แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 507 ไม่สนใจจริงเหรอ บทที่ 508 พลังการต่อสู้ตื่นขึ้นแล้ว
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 507 ไม่สนใจจริงเหรอ บทที่ 508 พลังการต่อสู้ตื่นขึ้นแล้ว
บทที่ 507 ไม่สนใจจริงเหรอ
ช่วงแรกเยี่ยหวันหวั่นยังพอรับมือไหว แต่ไม่นานก็ตกเป็นเบี้ยล่าง
เฉินซื่อเจี๋ยกับลูกน้องกลุ่มหนึ่งยืนหัวเราะมองเธอพยายามขัดขืนอย่างเห็นเป็นเรื่องขบขันอยู่ห่างไปไม่ไกล
เมื่อเวลาผ่านไปพักหนึ่ง เฉินซื่อเจี๋ยก็หมดความอดทน ดวงตาโหดเหี้ยมขึ้นมาทีละน้อย “เฮอะๆ นิสัยร้ายไม่เบา ไม่ยอมไปกับฉันใช่ไหม? ไม่ไปก็ไม่ไป! ฉันจะจัดการเธอมันตรงนี้แหละ!”
เวลาที่เฉินซื่อเจี๋ยสนุกขึ้นมาจะไร้ซึ่งความเกรงกลัว ทำเรื่องแบบนี้ในที่สาธารณะมาไม่น้อย แม้กระทั่งจัดปาร์ตี้รวมตัว ทำเรื่องแบบนี้กับผู้หญิงต่อหน้าทุกคนก็เคย เขาทำได้จริงๆ และเห็นเป็นเรื่องบันเทิงอีกด้วย
เฉินซื่อเจี๋ยพูดจบ ลูกน้องรอบข้างก็ร้องเชียร์กันเหมือนผีสางหมาป่าโหยหวน
คนอื่นๆ ในร้านส่วนมากก็ตะโกนเชียร์ด้วยเห็นเป็นเรื่องสนุก สายตาของคนเหล่านั้นแต่ละคู่มีแต่ความชั่วช้า ใบหน้าเมามายเต็มไปด้วยความกระหายอยาก แทบอดใจรองานเลี้ยงครั้งนี้ไม่ไหว
บางคนทนดูไม่ได้ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก จะกี่คนกี่คนล้วนหลบไปอยู่ห่างๆ
ฝูงสุนัขรับใช้แต่ละคนของเฉินซื่อเจี๋ยล้วนเป็นยอดฝีมือที่ถูกเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี ใครจะกล้าเข้าไปขวางหาเรื่องใส่ตัว?
เฉินซื่อเจี๋ยยกแก้วสุราอย่างสง่างามโดยมีลูกน้องข้างกายช่วยรินเติมให้ แสยะยิ้มมองไปทางด้านหน้า “จับเธอไว้!”
ฉับพลันนั้นบอดี้การ์ดที่เหลืออยู่อีกไม่กี่คนกระโจนเข้าหาเธอราวกับเสือตะครุบเหยื่อ…
เจียงเยียนหรานที่เมามายไม่ได้สติถูกชายร่างกำยำสองคนผลักออกไปไว้ด้านข้าง ส่วนคนที่เหลือจับเยี่ยหวันหวั่นไว้
เยี่ยหวันหวั่นขยับเขยื้อนไม่ได้แล้ว กำลังจับจ้องคนกลุ่มนั้น แววตาเย็นชาขึ้นทีละนิดๆ
ความเย็นเยียบอันน่าหวาดกลัวในดวงตาของหญิงสาวทำให้เฉินซื่อเจี๋ยสั่นเทาอย่างประหลาด ทว่าเขาก็ถูกความปรารถนาครอบงำอย่างรวดเร็ว แย้มยิ้มร้ายกาจเดินเข้าไปใกล้เธอพลางสั่งลูกน้องว่า “กรอกเหล้าซะ! ผู้หญิงประเภทนี้ฉันเห็นมานักต่อนักแล้ว! ภายนอกดูใสซื่อ! เหล้าลงท้องเท่านั้นแหละก็เผยธาตุแท้! ร่านกว่าใครๆ ซะอีก!”
