แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 485 ไม่ปกติ บทที่ 486 ไม่มีแผนที่จะมีลูก
บทที่ 485 ไม่ปกติ / บทที่ 486 ไม่มีแผนที่จะมีลูก
Ink Stone_Romance
บทที่ 485 ไม่ปกติ
ถูกเยี่ยหวันหวั่นบ่นว่าอยู่นานสองนาน ซือเซี่ยไม่โต้เถียงกับเธออีกอย่างที่นานๆ ครั้งจะมี แต่กลับนิ่งงันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน รอบกายแผ่บรรยากาศที่แปลกไป
คนขับรถขับรถมาที่บ้านของซือเซี่ยก่อน
หลังจากรถนิ่งสนิท เยี่ยหวันหวั่นหยิบเงินหนึ่งร้อยหยวนออกมาจากเงินรางวัล “เอ้า พ่อหลานชาย ให้เป็นค่าขนม!”
ซือเซี่ยเห็นเยี่ยหวันหวั่นส่งเงินหนึ่งร้อยหยวนมาให้ มุมปากพลันกระตุก เห็นได้ชัดว่ารังเกียจ แต่ถึงแม้จะรังเกียจ สุดท้ายก็ยังคงรับไป
ท่ามกลางลมหนาวตอนกลางคืน ซือเซี่ยยืนอยู่ด้านนอกรถ มองซือเยี่ยหานด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นเคลื่อนสายตาไปที่เยี่ยหวันหวั่น “ยัยซื่อบื้อ!”
จู่ๆ ก็ถูกด่า ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นพลันดำคล้ำ ไอ้เด็กแสบนี่กำลังกวนตีนอยู่!
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นพูด ซือเซี่ยก็ใช้มือหนึ่งสอดกระเป๋า หันกายเดินหายไปในความมืดของราตรี
ส่งซือเซี่ยเรียบร้อยแล้ว รถก็แล่นฉิวกลับจิ่นหยวน
เมื่อกลับมาถึงจิ่นหยวน ก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเร่งให้ซือเยี่ยหานไปนอนให้ตรงเวลา
เยี่ยหวันหวั่นนอนไม่หลับอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมาอยู่นาน สมองคิดถึงแต่ภาพในเกมวันนี้เหล่านั้น
อันที่จริงวันนี้ตอนที่เธอตัดสินใจเลือก หลายๆ รูปเธอเกือบจะเลือกตัวเลือกตรงกันข้าม สุดท้ายแล้วเพื่อให้คล้องจองกับนิสัยปกติของเธอ เพื่อให้ซือเยี่ยหานเดาได้ง่าย ถึงได้เลือกอีกตัวเลือกหนึ่ง
แต่ว่าเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ไม่ได้แปลกอะไรหรอกมั้ง? ในเมื่อความชอบ ลักษณะนิสัยและรูปแบบพฤติกรรมของคนๆ หนึ่งล้วนเปลี่ยนไปได้…
สิ่งที่ทำให้เธอไม่สบายใจคือความรู้สึกที่ว่าท่าทางซือเซี่ยในวันนี้แปลกไป แม้แต่ท่าทางของซือเยี่ยหานก็เหมือนจะไม่ปกติ…
คิดถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นหันมองชายหนุ่มข้างกาย ซือเยี่ยหานตอนหลับนั้นเงียบมากเหมือนอย่างที่แล้วมา
บางครั้งความเงียบเกือบจะทำให้คนอื่นลืมเลือนไปว่ามีคนคนนี้อยู่
ดังนั้นแม้ว่าจะนอนร่วมเตียงเคียงหมอนกันมานานขนาดนี้แล้ว เยี่ยหวันหวั่นกลับแทบไม่เคยรู้สึกไม่ชิน
บางครั้งเธอยังคิดว่า หมอนี่คงจะไม่สนใจผู้หญิงจริงๆ เธอรู้สึกว่าการมีอยู่ของเธอก็เหมือนไม้ท่อนหนึ่งหรือหมอนใบหนึ่งเท่านั้น
เยี่ยหวันหวั่นพลิกตัวไปมาพลางคิดฟุ้งซ่านเรื่อยเปื่อย คงจะเป็นเพราะถูกเธอรบกวนเข้า คนด้านข้างจึงยื่นมือข้างหนึ่งรวบเธอมากอดไว้ในอ้อมกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว
