แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1437 ยั่วยุไม่ได้ง่ายๆ บทที่ 1438 หยั่งเชิง
บทที่ 1437 ยั่วยุไม่ได้ง่ายๆ
ทว่าแม้แต่เยี่ยหวันหวั่นก็คิดไม่ถึงว่า คำพูดของเป่ยโต่วในวันนี้จะกลับกลายเป็นจริงในภายหลัง
เยี่ยหวันหวั่นเวลานี้คิดไม่ถึงแม้แต่น้อย ว่าในอนาคตพันธมิตรอู๋เว่ยที่เธอนำ จะเซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรกับอาชูร่า ประตูเชือดและสวรรค์ชัง และทำให้พันธมิตรอู๋เว่ยกลายเป็นสมาชิกหลักที่สี่ของคุกแห่งบาปนอกจากสวรรค์ชัง ประตูเชือดและอาชูร่าจริงๆ
แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นเรื่องหลังจากนี้
เยี่ยหวันหวั่นในเวลานี้เก็บหมายเชิญในมือแล้วมองเป่ยโต่ว “คนของดาวลงทัณฑ์ล่ะ”
ได้ยินแบบนั้นเเป่ยโต่วก็ยักไหล่เอ่ยปาก “หลังออกจากคฤหาสน์สามคนนั้นก็ไล่ทวงเงินผม ผมเลยวิ่งหนี…ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ไหน”
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด
ถึงสามคนนั้นรักเงินยิ่งชีพ แต่ตัวเธอกับพวกเขามีความสัมพันธ์เป็นนายจ้างลูกจ้าง เงินที่ควรจ่ายก็ต้องจ่ายสิ หนีนี่มันยังไง…
“เอาเงินหนึ่งแสนให้พวกเขา เงินที่นายหลอกเจ้าสวะหมาครั้งก่อนก็ครบพอดี” เยี่ยหวันหวั่นมองเป่ยโต่วพลางเอ่ย
ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าเป่ยโต่วเปลี่ยนไปทันควัน เขารีบร้อนเปลี่ยนประเด็น “จริงสิพี่เฟิง…ผมมาหาพี่เพราะมีธุระนะ!”
“ว่า” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ตาแก่พวกนั้นให้พี่ไปเปิดประชุม…บอกว่ากองกำลังใหญ่ใต้สังกัดอาชูร่ากองกำลังหนึ่งทำลายฐานสาขาหนึ่งของพันธมิตรอู๋เว่ยพวกเรา…”
“กองกำลังใต้สังกัดของอาชูร่า?” ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นพลันชะงัก
กองกำลังใต้สังกัดอาชูร่าทำลายสาขาหนึ่งของพันธมิตรอู๋เว่ย!?
เยี่ยหวันหวั่นลุกพรวดขึ้นเดินไปที่ชั้นประชุมทันที
…
ห้องประชุมเวลานี้โหวกเหวกวุ่นวายมาก
มีระดับสูงเสนอให้ทำการล้างบางแก้แค้น ถึงอาชูร่าเป็นสมาชิกหลักของคุกแห่งบาป แต่พันธมิตรอู๋เว่ยพวกเขาก็ไม่ได้ยั่วยุง่ายๆ อย่างมากทุกคนก็กอดคอตายไปด้วยกัน
เบื้องบนบางส่วนยืนกรานต่อต้านการโต้กลับ คิดเสียว่ายอมโดนเอาเปรียบ
“ถึงอาชูร่าจะยิ่งใหญ่และเป็นสมาชิกของคุกแห่งบาป แต่ที่ทำลายสาขาพวกเราเป็นกองกำลังใต้สังกัดอาชูร่า อาชูร่าไม่ได้ทำสักหน่อย พวกเราไปกำจัดกองกำลังใต้สังกัดนั้นแล้วจะทำไม”
“น่าขำ” ผู้อาวุโสสามหลี่ซือแค่นยิ้มเยาะ “พวกคุณไม่รู้เหรอว่าอะไรเรียกว่ากองกำลังใต้สังกัด ถ้าพวกเราโจมตีกองกำลังใต้สังกัด อาชูร่าจะนิ่งเฉยดูดายได้ยังไง”
แทบทั้งหมดในโถงประชุมคือเบื้องบนของพันธมิตรอู๋เว่ย มิหนำซ้ำต่างก็อยู่คนละฝ่าย ย่อมมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นเดินเข้าโถงประชุม เสียงโต้เถียงไม่ขาดในตอนแรกก็พลันหายไปในพริบตา ทั่วทั้งโถงประชุมเงียบฉี่
เยี่ยหวันหวั่นเดินเข้าโถงประชุม กวาดสายตามองทุกคนหนึ่งรอบ จากนั้นก็นั่งลงบนที่นั่งผู้นำอย่างเป็นธรรมชาติยิ่ง
