แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1869 ถ้าฉันคือเนี่ยอู๋โยวล่ะ บทที่ 1870 ไม่น่าเชื่อถือเกินไปแล้ว
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1869 ถ้าฉันคือเนี่ยอู๋โยวล่ะ บทที่ 1870 ไม่น่าเชื่อถือเกินไปแล้ว
บทที่ 1869 ถ้าฉันคือเนี่ยอู๋โยวล่ะ
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ไม่ต้องแล้ว” ซื้อให้ปู่แกสิ มันหนีไปหมดแล้ว ยังจะดื่มเหล้าหาอะไร!
“ผู้นำ”
ชายผมเงินมองเยี่ยหวันหวั่น แล้วชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะขมวดคิ้วทันที “ผู้นำอะไร…ผู้นำที่ไหน”
“ถึงพูดกับแกแกก็ไม่เข้าใจ เคยได้ยินรัฐอิสระหรือเปล่า พันธมิตรอู๋เว่ยเคยได้ยินไหม ต้องไม่เคยได้ยินพันธมิตรอู๋เว่ยแน่นอนใช่ไหมล่ะ เจ้าบ้านนอก”
สมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยคนหนึ่งเหล่ตามองชายผมเงิน
โดดเดี่ยวแสวงพ่ายแล้วยังแม่งทั่วหล้าไร้ผู้ต้าน เป็นไอ้บ้านนอกจริงๆ
“พวกนายไปกันก่อนเถอะ”
เยี่ยหวันหวั่นโบกมือพลางเอ่ยกับพวกสมาชิกของพันธมิตรอู๋เว่ย
“ครับ…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น พวกเขาก็พยักหน้าแล้วจากไป
รอจนสมาชิกของพันธมิตรอู๋เว่ยพวกนั้นจากไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็มองชายผมเงินด้วยท่าทางครุ่นคิด อย่าบอกนะว่า เป็นไปได้ไหมว่า เขาคืออาจารย์ของเนี่ยอู๋โยวจริงๆ …
แต่น่าเสียดาย ตอนนี้ตัวเธอเองจำไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
“เอ๊ะ…ไม่ถูกสิ”
ชายผมเงินจ้องเยี่ยหวันหวั่น ดวงตาวาบแววประหลาด
“อะไรไม่ถูก” เยี่ยหวันหวั่นถามอย่างสงสัย
“เธอคือไป๋เฟิงของพันธมิตรอู๋เว่ยที่หายตัวไปหลายปี…” ชายผมเงินจ้องเยี่ยหวันหวั่นเหมือนยากจะเข้าใจอยู่บ้าง
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ ไป๋เฟิงเป็นแค่โฉมนอก ตัวตนที่แท้จริงของเธอยังคงเป็นเนี่ยอู๋โยว
“งั้นดูท่าฉันคงจำผิดจริงๆ ลูกศิษย์ของฉันคืออู๋โยว ไม่ใช่ไป๋เฟิง” ชายผมเงินพึมพำในลำคอ
ไป๋เฟิงแบดเจอร์ของรัฐอิสระก็คือเนี่ยอู๋โยว เรื่องนี้มีแค่พวกจี้ซิวหร่านไม่กี่คนที่รู้ ไม่ว่าซือเยี่ยหานก็ดี หรือชายผมเงินที่อยู่ตรงหน้าก็ดี แม้แต่ผู้นำตระกูลและคุณนายตระกูลเนี่ยต่างก็ไม่รู้
“คุณว่า ลูกศิษย์ของคุณชื่ออู๋โยว…อย่าบอกนะว่าคือตระกูลเนี่ยของรัฐอิสระ…” เยี่ยหวันหวั่นมองชายผมเงินและถามหยั่งเชิง
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น สายตาของชายผมเงินก็ตกลงบนตัวของเยี่ยหวันหวั่น “ใช่ไง ลูกศิษย์ของฉันคือเนี่ยอู๋โยวที่หายตัวไปหลายปี…เดิมทีฉันคิดว่าเป็นเธอ…แต่ตอนนี้ดูทรงแล้ว ฉันน่าจะเข้าใจผิด”
เนี่ยอู๋โยวก็คือเนี่ยอู๋โยว แบดเจอร์พันธมิตรอู๋เว่ยก็คือแบดเจอร์พันธมิตรอู๋เว่ย เป็นคนละคนกันโดยสิ้นเชิง
“คุณมีหลักฐานหรือเปล่าว่าคุณคืออาจารย์ของเนี่ยอู๋โยว” หลังจากเยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยถาม
