แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1419 คนเล่นกับความรู้สึกคนอื่นต้องถูกสับเป็นหมื่นชิ้น บทที่ 1420 หรือว่าเสียใจทีหลังแล้ว
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1419 คนเล่นกับความรู้สึกคนอื่นต้องถูกสับเป็นหมื่นชิ้น บทที่ 1420 หรือว่าเสียใจทีหลังแล้ว
บทที่ 1419 คนเล่นกับความรู้สึกคนอื่นต้องถูกสับเป็นหมื่นชิ้น
เยี่ยหวันหวั่นอดกลั้นความโกรธเอ่ยเสียงเย็นชา “สหายคนนั้นของฉันบ้านเขาวุ่นวายจนเละตุ้มเป๊ะแล้ว ตัวเองกลับมาลอยชายที่รัฐอิสระ ภรรยาก็ทิ้งไว้ไม่สนใจ เป็นคนเล่นกับความรู้สึกคนอื่นต้องถูกสับเป็นหมื่นชิ้นดีๆ นี่เอง นายแห่งอาชูร่า คุณว่ายังไง”
ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดแบบนี้ ซือเยี่ยหานกลับไม่ได้ตอบกลับทันที
“สหายของผู้นำไป๋ชื่อซือเยี่ยหาน…” หลังผ่านไปชั่วครู่ ซือเยี่ยหานจึงเอ่ย
“ใช่ ชื่อซือเยี่ยหาน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ถ้าฉันจำไม่ผิดที่รัฐอิสระมีกองกำลังหนึ่งชื่อตระกูลซือโบราณ” ดวงตาลึกล้ำของซือเยี่ยหานตกลงบนตัวของเยี่ยหวันหวั่น “ในตระกูลซือนั้น มีคนหนึ่งชื่อซือเยี่ยหาน”
ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วแน่น ไม่เข้าใจว่าคำพูดนี้หมายความว่ายังไง
“ได้ยินมาว่าหน้าตาของซือเยี่ยหานตระกูลซือเหมือนกับฉันมากจริงๆ คนที่ผู้นำไป๋อยากหา น่าจะเป็นคนของตระกูลซือ ไม่ใช่ฉัน” ซือเยี่ยหานเอ่ยเสียงเรียบ
เมื่อสิ้นเสียงของซือเยี่ยหาน เยี่ยหวันหวั่นเผยสีหน้าตกใจเล็กน้อย ที่ชายคนนี้พูดตรงกับที่เนี่ยอู๋หมิงกับนักพรตใจบริสุทธิ์พูดเลย…
ตามที่นักพรตใจบริสุทธิ์เล่า ตระกูลซือโบราณมีคนชื่อซือเยี่ยหานอยู่จริงๆ…
ก่อนหน้านี้เยี่ยหวันหวั่นก็สงสัยว่าซือเยี่ยหานของตระกูลซือคือคุณเก้า…แต่ว่า วันนี้หลังจากเห็นนายของอาชูร่าเธอก็ยังไม่ได้คิดมากต่อ
แต่เวลานี้ นายแห่งอาชูร่าท่านนี้กลับพูดว่าซือเยี่ยหานตระกูลซือหน้าตาเหมือนกับเขามาก
หรือว่าซือเยี่ยหานของตระกูลซือโบราณต่างหากที่เป็นคุณเก้า…นายแห่งอาชูร่าคนนี้แค่บังเอิญหน้าตาเหมือนกับคุณเก้ามากจริงๆ?