มองทุกคนเงียบเชียบ เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้ถูกภายนอกทำสับสน ทุกคนที่นี่ล่วนต่างเคลื่อนไหวในที่ลับ ทุกคนหวังหาข้อมูลว่าตัวเธอไม่ใช่ผู้นำพันธมิตเจอจากนั้นก็ฆ่าเธอ
เยี่ยหวันหวั่นรู้ข้อมูลภายในจำนวนหนึ่งจากปากของชีซิงว่า เพื่อให้ภายในพันธมิตรอู๋เว่ยไม่แตกแยก พวกเขามองเธอเป็นตัวหมาก ต่างก็เซ็นสัญญาข้อตกลงกันว่าใครเป็นคนแรกที่พิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่ผู้นำพันธมิตรได้ คนนั้นก็จะสามารถนั่งบนบัลลังก์ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยได้
ทุกการตัดสินใจ ทุกฝีเก้าของเยี่ยหวันหวั่นตอนนี้ล้วนต้องระมัดระวัง ไม่งั้นหากเผลอเรอนิดเดียว ที่ต้อนรับเธออยู่ก็คือห้วงลึกที่ไร้ความหวังหวนคืน
เบื้องบนพวกนี้มองเธอเป็นหมาก อยากยืมใช้ตำแหน่งของตัวเธอ แต่ใครเล่าจะรู้ว่า เธอก็มองเบื้องบนพวกนี้ มองทั้งพันธมิตรอู๋เว่ยเป็นหมากเช่นกัน
อยากจะทดสอบว่าเธอใช่ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยตัวจริงหรือเปล่า ไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น!
————————————————————————————–
บทที่ 1438 หยั่งเชิง
“พูดมาเถอะ”
เยี่ยหวันหวั่นที่นั่งบนบัลลังก์กวาดสายตาเย็นชาผ่านพวกผู้อาวุโสสามหลี่ซือ
“หึๆ…ผู้นำ คุณเพิ่งกลับมาจากงานประชุมอาชูร่า…หรือว่าในงานประชุมจะเกิดเรื่องอะไรงั้นเหรอ…”
ผู้อาวุโสบางคนมองเยี่ยหวันหวั่น เอ่ยปากอย่างแฝงความหมาย
ก่อนหน้านี้ตอนที่รู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นกลับจากงานประชุมอาชูร่าอย่างไร้บาดแผล เบื้องบนเหล่านี้ตกใจมากจริงๆ
ด้วยนิสัยของผู้นำอาชูร่า ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่ลงมือกับผู้หญิงคนนี้…
แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถ้าเยี่ยหวันหวั่นตายในมือของผู้นำอาชูร่าจริงๆ งั้นเกมจับเท็จของพวกเขานั้นก็เกรงว่าต้องจบลงแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นไม่ตาย พวกเขาจึงสามารถตามหาหลักฐานที่เยี่ยหวันหวั่นปลอมตัวเป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยต่อได้
“ทำไม นายคิดว่าในงานประชุมน่าจะเกิดเรื่องอะไรงั้นเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นจ้องชายชราพลางเอ่ยถามเสียงเย็น
ชายชราหัวเราะเบาๆ ทันที เขาส่ายหน้าไม่ได้พูดอะไรต่อ
“เมื่อกี้ฉันได้ยินเป่ยโต่วพูดว่า สาขาหนึ่งทางเขตเหนือของพันธมิตรอู๋เว่ยถูกกองกำลังใต้สังกัดอาชูร่าทำลาย” เยี่ยหวันหวั่นตรงเข้าประเด็น
ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสสามหลี่ซือเผยรอยยิ้มยากอธิบาย พยักหน้าเอ่ยว่า “ผู้นำ ก่อนหน้านี้สาขาทางเขตเหนือเกิดความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์กับกองกำลังใต้สังกัดอาชูร่า กองกำลังใต้สังกัดอาชูร่านั้นอาศัยการคุ้มครองของอาชูร่า ทำการโจมตีกวาดล้างสาขานั้น ได้ยินว่ามีกระทั่งสมาชิกกองกำลังอาชูร่าบางส่วนอยู่ในนั้น”
เยี่ยหวันหวั่นมีท่าทีครุ่นคิด ตามพฤติกรรมของพันธมิตรอู๋เว่ย โดยเฉพาะผู้นำอู๋เว่ยแล้ว นี่เท่ากับว่าถูกคนตบหน้าอย่างแรง เท่ากับขายหน้าอย่างใหญ่หลวง จะรับได้ที่ไหน!
