แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 511 โทษทีนะ สนุกเกินไปหน่อย บทที่ 512 อัดอยู่ฝ่ายเดียว
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 511 โทษทีนะ สนุกเกินไปหน่อย บทที่ 512 อัดอยู่ฝ่ายเดียว
บทที่ 511 โทษทีนะ สนุกเกินไปหน่อย
“เป็นไง? ตอนนี้ตื่นเต้นเร้าใจพอหรือยัง?”
หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงสบายอารมณ์ราวกับกำลังถามว่า ‘วันนี้อากาศเป็นยังไงบ้าง?’ แต่กลับเหมือนเสียงเพรียกแห่งความตายจากนรก
เท้าของซ่งจิ้งที่กำลังพุ่งออกไปช่วยเยี่ยหวันหวั่นหยุดนิ่งเหมือนถูกตอกตะปูยึดไว้กับพื้น ตาแทบถลนออกจากเบ้า
“ทะ…เท่…”
เท่สุดๆ ไปเลย!
ท่วงท่าที่สั่งสอนผู้อื่นอย่างเชี่ยวชาญถึงขีดสุด กระบวนท่าต่อสู้ที่พริ้วไหว ช่างทำให้เลือดร้อนขึ้นมาจริงๆ
แต่ว่า…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
หญิงงามหยาดเยิ้มอย่างนั้น ทำไมจู่ๆ ถึงเหมือนมีเทพนักฆ่าสิงร่างเอาได้?
เขาหันไปมองหัวหน้าที่อยู่ข้างกายด้วยสายตางุนงง กลับพบว่าอีกฝ่ายมีท่าทางตกตะลึงยิ่งกว่าเขาเสียอีก จนตอนนี้นิ่งอึ้งไปแล้ว
ความเจ็บปวดและความหวาดกลัวทำให้เฉินซื่อเจี๋ยกุมแขนของตัวเองพลางส่งเสียงร้องสุดเสียง “โอ๊ย! พอ…พอแล้วๆ…”
หญิงสาวโยนปืนในมือทิ้งอย่างรังเกียจ ฝืนใจยกขวดสุราข้างตัวขึ้น “เพล้ง” แล้วทุบจนแตก เศษแก้วคมแหลมชี้ต่ำอยู่ที่บริเวณหัวใจของชายหนุ่ม แล้วเอ่ยเสียงกระซิบ “ถ้างั้น…อยากให้…ตื่นเต้นกว่านี้อีกไหม?”
มีเพียงเสื้อเชิ้ตบางๆกั้นระหว่างเศษแก้วกับเนื้อบริเวณหัวใจ ไหวเคลื่อนไปตามกล้ามเนื้อของเขาอย่างน่าหวาดเสียว หน้าผากเฉินซื่อเจี๋ยเปียกชื้อไปด้วยเหงื่อ ร่างกายสั่งเทิ้ม “ไม่…ไม่ต้องแล้ว…คนดีปล่อยฉันไปเถอะนะ! ไว้ชีวิตฉันเถอะ…ฉันผิดไปแล้ว…ฉันรู้ตัวว่าทำผิดแล้วจริงๆ…ฉันมีตาหามีแววไม่…”
ตอนแรกคิดว่าครั้งนี้ได้เจอของดี ไหนเลยจะรู้ว่าไปยั่วโมโหนางมารเข้า เวลานี้เฉินซื่อเจี๋ยกำลังนึกเสียใจอย่างที่สุด
เขาร้องอ้อนวอนขอชีวิตพลางส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากนายหัวทองและบรรดาลูกน้อง แต่ทว่าคนพวกนั้นต่างก็พยายามหลบไปให้ไกล แทบอยากจะมุดหายไปให้หาไม่เจอ
“รู้ตัวว่าผิดแล้วเหรอ?” หญิงสาวเลิกคิ้ว
เฉินซื่อเจี๋ยรีบเอ่ยตอบ “ใช่ครับใช่ ใช่แล้ว! รู้แล้ว รู้แล้วจริงๆ! สำนึกจริงๆ! สำนึกถึงแก่นแท้เลยครับ!”