แต่เยี่ยหวันหวั่นดูยังไง นอกจากสีผม อย่างอื่นก็เหมือนกันหมด…
ชายหนุ่มพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ผู้นำไป๋จำฉันผิดก็เข้าใจได้ ก่อนหน้านี้ตระกูลซือโบราณก็เคยมีคนจำฉันผิดมาแล้ว”
“ที่คุณพูด จริงเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเห็นอีกฝ่ายพูดมีเหตุมีผลก็ยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ความจริงก็ง่ายนิดเดียว ถ้านายแห่งอาชูร่าพูดจริง เธอก็แค่ต้องไปหาตระกูลซือ หาซือเยี่ยหานคนนั้นก็พอแล้ว
“ฉันไม่จำเป็นต้องโกหกคุณ” ซือเยี่ยหานเอ่ยเสียงเรียบ “แต่ว่ากันว่าไม่กี่วันก่อน ซือเยี่ยหานไปประเทศจีนแล้ว ถ้าผู้นำไป๋อยากหาเขาคงต้องไปที่ประเทศจีน”
ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดซะง่าย แต่เธอจะกลับประเทศจีนยังไง
หนึ่งไม่มีบัตรผ่าน สองไม่มีบัตรประจำตัว นี่ยังไม่ถึงประเทศจีนก็เกรงว่าจะถูกศุลกากรของประเทศอื่นจับตัวไว้ก่อนแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ถึงตัวเธออยากกลับประเทศจีน แต่มีตาแก่หนังเหนียวพวกนั้นของพันธมิตรอู๋เว่ยจับตามองอยู่ เธอก็อย่าคิดจะจากไปไหน
“คุณรู้ได้ยังไงว่าซือเยียหานตระกูลซือไปประเทศจีนแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากถาม
“แค่ได้ยินมา” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบา
“งั้นก็หมายความว่าคุณไม่ได้เห็นกับตา ก็ยืนยันไม่ได้” เยี่ยหวันหวั่นจ้องชายหนุ่มตรงหน้า
“จะพูดอย่างนั้นก็ได้” ซือเยี่ยหานเอ่ย
“ดี งั้นฉันจะไปหาที่ตระกูลซือโบราณ ถ้าซือเยี่ยหานตระกูลซือก็คือคนที่ฉันตามหา ถึงตอนนั้น…ฉันจะพาเขามาขอบคุณคุณด้วยตัวเองแน่นอน” คำพูดของนายแห่งอาชูร่ามาถึงขั้นนี้แล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ได้แต่ต้องเอ่ยปากก่อนยืดตัวขึ้น
ไม่ว่าเยี่ยหวันหวั่นจะหยั่งเชิงยังไง ชายหนุ่มก็มีสีหน้าสงบนิ่งตั้งแต่ต้นจนจบ
ถึงเยี่ยหวันหวั่นไปหาที่ตระกูลซือโบราณจริงๆ ก็ไม่มีทางหาซือเยี่ยหานเจอ เพราะช่วงนี้เขาไม่มีแผนจะกลับตระกูลซือ
ตราบใดที่เยี่ยหวันหวั่นหาซือเยี่ยหานตระกูลซือไม่เจอจะต้องฟังคำพูดของเขา คิดว่าซือเยี่ยหานกลับไปประเทศจีนแล้ว พอเป็นแบบนี้เยี่ยหวันหวั่นก็น่าจะกลับประเทศจีนด้วย แบบนี้เป้าหมายเขาก็บรรลุผลแล้ว
“แต่ฉันต้องเตือนผู้นำไป๋หนึ่งประโยค” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ “ประตูของตระกูลโบราณรัฐอิสระพวกนั้นใช่ว่าใครก็เข้าไปได้”
“จุดนี้ฉันไม่รบกวนผู้นำมาเป็นห่วง” เยี่ยหวันหวั่นพูดพลางสายตาก็จับจ้องชายหนุ่มตรงหน้าไม่วางตา
ถ้าบอกว่าซือเยี่ยหานกำลังแสดงละครอยู่ละก็ งั้นเขาก็ใกล้ชาดติดสีแดงใกล้หมึกติดสีดำ ครามเข้มยิ่งกว่าต้นคราม[1]ของแท้…
———————————————————————————————
บทที่ 1420 หรือว่าเสียใจทีหลังแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นลูบคาง ครุ่นคิดในใจว่าถ้านายแห่งอาชูร่าผู้นี้พูดโกหกจริงๆ ถึงตอนนั้นตัวเองค่อยมาหาเขาอีกทีก็ได้
ถ้าเขาไม่ได้โกหก ซือเยี่ยหานนั้นของตระกูลซือเหมือนเขามากจริงๆ งั้นก็พอพิสูจน์แล้วว่าซือเยี่ยหานตระกูลซือต่างหากจึงจะเป็นคุณเก้า
และนายแห่งอาชูร่าคนนี้ ก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญ…
แต่ถึงผู้ชายคนนี้พูดได้ไร้พิรุธสักเสี้ยว ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบเยี่ยหวันหวั่นก็ยังคงสงสัยอยู่ดี
บางทีสัมผัสที่หกของผู้หญิงก็ไม่คำนึงถึงเหตุผลแบบนี้
แต่ที่เวรกรรมคือ ลำพังอาศัยแค่สัญชาตญาณก็ไม่มีประโยชน์อันใด ผู้ชายตรงหน้านี้ทิฐิสูง อีกทั้งยังไร้ช่องโหว่ให้ติดตามโดยสิ้นเชิง
เยี่ยหวันหวั่นจ้องใบหน้าไร้อารมณ์ของชายหนุ่ม มีความรู้สึกโศกเศร้าบอกไม่ถูกอย่างคลื่นลูกใหม่แทนที่คลื่นลูกเก่า คลื่นลูกเก่าสลายไปบนชายหาด
บ้าที่สุด!
ขิงยิ่งแก่ยิ่งแรง เธอก็จะไม่ยอมแพ้เหมือนกัน!