วินาทีนั้น เธอแนบชิดกับอกหนา เสียงหัวใจที่อยู่ในร่างนั้นเต้นดังตึกตักอยู่ข้างหู ราวกับตีกลอง
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งอึ้งอยู่หลายวินาที ถึงได้ค่อยๆ ยื่นศีรษะออกมา
ผลคือ พอแหงนหน้าขึ้น ก็พบกับดวงตากระจ่างใสคู่หนึ่ง
ท่ามกลางความมืด สายตาที่ซือเยี่ยหานมองเธอเปี่ยมไปด้วยความดุดัน ราวกับกลับไปเหมือนก่อนที่เธอจะกลับมาเกิดอีกครั้ง เหมือนกับพันธการที่ผูกไว้อย่างแน่นหนา คุมขังเธอไว้ในโลกของเขา…
สายตาแบบนี้ทำให้เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว รู้สึกอยากหนีไปให้ไกล
“เอ่อ ทำให้คุณตื่นเหรอ…”
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ชายหนุ่มก็กดศีรษะลงอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ริมฝีปากเย็นกลืนกินเสียงของเธอไปในพริบตา
นัยน์ตาของเยี่ยหวันหวั่นพลันหดเล็ก อึ้งอยู่ตรงนั้น
ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มกลับเริ่มเคลื่อนไหว ช่วงเอวถูกมือใหญ่แทรกซึม นิ้วมือหนาสัมผัสกับผิวของเธอโดยตรง เคลื่อนไหวอย่างจาบจ้วง ขณะเดียวกันแรงจูบก็เริ่มสูญเสียการควบคุมมากขึ้นเรื่อยๆ รุกล้ำไปทั่วทุกพื้นที่ในปากของเธอ กัดแทะริมฝีปากของเธออย่างแรง ราวกับจะกลืนกินเธอทั้งตัว…
……………………………………………………………….
บททื่ 486 ไม่มีแผนที่จะมีลูก
ตั้งแต่เธอกลับมาเกิดใหม่แล้วเลือกที่จะทำตัวว่าง่าย โดยเฉพาะหลังจากที่ซือเยี่ยหานถูกวินิจฉัยว่ามีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงครึ่งปี นิสัยของซือเยี่ยหานอ่อนโยนลงมาก จนเธอเกือบจะลืมไปแล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นอย่างไร…
แต่ตอนนี้เวลานี้ ความทรงจำน่ากลัวเกี่ยวกับเขาถูกปลุกขึ้นมาในพริบตา…
ช่วงชิง ป่าเถื่อน บ้าคลั่ง…
ความปรารถนาที่จะควบคุมอย่างแรงกล้าจนคล้ายกับโรคจิต…
ซือเยี่ยหานไม่เป็นแบบนั้นมานานมากแล้ว เหตุใดจู่ๆ ถึงสูญเสียการควบคุมอารมณ์ไป?
วันนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่จะไปกระตุ้นเขาได้ ตรงกันข้ามบรรยากาศแห่งความสุขเป็นไปอย่างราบรื่นนี่นา…
เผชิญหน้ากับซือเยี่ยหานในลักษณะนี้ เยี่ยหวันหวั่นไม่กล้าที่จะขัดขืน
ไม่อย่างนั้นความพยายามทั้งหมดในช่วงเวลาที่ผ่านมาอาจจะต้องจบสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่ตัดสินใจจะไม่ทำอะไรที่เป็นการยั่วยุหรือพยศต่อเขา เธอเองก็เตรียมใจไว้แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่มีทางหลีกหนีได้
“หวันหวั่น…”
เสียงหายใจทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นข้างหู
เป็นความปรารถนาที่ตรงกันข้ามกับความนิ่งในยากปกติอย่างสิ้นเชิง
เสียงเครียดเพราะความตื่นตระหนกของเยี่ยหวันหวั่นสั่นสะท้านเพราะเสียงเรียกเบาๆ นี้อย่างประหลาด
“จำที่ฉันบอกได้ไหม” ซือเยี่ยหานถาม
“อะ…อะไรนะ…” เสียงเยี่ยหวันหวั่นตื่นกลัว
“อย่าเชื่อเขา”
อย่าเชื่อใครกัน…?