“ครับ!” นายหัวทองรีบอาสาวิ่งเข้าไปพร้อมขวดวอดก้า และเริ่มกรอกปากเยี่ยหวันหวั่นทันที
“อึกๆ…” เหล้าดีกรีแรงถูกกรอกเข้าปากเธออย่างรวดเร็ว ลำคอของเยี่ยหวันหวั่นร้อนราวถูกเผา
“ฮ่าๆๆๆ…กินเข้าไปเยอะๆ หน่อย…”
เฉินซื่อเจี๋ยให้ลูกน้องมอมเหล้าเยี่ยหวันหวั่นไม่หยุด ไม่ทันไรก็เห็นถึงก้นขวดวอดก้า
เฉินซื่อเจี๋ยยืนมองอย่างอารมณ์ดีอยู่นาน ในที่สุดก็มีเสียง ‘แกรก’ ดังขึ้น เฉินซื่อเจี๋ยวางแก้วเหล้าในมือลง เดินเข้าหาเยี่ยหวันหวั่นทีละก้าว เตรียมจะสำราญกับงานเลี้ยงคืนนี้…
ห่างออกไปไม่ไกล ซ่งจิ้งที่เห็นภาพฉากนี้ทนไม่ไหวอีกต่อไป “หัวหน้า จะไม่สนใจจริงเหรอ?”
จากนั้น หลิวอิ่งกลับยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่มีทีท่าว่าจะลงมือ
แน่นอนว่าเขาไม่ได้จะไม่สนใจจริงๆ
แต่ผู้หญิงคนนี้สมควรได้รับบทเรียนสักหน่อย
เห็นว่าหญิงสาวต้องรับมือกับคนจำนวนมากขนาดนั้นตามลำพัง และหลิวอิ่งยังไม่สั่งให้ลงมือเสียที ซ่งจิ้งก็เริ่มร้อนใจแล้ว
เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่…
ไม่ว่าอย่างไรเยี่ยหวันหวั่นก็เป็นผู้หญิงของเจ้านาย พวกเขารับคำสั่งให้ออกมาคุ้มครอง จะละเลยหน้าที่ได้อย่างไร?
ถ้าถึงเวลาจริงๆ เขาจำต้องเข้าไปเองแล้ว…
หลังจากรับเหล้าอย่างแรงขวดหนึ่งเข้าไป ทั้งตัวของเยี่ยหวันหวั่นก็เหมือนมีไฟลูกหนึ่งกำลังลุกโหม ร่างกายร้อนผ่าว แม้แต่วิญญาณยังเหมือนกำลังลุกไหม้ ทุกส่วนกลายเป็นเถ้าถ่าน…
เสียงเพลงดังกระหึ่มรอบด้าน เสียงหัวเราะสนุกสนานของผู้คน ใบหน้าหื่นกระหายของเฉินซื่อเจี๋ยใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
อ่านนิยาย
โลกตรงหน้ากำลังหมุนกลับตาลปัตร…
ศีรษะของเยี่ยหวันหวั่นคล้ายกับกำลังจะระเบิด เธอนอนกองอยู่ที่พื้น คู้ตัวเพราะความเจ็บปวด…
………………………………………………………………
บทที่ 508 พลังการต่อสู้ตื่นขึ้นแล้ว!
เหมือนว่าสุราแรงจะออกฤทธิ์แล้ว เยี่ยหวันหวั่นนอนกองอยู่บนพื้นด้วยความมึนเมา อาการขัดขืนค่อยๆ หยุดลง…
“ฮึๆ ของดีจริงๆ…”
เสื้อผ้าของหญิงสาวเปื้อนสุราสีทองใส เป็นประกายราวหยกขาว ชักจูงให้ผู้คนหลงใหล ท่าทางที่ขดตัวด้วยความเจ็บปวดนั้นยิ่งกระตุ้นความปรารถนาที่จะข่มเหงยิ่งขึ้น
“สวย…สวยเกินไปแล้ว…” เฉินซื่อเจี๋ยเอื้อมมือออกไปอย่างตื่นเต้น…
แต่ว่าจานหลักย่อมต้องเก็บไว้กินหลังสุด
ต้องออเดิร์ฟก่อนสักหน่อย
เฉินซื่อเจี๋ยหันตัวเดินไปหาเจียงเยียนหราน
ในขณะเดียวกัน บรรยากาศในร้านมาถึงช่วงที่ร้อนแรงที่สุดแล้ว ทุกคนส่งเสียงร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
ผู้ชายแทบทุกคนต่างกลืนน้ำลาย มองหญิงสาวทั้งสองตาไม่กะพริบ
คนหนึ่งสดใหม่มีน้ำมีนวล คนหนึ่งสวยสดโดดเด่น คืนนี้เฉินซื่อเจี๋ยช่างโชคดีจริงๆ…
พริบตาที่มือของเฉินซื่อเจี๋ยกำลังจะโดนตัวเจียงเยียนหรานนั้นเอง มือเรียวบางข้างหนึ่งพลันยกขึ้นมาจับข้อมือเขาเอาไว้
“อ้าว…สาวน้อยฟื้นแล้วเหรอ?”
