แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 347 ตกตะลึงที่ได้รับความเมตตา บทที่ 348 คำไหว้วานของหวันหวั่นเพื่อนตัวน้อย
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 347 ตกตะลึงที่ได้รับความเมตตา บทที่ 348 คำไหว้วานของหวันหวั่นเพื่อนตัวน้อย
บทที่ 347 ตกตะลึงที่ได้รับความเมตตา / บทที่ 348 คำไหว้วานของหวันหวั่นเพื่อนตัวน้อย
โดย
Ink Stone_Romance
บทที่ 347 ตกตะลึงที่ได้รับความเมตตา
เยี่ยอีอีและกู้เยว่เจ๋อรีบเดินไปทางผู้อาวุโส
“ท่านปรมาจารย์เหมย เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในที่สุดวันนี้ก็ได้พบหน้ากัน!” ใบหน้าเยี่ยอีอีเต็มไปด้วยความปลื้มใจ กระตือรือร้นมากที่สุด
“ท่านปรมาจารย์เหมยสวัสดีครับ ผมกู้เยว่เจ๋อลูกชายของกู้ชาง” กู้เยว่เจ๋อยิ้มแนะนำตัวเอง
พอได้ยิน เหมยจิ่งโจวก็พยักหน้า “สวัสดี”
กู้ชางแห่งกู้กรุ๊ปในเมืองหลวง เขารู้จัก สองคนเคยติดต่อกันมาก่อน ก่อนหน้านี้ กู้ชางยังยอมจ่ายเงินมูลค่ามหาศาลเพื่อขอซื้อรูป ‘สารทฤดูในขุนเขา’ ไป
เห็นเยี่ยอีอีและกู้เยว่เจ๋อยืนประกบข้างซ้ายขวาเหมยจิ่งโจว แขกในห้องโถงจัดเลี้ยงต่างตกตะลึงกันใหญ่
“งานวันเกิดผู้อาวุโส ไม่เพียงแต่มอบภาพวาดของเหมยจิ่งโจวให้ ยังเชิญปรมาจารย์เหมยจิ่งโจวมาด้วยตัวเองอีก…”
ที่ไม่ไกลนั้น เยี่ยเส่าถิงก็มองไปทางปรมาจารย์เหมยจิ่งโจวไม่หยุด
ก็เหมือนกับผู้อาวุโสเยี่ยหงเหวยครอบครัวตัวเอง เยี่ยเส่าถิงก็ชื่นชมภาพวาดตัวอักษรของปรมาจารย์เหมยจิ่งโจวมาก ยิ่งไปกว่านั้นเขาเคารพปรมาจารย์เหมยจิ่งโจวมากอีกด้วย อยากเจอเหมยจิ่งโจวมานานแล้ว เพียงแต่เหมยจิ่งโจวเป็นคนนอบน้อม เวลาปกติจะเปิดเผยตัวน้อยมาก ดังนั้นเลยไม่เคยมีโอกาส
สองตาเยี่ยหวันหวั่นหรี่ลง รู้สึกสงสัย “เหมยจิ่งโจวจริงด้วย…”
เยี่ยหวันหวั่นไม่คุ้นเคยกับเหมยจิ่งโจวนัก แต่คุณพ่อเยี่ยเส่าถิงและคุณปู่เยี่ยหงเหวยนั้นชื่นชอบภาพวาดตัวอักษรของปรมาจารย์เหมยจิ่งโจวมาก ผ่านหูผ่านตามาบ้าง เลยพอรู้เล็กน้อย แน่นอนเธอย่อมรู้ดีว่าคนนี้มีความหมายยังไง
หลังเกิดใหม่มาชาตินี้ อำนาจของตระกูลกู้ยิ่งใหญ่จนถึงขั้นนี้แล้วหรือ? ถึงกับสามารถเชิญเหมยจิ่งโจวมาบ้านเยี่ยเพื่ออวยพรคุณปู่ด้วยตัวเอง?