สมองของเยี่ยหวันหวั่นว่างเปล่า ใคร่ครวญอยู่นานถึงนึกออกว่าซือเยี่ยหานกำลังพูดถึงอะไร
เขาหมายถึง อย่าเชื่อคำพูดของซือเซี่ย…
เธอจำได้ว่าหลังจากที่เกิดใหม่ ซือเซี่ยที่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ใดกับเธอมาก่อน จู่ๆ ก็เริ่มเข้าหาเธอเองอย่างประหลาด และในตอนนั้น ซือเยี่ยหานก็พูดกับเธอด้วยคำเดียวกันนี้ ไม่ให้เธอหลงเชื่อซือเซี่ย
เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้คิดหาสาเหตุ เพียงแต่จิตใต้สำนึกของเธอสัมผัสถึงความรู้สึกปลอดภัยจากตัวซือเยี่ยหาน
ลางสังหรณ์อันไร้ซึ่งเหตุผลบอกเธอว่า…ไม่ว่าใครก็ตามบนโลกนี้ต้องการทำร้ายเธอ คนคนนั้นไม่มีทางเป็นซือเยี่ยหานแน่นอน
เยี่ยหวันหวั่นแหงนหน้าขึ้น “อื้อ ฉันเชื่อคุณคนเดียว”
นัยน์ตาของหญิงสาวเสมือนสายฝนพรำ สายตาของหญิงสาวค่อยๆ ดับอารมณ์ฉุนเฉียวของซือเยี่ยหานไปทีละนิด ดวงตาของเขาจึงกระจ่างใสมากขึ้นเรื่อยๆ…
ราวกับผ่านสนามรบที่ผลาญพละกำลังอย่างมากมา ใบหน้าเกรี้ยวกราดของซือเยี่ยหานค่อยๆ สงบลง เปลี่ยนเป็นความเหนื่อยล้า…
เห็นซือเยี่ยหานหลับตาลงช้าๆ เยี่ยหวันหวั่นลอบถอนหายใจยาว
ทำไมซือเยี่ยหานถึงระแวงซือเซี่ยขนาดนี้?
เยี่ยหวันหวั่นพลันนึกถึงผู้ที่ซ่อนตัวคอยบงการอยู่เบื้องหลังตระกูลซือคนนั้น
ช่วงนี้เธอตรวจสอบศึกษาผู้เฒ่าผู้แก่ตระกูลซือและอำนาจแต่ละฝักฝ่าย จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เจอตัวการ
หรือว่าคนคนนี้…จะเกี่ยวข้องกับซือเซี่ย?
ซือเซี่ยมีสิทธิได้สืบทอดตำแหน่งเพราะเป็นผู้มีสายเลือดโดยตรงที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คน หากคิดอยากจะแย่งตำแหน่งหัวหน้าตระกูลก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อดูจากตอนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างซือเซี่ยกับซือเยี่ยหานก็เหมือนน้ำกับไฟที่เข้ากันไม่ได้
เพียงแต่ว่า เธอรู้สึกว่าซือเซี่ยไม่เหมือนคนที่จะเลือดเย็นจนพอที่จะลงมือกับคุณย่าได้…
คิดมาถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็พบว่า ในหัวของเธอมีแต่เรื่องของซือเยี่ยหาน
ทั้งๆ ที่ตอนแรกทำเพียงเพื่อจะทำให้เขาตายใจ รอวันหนึ่งเขาเลิกสนใจเธอ รอโอกาสที่จะได้จากไป แต่ว่าไม่ทันรู้ตัว กลับพบว่าพันธนาการและความเกี่ยวโยงของเธอกับเขาลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ…
ความคิดเยี่ยหวันหวั่นกำลังฟุ้งซ่าน เสียงของชายหนุ่มพลันดังขึ้น “คุณย่าหวังว่าพวกเราจะมีลูกสักคน…”
ได้ยินคำพูดของซือเยี่ยหาน ดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นเบิกโพลงท่ามกลางความมืดด้วยความตกใจ
อะ…อะไรนะ? อยากมีลูก?
ยังไม่ได้แต่งงานเลยนะ จะข้ามไปมีลูกเลยได้ยังไง!
คงเพราะรู้สึกได้ถึงตัวที่แข็งทื่อของหญิงสาว น้ำเสียงซือเยี่ยหานจึงกลับไปเย็นชาดังเดิม “สบายใจได้ ฉันไม่มีแผนแบบนั้น”
……………………………………………………..