แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1887 ฉันมียาถอนพิษ บทที่ 1888 ภาพพจน์กำลังจะพัง
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1887 ฉันมียาถอนพิษ บทที่ 1888 ภาพพจน์กำลังจะพัง
บทที่ 1887 ฉันมียาถอนพิษ
“เอ่อ…ใช่” เนี่ยอู๋หมิงพยักหน้า
“ถ้าฉันฟาดฝ่ามือนี้ออกไป คุณตายได้เลยนะ” เยี่ยหวันหวั่นพูดพลางง้างมือขึ้น หวังจะตบเนี่ยอู๋หมิงให้ตายด้วยฝ่ามือเดียว
เผื่อเดธโรสใหม่ที่ตัวเองสร้างขึ้นจะสามารถดึงดูดความสนใจจากคนที่ชอบได้ นี่ก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
“น้องสาว อย่ากลัวไปเลย เดธโรสน่ะ…ทั้งหมดเป็นแค่อดีต…อย่าพูดว่าเธอกำลังสร้างเดธโรสใหม่ เธอแค่สร้างกองกำลังขึ้นมาใหม่ เรียกพ่อของทุกคนในรัฐอิสระมาก็ยังได้…ก็แค่ชื่อเท่านั้นแหละ อย่ากังวลไปเลย” เนี่ยอู๋หมิงกล่าวอย่างชอบธรรม
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก เนี่ยอู๋หมิงเป็นสัตว์ประหลาดชนิดใด พ่อของทุกคนในรัฐอิสระบ้างล่ะ…แล้วยังปู่ของทุกคนในรัฐอิสระอีก!
“ฉันขอถามคุณ ตกลงเดธโรสคืออะไรกันแน่ บอกมาให้ละเอียดนะ” เยี่ยหวันหวั่นเริ่มหมดความอดทน
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เนี่ยอู๋หมิงจึงต้องพูดความจริง “เดธโรส… จริงๆ แล้ว…เป็นกองกำลังที่สืบทอดต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น ผู้นำแต่ละรุ่นต่างก็เป็นผู้หญิง ใช้ชื่อว่าหญิงหม้ายชุดดำ และยังมีรหัสพิเศษที่เรียกว่าเอริก”
เมื่อเห็นว่าความโกรธของเยี่ยหวันหวั่นค่อยๆ ลดลง เนี่ยอู๋หมิงจึงค่อยโล่งอกแล้วพูดต่อ “ที่จริงนะ…เดธโรสได้ถูกทำลายจนหมดสิ้นไปนานหลายปีแล้ว และกลายเป็นอดีตไปแล้ว…”
“เท่าที่ฉันรู้ เดธโรสนั้นแข็งแกร่งมาก จนทำให้ทั่วทั้งรัฐอิสระตื่นกลัว ทำไมองค์กรที่มีอำนาจแบบนี้จึงพังพินาศลงได้ และใครเป็นคนทำให้มันพัง?” เยี่ยหวันหวั่นถามด้วยความสงสัย
พอฟังจบ เนี่ยอู๋หมิงก็ส่ายหัว “ฉันจะไปรู้เหรอ…ฉันไม่ได้รู้เรื่องเดธโรสขนาดนั้น…”
“เออใช่ แล้วเอริกคืออะไร?” เยี่ยหวันหวั่นนึกขึ้นได้ว่าซือป๋ออี้เคยพูดถึงชื่อนี้
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่…น่าจะเป็นการแก้แค้น” เนี่ยอู๋หมิงกล่าว
“แก้แค้น…แก้แค้นกับใคร?” เยี่ยหวันหวั่นถามออกไปโดยไม่รู้ตัว
แต่เนี่ยอู๋หมิงกลับส่ายหัว “ฉันจะไปรู้เยอะขนาดนั้นได้ยังไงละ ไม่งั้น…เธอไปถามแม่ฉันหรือพ่อฉันดูสิ พวกเขารุ่นนั้นน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะ…”
เยี่ยหวันหวั่นย่อมไม่สามารถถามหัวหน้าและนายหญิงตระกูลเนี่ยได้ ในเมื่อเนี่ยอู๋หมิงไม่รู้ก็แล้วไป เดธโรสกับเธอไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน อย่างมากที่สุด พอถึงเวลาก็ค่อยเปลี่ยนชื่อกองกำลังใหม่
“เออใช่…”
ทันใดนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็กลอกตาเล็กน้อย แล้วหยิบแหวนที่ดูแปลกตาออกมายื่นให้เนี่ยอู๋หมิงดู “ช่วยฉันดูหน่อยสิ คุณรู้จักแหวนวงนี้ไหม”
เมื่อฟังจบ เนี่ยอู๋หมิงก็หยิบแหวนมาพลิกดูไปมา ผ่านไปครู่หนึ่งก็ขมวดคิ้วมองไปยังเยี่ยหวันหวั่น