ไม่ว่ายังไง ตอนนี้ตัวเองก็ยังไม่ได้ฟื้นคืนความทรงจำ ถึงแม้ชายผมเงินตรงหน้าเคยช่วยตัวเองไว้สองครั้ง แต่ถ้าไม่มีหลักฐานพิสูจน์อย่างชัดเจนว่าเขาคืออาจารย์ของเนี่ยอู๋โยว เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามยอมรับ
ตั้งแต่ที่ไปยังรัฐอิสระ ก็มีแผนการซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากมาย โดยเฉพาะหลังจากที่ตัวเองได้รับแหวนวงนี้ก็เหมือนกับแผนการที่ใหญ่ยิ่งกว่ากำลังค่อยๆ เผยออกมาจากผิวน้ำ ปฏิบัติการหลังจากนี้ของเธอจะต้องระมัดระวังยิ่งขึ้น ห้ามประมาท
“หลักฐานอะไร ฉันบอกว่าใช่ก็คือใช่” ชายผมเงินเอ่ย
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นพูดต่อก็กลับไม่เห็นว่าชายผมเงินเคลื่อนไหวยังไง ถึงกับถอดแหวนที่ปลายนิ้วของเยี่ยหวันหวั่นออกมาได้
เมื่อเห็นดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองชายผมเงินแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
“แหวนวงนี้มีค่ามากเหรอ” ชายผมเงินพินิจมองแหวนอย่างละเอียด “ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษนะ ด้านบนไม่มีแม้แต่เพชร ของผุๆ นี่มีอะไรน่าแย่งกัน”
“ไม่มีค่าก็คืนให้ฉันเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
“เอาไปๆ” ชายผมเงินคืนแหวนให้กับเยี่ยหวันหวั่น
“เอ่อ คุณไม่รู้จริงๆ เหรอว่าแหวนวงนี้ใช้ทำอะไร” เยี่ยหวันหวั่นถามอย่างสงสัยอยู่บ้าง
ตัวตนของชายผมเงินผู้นี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าแหวนวงนี้มีประโยชน์อะไร…
“เฮ้อ เสียเวลาเปล่า” ชายผมเงินส่ายหน้าก่อนที่จะหันกายจากไป
“เดี๋ยวก่อน” เมื่อเห็นว่าชายผมเงินกำลังจะไป เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ถ้า ฉันบอกว่าฉันก็คือเนี่ยอู๋โยวล่ะ…”
———————————————————-
บทที่ 1870 ไม่น่าเชื่อถือเกินไปแล้ว
เมื่อได้ยินสิ่งที่เยี่ยหวันหวั่นพูด ชายผมเงินก็หยุดฝีเท้า พินิจมองเยี่ยหวันหวั่น “เธอว่าอะไรนะ เธอคือเนี่ยอู๋โยว?”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยกับชายผมเงิน “ไม่เหมือนเหรอ”
“ตอนนี้ดูแล้วไม่ค่อยเหมือน” ชายผมเงินส่ายหน้า
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ตอนนี้ไม่ค่อยเหมือน หรือว่าก่อนหน้านี้ค่อนข้างเหมือนเหรอ หรือจะบอกว่าตัวเองเปลี่ยนหน้าได้ เดี๋ยวก็หน้าตาอีกแบบหนึ่ง
“เธอไม่ได้บอกว่าตัวเองคือไป๋เฟิงหรอกเหรอ ทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าตัวเองคือเนี่ยอู๋โยวอีกล่ะ” ชายผมเงินชำเลืองมองเยี่ยหวันหวั่น
“ฉันคือเนี่ยอู๋โยว…” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“เธอคือเนี่ยอู๋โยว…งั้นไป๋เฟิงคือใคร” ชายผมเงินขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ไป๋เฟิงก็คือฉัน” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
“เธอคือไป๋เฟิง…งั้นเนี่ยอู๋โยวล่ะ…เธอทำฉันหัวหมุนไปหมดแล้ว” สีหน้าของชายผมเงินเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด คนที่ถูกทำให้หัวหมุน ไม่ใช่ตัวเธอหรอกเหรอ…
