญิงสาวเดินออกจากห้องประชุม มองไปทางชีซิง
“ชิวสุ่ย เป็นยังไงบ้าง” ชีสิงถามเสียงเรียบ ยังคงหลับตา
“ผู้หญิงคนนั้นก็คือเสี่ยวเฟิง” หญิงสาวเอ่ย
ได้ยินแบบนั้นดวงตาของซีชิงราวกับดวงดวงเปล่งประกาย เขาพลันลืมตา
“งั้นเหรอ” ในดวงตาของชีซิงในที่สุดก็ผุดแววปรวนแปร
ชิวสุ่ยมีความสัมพันธ์อันดีมากกับพันธมิตรอู๋เว่ย และชิวสุ่ยก็เป็นผู้หญิงที่เคยเห็นหนึ่งในปานแต่กำเนิดของผู้นำพันธมิตรมาก่อน แต่น่าเสียดายที่คนอื่นๆ หลายปีมานี้ไม่ต่อสู้จนตายก็ถูกอำนาจท้องถิ่นกักขังจนถึงตอนนี้…
“เป็นตัวจริง” หญิงสาวพยักหน้า น้ำเสียมั่นใจ
“ตกลง พี่ชิวสุ่ย ผมรู้แล้ว” ไม่รอโอกาสหญิงสาวเปิดปาก ชีซิงก็เข้าไปในโถงประชุมทันทีและยังปิดประตูแน่นหนา
…
ในโถงประชุม
มองหญิงสาาวที่นั่งบนที่นั่ง ดวงตาของชีซิงกลับยังคงผุดแววสงสัย
“พี่เฟิง หลายปีมานี้พี่ไปไหนมากันแน่” สายตาของชีซิงตกลงบนตัวของเยี่ยหวันหวั่น เอ่ยเสียงเย็นชา
เยี่ยหวันหวั่นไม่พูดจา
มาแล้วมาอีกแล้ว! ไม่จบสักที!
เธอจะควรจะพูดยังไงไงดีเนี่ย แบดเจอร์ เธอไปไหนกันแน่หา
“ฉันไปไหนยังต้องรายงานนายด้วยเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นนั่งบนโซฟาตามสบาย
“พี่เฟิงไปที่ไหนย่อมไม่จำเป็นต้องรายงานผม” ชีซิงเดินมาถึงตรงหน้าเยี่ยหวันหวั่น และถือโอกาสนั่งบนโซฟาด้วย
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก ชีซิงเอ่ยอีก “ครั้งนี้ถ้าพี่ไปไหนไม่ลาอีก ต่อให้พันธมิตรอู๋เว่ยต้องพลิกแผ่นดิน ก็จะต้องหาพี่ออกมาให้ได้ นอกจากพี่จะออกจากรัฐอิสระ”
เมื่อคำพูดนี้ของชีซิงออกมา เยี่ยหวันหวั่นพลันมีสีหน้าเย็นชา ทว่าใจกลับเป็นทุกข์ยากเอื้อนเอ่ย
เจ้าชีซิงนี่ แม่มต้อนเธอเขาทางตันชัดๆ เลย!
ด้วยอำนาจของพันธมิตรอู๋เว่ยในรัฐอิสระ อยากหาใครสักคนเหมือนว่าจะเป็นเรื่องสุดแสนง่ายดาย
ถึงตอนนั้น ต่อให้ตัวเธอหนีแล้วก็เกรงว่าคงถูกพันมิตรอู๋เว่ยหาตัวกลับมาได้…
ออกจากรัฐอิสระ…ตอนนี้หนึ่งคือเธอไม่มีเงิน สองคือไม่มีพาสสปอร์ตบัตรประจำตัว หนีได้กับผีสิ หรือจะให้เธอลงทะเลว่ายน้ำกลับไปจริงๆ เหรอ
———————————————————————————-
บทที่ 1292 สหายร่วมชีวิต
“โอ้…” มุมปากเยี่ยหวันหวั่นวาดโค้งเป็นรอยยิ้มเย็น สายตาจองหอง “ชีซิง…นายกำลัง ข่มขู่ฉันเหรอ”
“พี่เฟิง ผมแค่เป็นห่วงพี่” ชีซิงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“สนเรื่องนายเองเถอะ เรื่องของฉันไม่ต้องให้นายมาห่วง ที่ฉันพูด เข้าใจนะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเย็นชา
ได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น ชีซิงเงียบไปหลายวินาที จากนั้นเอ่ยว่า “พี่เฟิง ผมเข้าใจแล้ว”
“พี่เฟิง!”