เยี่ยเส่าถิงอุทาน “ปรมาจารย์เหมยจิ่งโจวตัวจริงจริงด้วย ไม่ผิดแน่”
เยี่ยมู่ฝานเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วทำท่าทาง ‘เคารพนับถือ’ “หึ! ใช่สิ! เป็นเหมยจิ่งโจว! คู่หมั้นเธอคนนี้นี่มีความสามารถสูงจริง!”
“ปรมาจารย์เหมย ทางนี้ครับ” กู้เยว่เจ๋อยกแขนขวาขึ้นเล็กน้อย เชื้อเชิญด้วยความเคารพ เดินนำทางไปที่โต๊ะประธาน
เยี่ยอีอีนำเหมยจิ่งโจวอยู่ด้านหน้า เดินด้วยท่วงท่าสง่างาม กระซิบเสียงเบาบอกสถานการณ์กับเยี่ยหงเหวย
จนมาถึงข้างโต๊ะประธาน เหล่าบรรดาผู้อาวุโสต่างลุกขึ้นยืน ทักทายเหมยจิ่งโจว เข้าไปทักทายจับมือ ดูคุ้นเคยกันมาก
“ฮาๆ ผู้อาวุโสเยี่ย หลานสาวคุณมีความสามารถจริงๆ สามารถเชิญท่านเหมยจิ่งโจวมาได้” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดแล้วหัวเราะ สีหน้าแสดงความอิจฉา
เวลานี้ เยี่ยหงเหวยที่ลุกขึ้นยืนอยู่ก่อนแล้ว ยืนอยู่ข้างเหมยจิ่งโจว เห็นเหมยจิ่งโจวตัวเป็นๆ ดูราวกับไม่อยากเชื่อสายตา
“วันเกิดผู้อาวุโสเยี่ย ผมได้เตรียมของเล็กๆ น้อยๆ ไว้ให้”
เยี่ยหงเหวยตกตะลึงที่ได้รับความเมตตา อึ้งไปนานกว่าจะรู้สึกตัว “ปรมาจารย์เหมย ท่านมาได้ก็เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลเยี่ยแล้ว”
สำหรับเหมยจิ่งโจวแล้ว เยี่ยหงเหวยเคารพบูชามาก
เหมยจิ่งโจวยิ้มเล็กน้อย ให้ผู้ช่วยเดินเข้าไปหยิบภาพวาดสองภาพออกมา
ผู้ช่วยเปิดภาพวาดทั้งสองภาพ วางไว้ด้านหน้าเยี่ยหงเหวย
ภาพวาดภาพแรกเปิดออกมา เป็นภาพเสือขาวที่น่าเกรงขามตัวหนึ่ง เสือคำรามอยู่ในป่า สะเทือนไปทั่วทั้งแม่น้ำและภูเขา เสือขาวดูเหมือนมีชีวิต ลักษณะท่าทางก็เหมือนกับจะออกมาจากภาพวาด
“ดี… สมกับที่เป็นฝีมือของผู้อาวุโสเหมย ช่างทำให้คนเลื่อมใสได้จริงๆ!” หลี่เยว่และโจวชิงกังพิจารณาอย่างละเอียด แล้วชื่นชมไม่หยุด
เยี่ยหงเหวยยิ่งประหลาดใจ ภาพวาดนี้ของเหมยจิ่งโจว เทียบกับ ‘สารทฤดูในขุนเขา’ มีระดับสูงกว่าอีก
ไม่นาน ภาพวาดที่สองก็ดึงดูดสายตา
เมฆสีดำแผ่ขยาย เสียงคำรามของพายุฝนฟ้าคะนอง ท่ามกลางชั้นเมฆ มีมังกรสีเขียวตัวหนึ่ง แหวกผ่านเมฆหมอก เผยให้เห็นหัวมังกร มองจากด้านบนลงมาเห็นแผ่นดินภูเขาและแม่น้ำ ชำเลืองมองด้วยท่าทางองอาจ เหมือนให้คนเข้าไปใกล้เพื่อเงยหน้ามองมังกรสีเขียวในภาพวาด
…………………………………………………
บทที่ 348 คำไหว้วานของหวันหวั่นเพื่อนตัวน้อย
เยี่ยหงเหวยมองภาพวาดแดงสองภาพนั้นอยู่นานกว่าจะละสายตาได้ อดไม่ได้ที่จะอุทานอย่างชื่นชมออกมา “ผลงานของคุณเหมย ทำให้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่จริงๆ นับถือ…นับถือ!”