เห็นเยี่ยหวันหวั่นมาถึงขั้นนี้แล้วยังขัดขืนอยู่อีก สีหน้าท่าทางของเฉินซื่อเจี๋ยก็ยิ่งตื่นเต้น ใบหน้าบิดเบี้ยวเหมือนโรคจิตเพราะตื่นเต้นถึงขีดสุด “ไม่ต้องใจร้อน! เดี๋ยวก็ถึงตาเธอแล้ว…”
เฉินซื่อเจี๋ยพูดพลางบิดข้อมือตัวเองกลับ
อ่านนิยาย
ทว่าขณะที่เขาบิดข้อมือออกมา กลับพบว่าข้อมือที่ถูกจับเอาไว้ขยับไม่ได้แม้แต่น้อย
เขาพยายามออกแรงบิดต่อ ผลลัพธ์คือยังคงไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว
มันเกิดอะไรขึ้น…
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงแรงเยอะขนาดนี้?
เหมือนกับมีกรงเล็บเหล็กแหลมจับเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา
หลังจากพยายามอยู่หลายครั้งก็ยังไม่เป็นผล สีหน้าของเฉินซื่อเจี๋ยจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจจริงๆ…
“บัดซบเอ๊ย! ยืนโง่อยู่ทำไม? ไม่มาช่วยฉันล่ะวะ!” เฉินซื่อเจี๋ยตะโกนใส่ลูกน้องอย่างลนลานหวาดกลัว
ลูกน้องมองหน้ากันไปมา ให้ช่วยเขาเรื่องอะไร?
หญิงสาวจับมือของเฉินซื่อเจี๋ยเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เฉินซื่อเจี๋ยพยายามบิดข้อมือออกแต่ไม่เป็นผล พวกเขาหลงคิดว่ากำลังหยอกล้อกันอยู่ซะอีก
“บัดซบ…” ขณะที่เฉินซื่อเจี๋ยรู้สึกเจ็บข้อมือมากขึ้นเรื่อยๆ ร้อนใจจนเหงื่อแตกพลั่ก หญิงสาวที่นอนกองอยู่บนพื้นก็ลืมตาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย….
ดวงตาคู่นั้นคล้ายมีราตรีมืดมิดอันเป็นนิรันดร์ไร้ซึ่งกลางวันและทุ่งน้ำแข็งอันไร้ซึ่งจุดสิ้นสุด ไม่มีอารมณ์ที่เป็นของมนุษย์อยู่เลย
ทำให้คนขนพองสยองเกล้า…
“แก…” เมื่อได้สบตากับหญิงสาว ใจของเฉินซื่อเจี๋ยแทบหยุดเต้น เสมือนถูกความเหน็บหนาวมหาศาลปกคลุม บรรยากาศรอบกายเย็นเยียบถึงขีดสุด สัญชาตญาณต่ออันตรายทำให้เขาเบิกตากว้าง
วินาทีถัดมา เฉินซื่อเจี๋ยยังไม่ทันได้ตั้งสติ เสียงกระดูกหักน่าขนลุกก็ดังขึ้น
“อ๊าก มือ! มือของฉัน อ๊ากกกกกกกก”
เสียงร้องโหยหวนแทบขาดใจของเฉินซื่อเจี๋ยเพิ่งดังขึ้น ร่างของเขาก็ลอยออกไปราวว่าวเชือกขาด กระแทกกับตู้เก็บสุราแถวหนึ่งอย่างแรงจนเกิดเสียงดังสะเทือนแก้วหู
ขวดสุราด้านหลังร่วงหล่นแตกเต็มพื้น
จากนั้น เฉินซื่อเจี๋ยที่ถูกเศษขวดเหล้าทับถมกระอักเลือดออกมาทีหนึ่งแล้วสลบไปทันที นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
ภาพฉากนี้เกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ ไม่กี่วินาที
ภายในร้านที่เสียงดังโหวกเหวก คนทั้งหลายพลันเงียบกริบเหมือนมีใครกดสวิตช์ปิด
ทุกคนตะลึงงันมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้น พร้อมใจกันถอยหลังออกไปราวกับกำลังเห็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง
นี่มันเรื่อง…เรื่องอะไรกัน…
เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น…
ภายใต้แววตาเสียขวัญของคนทั้งร้าน เยี่ยหวันหวั่นหมุนข้อมือเรียวขาวของตัวเองเล็กน้อยอย่างเกียจคร้าน ท่าทางสง่างามและสบายใจ จากนั้นลุกขึ้นยืนช้าๆ…
…………………………………………………………….