เยี่ยหวันหวั่นเก็บอารมณ์ หยิบกระดาษปากกาจากบนโต๊ะหนังสือของชายหนุ่ม ขีดๆ เขียนๆ เบอร์มือถือของตัวเองลงไป
จากนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็ยื่นมือยัดกระดาษที่เขียนเบอร์มือถือตัวเองไว้ใส่เข้าไปในกระเป๋าตรงอกเสื้อสูทของชายหนุ่มก่อนยิ้มพลางเอ่ย “นี่เป็นเบอร์มือถือฉัน ส่วนข้อเสนอเกี่ยวกับส่วยเมื่อกี้ ถ้าท่านนายแห่งอาชูร่าเสียใจทีหลังละก็…ก็ติดต่อฉันได้ทุกเมื่อ!”
ชายหนุ่มมองมือเล็กที่ทาบกับหน้าอกตัวเองโดยไม่รู้ตัว ไม่เอ่ยอะไร แต่องศาหางตากลับกระเพื่อมน้อยๆ เผยเสี้ยวอารมณ์ของเจ้านายออกมา
ยัดเบอร์มือถือเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นก็ตบๆ มือแล้วยืดตัวตรงก่อนโบกมือเอ่ย “งั้น หวังว่าจะเจอคุณอีก”
ดูท่าแล้ววันนี้คงไม่ได้ผลลัพธ์แล้ว แต่อนาคตยังอีกยาวไกลยังไงเขาก็หนีไม่ได้ เธอคิดหาวิธีเยี่ยมตระกูลซือนั้นสืบค้นให้ชัดเจนก่อนค่อยว่ากัน
เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็หันตัวกำลังจะจากไป
แต่ชายหนุ่มกลับลุกขึ้นตามหลังเยี่ยหวันหวั่นมา
“นายแห่งอาชูร่าตามฉันมาทำไม หรือว่าเสียใจทีหลังแล้วเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นหันมาเลิกคิ้วน้อยๆ ถามชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลัง
“ถ้าฉันไม่ไปส่งผู้นำไป๋ เกรงว่าผู้นำไป๋ยากจะออกจากที่นี่” ชายหนุ่มเอ่ยปาก
เยี่ยหวันหวั่นยักไหล่ ไม่พูดมากต่อปล่อยให้ชายหนุ่มตามมา ทั้งสองเดินเคียงบ่ากัน
“นายแห่งอาชูร่า ซือเยี่ยหานตระกูลซือคนนั้นหน้าตาเหมือนคุณมากจริงเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเดินไปด้วยถามไปด้วย
ฝีเท้าของชายหนุ่มเชื่องช้ามาก ตามหญิงสาวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างไม่เร็วไม่ช้า ได้ยินแบบนั้นก็ยังคงพูดประโยคนั้น “ฉันไม่จำเป็นต้องโกหกคุณ”
ชายหนุ่มหยุดเล็กน้อยก่อนเอ่ยต่อ “ผู้นำไป๋ พันธมิตรอู๋เว่ยเป็นมังกรไร้หัวมาหลายปี ตอนนี้มีฝักฝ่ายไม่น้อย จำเป็นต้องระวัง”
“นายแห่งอาชูร่าเหมือนจะเป็นห่วงฉันมาก” เยี่ยหวันหวั่นมองชายหนุ่มตรงหน้า
ได้ยินดังนั้นชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ “แค่นับถือความสามารถกับความใจกล้าของผู้นำไป๋ก็เท่านั้น”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
นับถือความสามารถกับความใจกล้าในการหาเรื่องอาชูร่าของเธอเหรอ
เวลานี้ทั้งสองเดินมาถึงหน้าทางเข้าคฤหาสน์แล้ว
เยี่ยหวันหวั่นกำลังจะเอ่ยปาก ขบวนรถแถวหนึ่งก็แล่นมาถึงด้วยความเร็วสูง แทบจะในชั่วพริบตาเดียวรถสิบกว่าคันก็ล้อมทั้งคฤหาสน์ไว้
ในชั่ววินาทีนั้น รถหรูคันที่นำหน้าก็จอดไม่ไกลจากซือเยี่ยหานและเยี่ยหวันหวั่น
ไม่นานคูกู่ก็เปิดประตูรถต้อนรับจี้ซิวหร่านออกมาก
ชายหนุ่มสวมสูทสีเทาอ่อนสง่างาม มุมปากยกยิ้มบาง เดินออกมาจากในรถก้าวเดินมาถึงช้าๆ
“เอ่อ จี้ซิวหร่าน…?”
หลังเห็นชายที่ลงมาจากรถชัด เยี่ยหวันหวั่นก็พลันมีสีหน้าตกตะลึง
บ้าเอ๊ย นี่มันจี้หวงไม่ใช่เหรอ?
เขามาทำไม…
……………………………………………
[1] ครามเข้มยิ่งกว่าต้นคราม หมายถึง ศิษย์เหนือกว่าครู คนรุ่นหลังเหนือกว่าคนรุ่นก่อน