“เป็นไง…” เมื่อเห็นเนี่ยอู๋หมิงมีท่าทางผิดแปลกไป เยี่ยหวันหวั่นก็รีบถามทันที
“แหวนวงนี้…ทำจากวัสดุหายาก ใช้ช่างที่มีฝีมือประณีตซับซ้อนและพิเศษมาก…ต้องมีราคามหาศาลแน่ๆ!” เนี่ยอู๋หมิงจ้องมองแหวน “ดูเส้นนี่สิ จุ๊ๆๆ…ดูวัสดุนี่…น้องสาว แหวนวงนี้เป็นของเธอเหรอ ฉันมีลู่ทางแล้ว ไม่งั้นนะ เราเอามันไปขายดีกว่า ส่วนเงินฉันเอาสามส่วนเธอเอาไปเจ็ดส่วน อย่างมากสุดก็ฉันเอาสองเธอเอาไปแปด…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก สิ่งที่คาดหวังจากเนี่ยอู๋หมิง คือสมองที่ไม่เคยคิดเรื่องดีเลยจริงๆ
“เอาคืนมา!” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
“โอ้ …” เนี่ยอู๋หมิงคืนแหวนให้เยี่ยหวันหวั่นแต่โดยดี แต่ก็ไม่ค่อยจะเต็มใจนัก
“เออใช่!” เนี่ยอู๋หมิงตบหน้าขาของตัวเองทันที แล้วกล่าวอย่างมีความหวัง “น้องสาว ยาถอนพิษกู่พิศวาสของเธอ… ฉันเตรียมไว้ให้แล้ว…เธอจะไม่เอาจริงๆ เหรอ? เวลาใกล้เข้ามาแล้วนะ อย่าเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นเชียว! ไม่งั้น เธอเอาแหวนวงนี้มาแลกเป็นไง ตีเป็นเลขกลมๆ ยาถอนพิษนี้ก็เท่ากับเธอได้ไปฟรีๆ เลยนะ!”
หึๆ…วิชาคำนวณของเธอมันสุดยอด!
เยี่ยหวันหวั่นมองบน “ก็เคยบอกไปแล้วไงว่าไม่เอา ฉันมียาถอนพิษและมันใช้ดีมากด้วย คุณไม่ต้องกังวลหรอก”
เยี่ยหวันหวั่นตัดเส้นทางทำเงินของเนี่ยอู๋หมิงตรงๆ อย่างไร้ปรานี
———————————————————-
บทที่ 1888 ภาพพจน์กำลังจะพัง
หลังกลับจากบ้านตระกูลเนี่ย เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้รีบไปส่งภารกิจที่โรงเรียน เธอจะรอให้งานประมูลการกุศลสิ้นสุดลงเสียก่อนในอีกสามวัน เพื่อจะประมูลแหวนของจี้หวงแล้วค่อยนำไปส่งมอบพร้อมกัน
ช่วงไม่กี่วันมานี้ เธอได้จัดการกับงานที่คั่งค้างของพันธมิตรอู๋เว่ยจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ดูประกาศภารกิจใหม่ล่าสุดของโรงเรียนชื่อเยี่ยน เพื่อดูว่าจะรับงานไหนที่สามารถทำให้สำเร็จในเร็ววันได้บ้าง
แค่พริบตาเดียวก็มาถึงวันงานประมูลการกุศลแล้ว
การประมูลเพื่อการกุศลประจำปีของรัฐอิสระ เป็นหนึ่งในงานที่ใหญ่ที่สุดของรัฐอิสระ โดยมีเจ้าภาพเป็นครอบครัวใหญ่สี่ครอบครัว คือตระกูลเสิ่น ตระกูลจี้ ตระกูลเนี่ย และตระกูลหลิง ในทุกปีจะมีคนดังจากทุกสาขาอาชีพในรัฐอิสระได้รับเชิญให้เข้าร่วม
ปีนี้จัดตามแนวคิด ‘ความรักไร้พรมแดน กุศลไร้ขอบเขต’ แขกรับเชิญทุกท่านไม่มีความแตกต่าง ไม่แบ่งแยกขาวดำและไม่มีการแบ่งแยกระหว่างนิกาย
ดังนั้น แม้แต่องค์กรที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่อย่างพันธมิตรอู๋เว่ย ก็ยังได้รับคำเชิญจากทั้งสี่ตระกูล
อย่างไรก็ตาม ด้วยความโดดเด่นของพันธมิตรอู๋เว่ย ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าร่วมงานประมูลการกุศลที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งของตัวเอง
พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเขาก็มีภาพลักษณ์ไอดอลเหมือนกัน
เป่ยโต่วจ้องจดหมายเชิญแล้วบ่นพึมพำมาตลอดทาง “เฮ้อ พี่เฟิง นี่พวกเราต้องไปงานประมูลการกุศลนี่จริงๆ เหรอ? ภาพลักษณ์ของพันธมิตรอู๋เว่ยต้องพังพินาศแน่!”