“คุณไม่เชื่อ งั้นก็ช่างเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“เธอมีหลักฐานอะไรบอกว่าเธอคือเนี่ยอู๋โยวลูกศิษย์ฉัน” หลังจากชายผมเงินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“งั้นคุณมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ว่าคุณคืออาจารย์ของเนี่ยอู๋โยว” เยี่ยหวันหวั่นถามกลับ
ในตอนที่ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดมาพิสูจน์ว่าชายผมเงินคนนี้ก็คืออาจารย์ของเนี่ยอู๋โยว เยี่ยหวันหวั่นย่อมระวังตัวในระดับหนึ่งกับชายผมเงิน แม้ว่าชายคนนี้จะช่วยเธอสองครั้งแล้วก็ตาม
“ฉันคร้านจะคุยไร้สาระกับเธอ…ในเมื่อเธอบอกว่าเธอคือเนี่ยอู๋โยว งั้นฉันถามเธอหน่อย ทำไมเธอถึงจำไม่ได้แม้กระทั่งอาจารย์ของตัวเอง หรือว่าเธอสูญเสียความทรงจำงั้นเหรอ” ชายผมเงินเอ่ยถาม
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “คุณบอกว่าคุณคืออาจารย์ของเนี่ยอู๋โยว งั้นทำไมแม้แต่ลูกศิษย์ของตัวเองคุณก็จำไม่ได้ หรือว่าคุณก็สูญเสียความทรงจำงั้นเหรอ”
“สาวน้อยคนนี้ ช่างปากคอเราะรายจริงๆ ได้ รอหลังจากที่เธอกลับไปยังรัฐอิสระ เธอใช่เนี่ยอู๋โยวหรือเปล่า ฉันย่อมมีวิธีหาคำตอบ”
เมื่อชายผมเงินพูดจบก็หันกายจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง ชั่วพริบตาก็ไม่เห็นเงาแล้ว
หลังจากที่เห็นว่าชายผมเงินจากไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็หมดคำพูดเล็กน้อย นี่ก็ไม่น่าเชื่อถือเกินไปแล้วมั้ง
ในเมื่อชายผมเงินไม่รู้ว่าตัวเองก็คือเนี่ยอู๋โยวลูกศิษย์ของเขา งั้นทำไมเขาถึงช่วยเธอถึงสองครั้ง…หรือว่าชายผมเงินแค่ไม่แน่ใจ ยังไงเสียตัวเธอกับเนี่ยอู๋โยวก็ยังมีจุดที่คล้ายคลึงกันอยู่บ้าง เนี่ยอู๋หมิงก็เคยพูดประโยคนี้
ในใจของเยี่ยหวันหวั่นนั้นสงสัยมาก ชายผมเงินแท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่…หรือว่าเขาจะเป็นอาจารย์ของเธอจริงๆ …
ถึงแม้ว่าชายผมเงินจะเป็นอาจารย์ของเนี่ยอู๋โยว แต่เขากลับจำเธอไม่ได้ เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่รู้สึกว่ามีจุดที่น่าตกใจและน่าแปลกตรงไหน อย่าว่าแต่อาจารย์เลย แม้แต่พ่อแม่ และพี่ชายแท้ๆ อย่างเนี่ยอู๋หมิง ก็ไม่ใช่ว่าจำเธอไม่ได้เหมือนกันหรอกเหรอ
แต่จะว่าไป ตัวเองน่าจะติดตามคุณตามาตั้งแต่เด็ก จึงได้พบปะกับคนของตระกูลเนี่ยน้อยมาก ไม่แน่คุณตาอาจห้ามเจอผู้นำตระกูลและคุณนายเนี่ยรวมถึงเนี่ยอู๋หมิงตั้งแต่แรก ถ้าเป็นแบบนั้น การที่คนตระกูลเนี่ยจะจำเธอไม่ได้ก็สมเหตุสมผล พอจะยกโทษให้ได้ แต่อาจารย์ของตัวเองจำตัวเองไม่ได้ นี่ออกจะ…โง่เง่าไปแล้วมั้ง
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก รถยนต์คันหนึ่งก็แล่นเข้ามาด้วยความเร็วสูงและจอดอยู่ข้างทาง
วินาทีถัดมาพวกเป่ยโต่วกับชีซิงก็ลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว
“พี่เฟิง พี่โดนปล้นเหรอ! มันอยู่ไหน ผมจะฆ่ามัน!”