“ภาพนี้มีชื่อว่าฟ้าดิน มังกรแทนฟ้า พยัคฆ์แทนผืนดิน ดูคล้ายจะเป็นสองภาพ แต่ความจริงแล้วภาพทั้งสองต้องวางไว้ที่เดียวกัน จึงจะเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบ” เหมยจิ่งโจวกล่าว
“ฟ้าดิน…มังกรคือราชาแห่งท้องนภา พยัคฆ์คือผู้นำของผืนดิน…เป็นชื่อที่ดี!”
ผู้อาวุโสกลุ่มหนึ่งพูดกันเซ็งแซ่
“คุณเยี่ยครับ สองภาพนี้ฉันขอมอบเป็นของขวัญวันเกิดให้กับคุณครับ หวังว่าคุณเยี่ยจะกรุณารับไว้” เหมยจิ่งโจวกล่าว
“นี่…มีค่าเกินไปแล้ว…” เยี่ยหงเหวยแม้จะชื่นชอบอย่างมาก แต่ของขวัญล้ำค่าแบบนี้ จะต้องกล่าวปฏิเสธไว้ก่อน
“คุณเยี่ยเกรงใจเกินไปแล้ว ไม่ได้เป็นผลงานยิ่งใหญ่อะไร คุณชอบก็พอแล้วครับ” เหมยจิ่งโจวกล่าวยิ้มๆ
“คุณปู่คะ นี่เป็นน้ำใจของท่านอาจารย์เหมย คุณปู่รับไว้เถอะค่ะ!” เยี่ยอีอีที่อยู่ด้านข้างกล่าว
ได้ยินแบบนี้ เยี่ยหงเหวยจึงพยักหน้ารับพลางกล่าว “ได้…ขอบคุณมากสำหรับของขวัญของคุณเหมยนะ”
เวลานี้ ผู้คนในงานเลี้ยงต่างก็ประหลาดใจอย่างที่สุด เยี่ยอีอีและกู้เยว่เจ๋อได้มอบของขวัญปิดท้ายงานเลี้ยงค่ำคืนนี้จริงๆ
ไม่ต้องนับภาพ ‘เทือกเขาในสารทฤดู’ แค่เชิญเหมยจิ่งโจวมาร่วมงานได้ ทั้งยังมอบผลงาน ‘ฟ้าดิน’…
เยี่ยหงเหวยมองเยี่ยอีอีด้วยสายตารักใคร่เอ็นดู งานเลี้ยงวันเกิดในค่ำคืนนี้ เยี่ยอีอีผู้เป็นหลานสาวทำเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้เขาจริงๆ
“ท่านอาวุโสเยี่ย ท่านมีเยี่ยอีอีเป็นหลานสาวที่ดีแบบนี้ ช่างโชคดีจริงๆ ครับ”
“ฮ่าฮ่า คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะเชิญท่านอาจารย์เหมยมางานวันเกิดของคุณได้…”
“น้ำใจของอีอีและกู้เยว่เจ๋อเด็กสองคนนี้ ทำให้ไม่มีอะไรจะพูดได้เลย”
ได้ฟังคำชมจากบรรดาแขกคนสำคัญ แน่นอนว่าเยี่ยหงเหวยต้องพึงพอใจอย่างที่สุด
เยี่ยอีอีเอ่ยยิ้มๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “สิ่งที่คุณปู่ชอบ หลานๆ อย่างพวกเราจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อหามาให้ได้ค่ะ”
เหมยจิ่งโจวชนแก้วแสดงความเคารพกับเยี่ยหงเหวยไปแก้วหนึ่ง เดิมทีผู้คนอยากจะเข้าไปพูดคุยกับเขา แต่พบว่าเขาหันกายเดินไปอีกทางเสียแล้ว