ปกติแล้วถ้าพันธมิตรอู๋เว่ยจะทำเรื่องดีๆ ก็จะยัดเงินใส่มือให้โดยตรง ถึงใครไม่อยากรับก็ต้องรับ ถ้าไม่รับก็ต้องสู้กันยกหนึ่ง แล้วใครมันจะไปร่วมดินเนอร์งานการกุศลไร้สาระแบบนี้ล่ะ
เยี่ยหวันหวั่นมองบน “หยุดพล่าม! แหวนของจี้หวงประมูลในอันดับที่เท่าไร ไปถามมาหรือยัง?”
เป่ยโต่วขมวดคิ้ว “นี่ยังต้องถามอีกเหรอพี่ ต้องอยู่ตอนใกล้จบงานแน่นอน อยู่ลำดับท้ายๆ ไง…”
ก่อนมาที่นี่ เยี่ยหวันหวั่นได้ทำความเข้าใจมาบ้างนิดหน่อย
เมื่อเทียบกับการประมูลเพื่อการกุศลในจีนกับงานประมูลการกุศลในรัฐอิสระนี้ ความจริงก็มีรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน
โดยทั่วไปจะจัดโดยแบรนด์หรือองค์กรชื่อดัง และเชิญคนดังจากทุกภาคส่วนมาร่วมงาน
ขั้นตอนของงานคือดารารับเชิญจะบริจาคสิ่งของบางส่วน จากนั้นแขกที่มาร่วมงานจะร่วมประมูล จากนั้นก็จะนำเงินที่ได้จากการประมูลไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศล
ของที่นำมาประมูลมีหลากหลายประเภท ตั้งแต่เครื่องประดับล้ำค่า ไปจนถึงของใช้ส่วนตัวของคนดัง ทั้งเสื้อผ้า ปากกา แม้กระทั่งผ้าเช็ดหน้าใช้แล้ว ของเหล่านี้ต่างก็มีมูลค่าตามแต่ตัวเจ้าของ
เช่นแหวนประจำตัวของจี้หวง ในฐานะทายาทของตระกูลจี้ หนึ่งในสี่ตระกูลหลักและยังเป็นราชารถไฟใต้ดินของยุโรป จี้ซิวหร่าน หรือที่รู้จักกันในนามจี้หวง ได้รับความนิยมและมีศักดิ์สูงส่งในรัฐอิสระ แหวนวงนี้ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของการประมูลในตอนท้ายของคืนนี้ จะต้องเป็นที่หมายปองและต้องแย่งชิงกับใครหลายๆ คน
เพียงแต่พวกเขาล้วนคิดไม่ถึงว่าจะมีหัวหน้าโจรปรากฏตัวในค่ำคืนนี้…
หลังจากรับโทรศัพท์ ชิซิงก็มีสีหน้าที่ดูไม่ดีมาตลอดทาง ก็ยิ่งหน้าบูดขึ้นไปอีก
“แกเป็นอะไรไปเหล่าชี หน้าตาดูไม่ได้เลย? แกก็กลัวขายหน้าเหมือนกันเหรอ? ไม่งั้นเรามาปิดหน้ากันไหม?”
หนังตาของชีซิงกระตุกไม่หยุด แล้วพูดเสียงเคร่งขรึม “ห้ามไม่ให้ผู้นำไปงานนี้ ฉันเพิ่งได้รับแจ้งข่าวมาว่า คืนนี้นายแห่งอาชูร่าจะมาร่วมงานนี้ด้วย”
แค่จี้หวงคนเดียวเขาก็อกสั่นขวัญแขวนแล้ว ถ้ามีนายแห่งอาชูร่าเพิ่มมาอีกคน ไม่รู้ว่าพี่เฟิงจะก่อเรื่องอะไรอีก
……
เมื่อได้ยินดังนั้นเป่ยโต่วก็เบิกตาโพลง “อะไรนะ นายแห่งอาชูร่าก็มาด้วยเหรอ? งั้นก็เจ๋งไปเลย! แบบนี้พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราจะไม่ต้องอยู่อันดับล่างสุดแล้ว!”
นายแห่งอาชูร่ามาสถานที่แบบนี้ จะต้องรู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าพันธมิตรอู๋เว่ยแน่นอน แบบนี้พวกเขาก็ไม่นับว่าขายหน้าเท่าไรแล้ว…