ไม่ว่าคุณคืออาชูร่าหรือคุกแห่งบาปอะไร หากยั่วยุพันธมิตรอู๋เว่ยแล้ว อย่างมากก็กอดพวกเขาตายไปพร้อมกัน ต่อให้ระดับไม่พอ ไม่สามารลากอีกฝ่ายตกตายไปตามกันได้ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องสร้างความรังเกียจให้พวกเขา
“ตอนนี้พวกเรากำลังถกกันไม่ตก มีเบื้องบนคิดว่าสาขาแห่งเดียวล่มสลายไปก็ช่างปะไร แต่ก็มีเบื้องบนคิดว่านี่เป็นการอับอายขายหน้าถึงที่สุด ควรโจมตีกลับ แน่นอนว่าสุดท้ายจะทำยังไง ควรตัดสินโดยผู้นำครับ” ผู้อาวุโสสามจ้องเยี่ยหวันหวั่นพลางยิ้มแต่ไม่ยิ้มเอ่ย
สายตาของเบื้องบนในที่นี่เวลานี้พากันจ้องมองมาที่เยี่ยหวันหวั่น ไม่ว่าตัดสินใจแบบไหน สำหรับผู้หญิงคนนี้แล้วก็อันตรายถึงชีวิตอย่างยิ่ง
ถ้าเยี่ยหวันหวั่นเลือกรามือก็เท่ากับว่าหักหลังความเชื่อและหลักคำสอนของพันธมิตรอู๋เว่ย อีกทั้งยังไม่ใช่สไตล์ของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแม้แต่น้อย
แต่ถ้าเยี่ยหวันหวั่นตัดสินใจทำการโต้กลับ อาชูร่าจะต้องลงมือแทรกแซงแน่นอน ส่งผลให้ระดับของเรื่องราวยิ่งเลวร้ายลงและนำมาสู่การล่มสลายของพันธมิตรอู๋เว่ย…
ครั้งนี้ไม่ว่าเลือกอะไรก็เป็นการเลือกหายนะทั้งสิ้น!
เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจา
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร สุดท้ายเยี่ยหวันหวั่นก็ยังตัดสินใจว่า แค้นนี้ต้องชำระ!
และตัวเองต้องเป็นคนนำทัพเองด้วย!
ด้านหนึ่งเพื่อสร้างอำนาจของตัวเอง จุดที่สำคัญมากอีกด้านหนึ่งคือ ยังสามารถหยั่งเชิงผู้นำอาชูร่าที่เหมือนกับซือเยี่ยหานเปี๊ยบคนนั้นได้ด้วย
ตัวเองพาพันธมิตรอู๋เว่ยไปทำลายกองกำลังใต้สังกัดของอาชูร่า เธอจะดูซิว่า ผู้นำอาชูร่าจะลงมือยังไงกันแน่
“ชีซิง เป่ยโต่ว ความเห็นของพวกนายล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นมองสองคนที่อยู่ไม่ไกล
“พี่เฟิง นั่นยังต้องพูดเหรอ ก็ต้องสู้อยู่แล้วสิ ฆ่าเจ้าพวกลูกหมานั่น พวกมันกล้าลงมือกับสาขาพันธมิตรอู๋เว่ย!” เป่ยโต่วมีสีหน้าตื่นเต้นเต็มที่ ท่าทางเหมือนหวังให้ทั้งโลกอลหม่าน คำตอบไม่ต่างจากที่เยี่ยหวันหวั่นคาดคิดไว้
ต้องพูดว่าไม่แปลกที่เป่ยโต่วเจ้าโง่นี้ถูกแบดเจอร์มอบตำแหน่งสำคัญให้ ก็คงเพราะนิสัยใจคอเดียวกันนี่เอง