เวลานี้ทันใดนั้นเอง ประตูห้องประชุมถูกเปิดออก ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาโดดเด่นสวมเสื้อเชิ้ตสีกุหลาบฉูดฉาดผู้หนึ่งก็ก้าวเดินเข้ามา
“เป๋ยโตว ฉันกำลังพูดกับพี่เฟิง” เห็นชายหนุ่ม ชีซิงเอ่ยเสียงเย็นชา
“ไปให้พ้น! เรื่องอะไรสำคัญไปกว่าฉันได้เจอพี่เฟิง!” เป๋ยโต่วรีบเดินขึ้นหน้ามา เบียดก้นดันชีซิงออก จากนั้นก็นั่งลงด้านข้างเยี่ยหวันหวั่น
“พี่เฟิง เป็นพี่จริงๆ ด้วย…ค่อยยังชั่ว…พี่ไปวิ่งเตร่ที่ไหนมา หลายปีนี้พี่ไม่ส่งข่าวคราวให้พวกเขา ก็น่าจะส่งให้ผมสักข่าวนะ…” เป๋ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ
น้องชายมาอีกคนแล้วเหรอ แบดเจอร์แม่มทำไมมีน้องชายเยอะขนาดนี้เนี่ย!
“ฉันมีธุระของฉัน” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มบางเอ่ย
“ช่างเถอะๆ พี่เฟิงเร่ร่อนไม่หยุดนิ่งตลอด…กลับมาครั้งนี้อย่าออกไปเตร็ดเตร่อีกเชียวนะครับ ถ้ายังออกไปเตร็ดเตร่อีก จำไว้ว่าต้องพาผมไปด้วย” เป๋ยโต่วเอ่ยอย่างยิ้มแป้น
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูดชั่วขณะจริงๆ คนพันธมิตรอู๋เว่ยนี่ ตกลงชอบเตร็ดเตร่ขนาดไหนกันแน่…
เมื่อครู่นี้เป๋ยโต่วเจอชิวสุ่ย รู้จากปากของชิวสุ่ยว่าเยี่ยหวันหวั่นก็คือแบดเจอร์ ไม่เหมือนชีซิงที่ขี้ระแวงแบบนั้น เขาไม่สงสัยในตัวตนของเยี่ยหวันหวั่นแม้แต่น้อย
ไม่รอเยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก เป๋ยโต่วรีบเอ่ย “พี่เฟิง พี่ไม่รู้ว่าหลายปีนี้ที่พี่จากไป ตำหนักเทียนเกอออกเมนูใหม่ไม่น้อย ซาลาเปาที่พี่ชอบ รอมีเวลาว่าง พวกเราไปด้วยกันนะครับ!”