ห่างไปไม่ไกล เยี่ยหวันหวั่นกำลังมองดูเหตุการณ์ฉากนี้ด้วยความสงบไร้คลื่นอารมณ์ และในเวลานี้กลับเห็นเหมยจิ่งโจวหันกาย มาประสานสายตากับเธอ และกำลังเดินตรงมาทางเธอด้วย
“คุณหนูหวันหวั่น ไม่พบกันนานเลย สบายดีไหมครับ” ไม่นานเหมยจิ่งโจวก็เดินมาอยู่ตรงหน้าเยี่ยหวันหวั่น เอ่ยทักทายด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
เห็นเหมยจิ่งโจวอยู่ดีๆ ก็เข้ามาพูดคุยกับตนเอง เยี่ยหวันหวั่นพลันชะงักงัน
ไม่พบกันนานเลย สบายดีไหม?
เหมือนว่าเธอจะไม่เคยพบเหมยจิ่งโจวมาก่อนนะ พูดอีกอย่างคือไม่มีคุณสมบัติจะได้พบด้วย…
“เยี่ยหวันหวั่นก็รู้จักท่านอาจารย์เหมย?”
“สามารถให้อาจารย์เหมยเข้าไปทักทายก่อน…น่าจะรู้จักกันนะ…”
เยี่ยหงเหวยถือแก้วเหล้า และเดินตามหลังเหมยจิ่งโจวมา พลันเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ “คุณเหมย รู้จักหวันหวั่นด้วยเหรอครับ?”
ได้ยินคำถาม เหมยจิ่งโจวก็พยักหน้าเอ่ยตอบ “ต้องรู้จักสิครับ ผมกับคุณหนูหวันหวั่นเป็นเพื่อนต่างวัย รู้จักกันมานานแล้ว”
“หืม?” เยี่ยหงเหวยประหลาดใจขึ้นอีก เยี่ยหวันหวั่นสนิทคุ้นเคยกับอาจารย์เหมย…
เยี่ยเส่าถิงและเหลียงหวั่นจวินก็มีสีหน้าประหลาดใจเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเยี่ยหวันหวั่นรู้จักกับเหมยจิ่งโจว…
“คุณหนูหวันหวั่น อันที่จริงคุณควรบอกผมให้เร็วกว่านี้ ผมจะได้เตรียมของขวัญที่พร้อมกว่านี้” เหมยจิ่งโจวพูดเสริม
ห๊ะ? เยี่ยหวันหวั่นกระพริบตาปริบๆ ยืนงงอยู่กับที่ ไม่เข้าใจเลยว่าคำพูดของเหมยจิ่งโจวหมายถึงอะไร
เขากำลังพูดกับตนอยู่ใช่ไหม?
“อาจารย์เหมย…เรื่องนี้?” เยี่ยหงเหวยและคนอื่นๆ ต่างมีสีหน้าอธิบายไม่ถูก
“อะไรกัน คุณเยี่ยไม่รู้หรอกหรือ?” เหมยจิ่งโจวยิ้มพลางอธิบาย “คืนนี้ผมได้รับคำไหว้วานของหวันหวั่นเพื่อนตัวน้อยให้มาร่วมงานเลี้ยงฉลองและอวยพรวันเกิดให้กับคุณเยี่ย”
คำพูดประโยคนี้ของเหมยจิ่งโจวราวกับสายฟ้าที่ผ่าเปรี้ยงลงบนผืนดิน ทำเอาคนทั้งห้องจัดเลี้ยงต่างเงียบไปชั่วขณะ
………………………………………..………