“ตำหนักเทียนเกอ…”
เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้จักตำหนักเทียนเกอที่เป๋ยโต่วพูดถึงแม้แต่น้อย ได้แต่พยักหน้าหน้าตอบรับว่าดีหนึ่งเสียง
“ฉันบอกว่า ฉันมีธุระจะคุยกับพี่เฟิง”
เวลานี้ประกายตาของซีชิงเย็นเยียบลงโดยสมบูรณ์
“โอ้?” ได้ยินดังนั้น เป๋ยโต่วยืนขึ้น ใบหน้าสวมรอยยิ้ม ทันใดนั้นเป๋ยโต่วกลับคว้าคอเสื้อของซีชิง “แกแม่งน่ารำคาญเป็นบ้าว่ะ แสร้งทำหน้าคนตายใส่ฉันหาอะไรวะ”
“ปล่อย” น้ำเสียงของชีซิงประหนึ่งน้ำแข็งหมื่นปี
“จะทำไม อยากสู้เหรอ บิดาก็คันมือนิดหน่อยแล้วเหมือนกัน” เป๋ยโต่วบิดลำคอ
“อยากสู้กันก็ไสหัวออกไปข้างนอก”
เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่บนโซฟาเอ่ยเสียงเย็น
“พี่เฟิง…” เป๋ยโต่วหันมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างน้อยใจเล็กน้อย
“ทำไม ที่ฉันพูด พวกนายไม่ได้ยิน? ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“หึ!”
เป๋ยโต่วแค่นเสียงเย็นแล้วปล่อยชีซิงทันที จากนั้นนั่งลงด้านข้างอย่างฮึดฮัด “พี่เฟิง พี่มันลำเอียง ทั้งที่หมอนั่นหาเรื่องก่อนแท้ๆ!”
ไม่เปิดโอกาสให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย ชีซิงลุกขึ้น เดินออกไปนอกโถงประชุม เอ่ยโดยไม่แม้แต่หันหัวกลับมา “เป๋ยโต่ว ตามฉันออกมา”
“พี่เฟิง พี่เห็นไหม…หมอนั่นจะหาเรื่องผม ถึงตอนนั้นเขาแขนขาหายไปข้าง พี่อย่ามาปวดใจเชียว!”
เป๋ยโต่วพูดจบก็ตามหลังชีซิง พุ่งออกไปในพริบตา
…
เยี่ยหวันหวั่นเผยสีหน้าเมินเฉย แต่ในใจกลับกลัวจนจะตายอยู่แล้ว
เป๋ยโต่วนั่นกับชีซิง ไม่มีคนไหนจัดการง่ายสักคน โดยเฉพาะเป๋ยโต่วนั่น เกรงว่าอยู่ข้างแบดเจอร์จะเชื่อฟังอยู่บ้าง แต่ถ้าเผชิญหน้ากับคนนอก ก็เป็นเจ้าคนกินคนไม่คายกระดูกเช่นกัน
แต่เข้าถ้ำเสือแล้ว อยากถอนตัวแค่ไหน เกรงว่าก็คงไม่ง่ายแม้แต่น้อย
ตอนนี้ดูแล้ว เป๋ยโต่วเชื่อมันในตัวตนเธอเต็มร้อย แต่ชีซิงนั่น…
นอกห้องประชุม เป๋ยโต่วจ้องชีซิง เพิ่งกำลังจะลงมือ ชีซิงกลับเอ่ยขึ้นมา “เจ้าโง่”
“แกพูดว่าไงนะ…” หน้าผากเป๋ยโต่วผุดเส้นเลือดดำ
“ผู้หญิงคนนั้นไม่แน่ว่าเป็นตัวจริง” ชีซิงเอ่ย
“ไม่ใช่ตัวจริง?” เป๋ยโต่วชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็แค่นหัวเราะ “เหลวไหลที่นี่ให้มันน้อยหน่อย เธอก็คือพี่เฟิง บิดาจะจำแม้แต่พี่เฟิงผิดเชียวเหรอ!”
เขากับพี่เฟิงเป็นสหายร่วมชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันเชียวนะ!
ถึงไม่รู้ว่าทำไม แต่ความรู้สึกที่ผู้หญิงคนนั้นให้แก่เขาก็คือพี่เฟิง
อีกทั้งเมื่อครู่ชิวสุ่ยก็ยืนยันแล้ว ไม่มีทางผิดพลาดได้แน่