“ในเมื่อรู้ตัวแล้ว…งั้นก็จบกันไปแล้วกัน…” หญิงสาวทำท่าทางราวแม่พระผู้เมตตา
เฉินซื่อเจี๋ยได้ยินเช่นนั้นพลันรู้สึกโล่งใจอย่างมาก
ทว่า ทันทีที่หญิงสาวพูดจบ เฉินซื่อเจี๋ยกลับส่งเสียงร้องที่ดูเจ็บปวดกว่าเดิม “อ๊ากกกกก”
ขวดสุราที่แตกแทงเข้าที่บริเวณหัวใจภายในเสี้ยววินาทีต่อหน้าสายตาหวาดผวาของทุกคน
“อ๊ะ ขอโทษที…สนุกเกินไปหน่อย…มือลื่นน่ะ…” หญิงสาวหน้าตาหวาดหยดท่าทางบอบบางหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาผ่นหนึ่ง และบรรจงเช็ดคราบเลือดที่หลังมือออก ดวงตาเบื่อหน่ายนั้นไร้ซึ่งความอบอุ่น
เฉินซื่อเจี๋ยนอนแผ่ลงไปกับพื้น ลมหายใจเข้าสั้นกว่าหายใจออกแล้ว
ณ ที่นี้มีเพียงซ่งจิ้งและหลิวอิ่งที่มองออกว่า ตำแหน่งบริเวณหัวใจที่ขวดแก้วแทงเข้าไปนั้นละเอียดอ่อนมาก หลีกเส้นเลือดที่ทำให้ถึงตายไปอย่างหวุดหวิด ถ้าหากขยับอีกเพียงนิดเดียวละก็ เฉินซื่อเจี๋ยต้องจบชีวิตลงแน่
ในร้านเกิดเสียงกรีดร้องโหวกเหวกขึ้นอีกครั้ง
นายหัวทองที่หยิ่งผยองอวดดีอยู่เมื่อครู่นี้ และบอดี้การ์ดที่นอนกองเต็มพื้น ผู้คนที่หลบตัวสั่นอยู่ในมุมไกลๆมีสีหน้าราวกับกำลังมองสัตว์ประหลาด ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงด้วยกลัวว่าจะดึงความสนใจจากหญิงสาว
เสียงกรีดร้องโหวกเหวกรอบด้านทำให้รู้สึกรำคาญและสับสน
เยี่ยหวันหวั่นยกมือขึ้นกุมขมับที่คล้ายกำลังจะระเบิดของตน การระบายอารมณ์เมื่อครู่เผาผลาญกำลังของเธอได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ไม่นาน ไฟในอกของเธอลูกนั้นได้คละเคล้ากับกลิ่นคาวเลือดโหมแรงอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาอีกครั้ง…
ความเจ็บปวดนั้นทำให้เธอแทบหมดสติ ทุกสิ่งรอบกายในสายตาเธอเริ่มหมุนอีกครั้ง
วินาทีถัดมา เยี่ยหวันหวั่นยืนโอนเอนกุมศีรษะ กวาดสายตาไปรอบด้าน…
จากนั้น พลันหยุดนิ่งที่ทิศหนึ่ง
ซ่งจิ้งที่กำลังตกอยู่ในอาการตื่นตะลึง ถูกสายตาเยียบเย็นขั้นสุดจ้องอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างกายจึงเกร็งขึ้นมาทันที หัวสมองว่างเปล่า เสียงกลืนน้ำลายคำใหญ่ แขนขาเริ่มสั่นเทาอย่างดูไม่ได้…
โอ๊ะ…โอ้…
มะ มะ มอง…มองผมทำไมเหรอครับ…
……………………………………………………………
บทที่ 512 อัดอยู่ฝ่ายเดียว
ฤทธิ์ของเหล้าดีกรีสูงแรงขึ้นทุกที สมองของเยี่ยหวันหวั่นมึนเบลอ เห็นทุกคนตรงหน้าเป็นภาพซ้อน สติสัมปชัญญะมอดไหม้ เหลือเพียงการตัดสินใจตามสัญชาตญาณดิบของร่างกาย
ไฟในร่างของเธอปะทุรุนแรง ปลดล็อกพันธนาการเส้นสุดท้าย ลุกลามแผดเผาสัมปชัญญะสุดท้ายที่เหลืออยู่…
เยี่ยหวันหวั่นยืนเหม่ออยู่ที่เดิม สีหน้าว่างเปล่า…
ภาพที่จำศีลอยู่ในส่วนลึกของสมองถาโถมเข้ามาราวกับพายุคลั่ง…
กลิ่นคาวเลือดสีแดงฉานเข้าครอบงำโลกทั้งใบของเธออย่างมืดฟ้ามัวดิน…
เสียงฆ่าดังขึ้นข้างหู…
จิตสังหารน่ากลัวซึ่งเย็นเยียบจนแม้แต่วิญญาณยังสั่นเทากระชับเข้ามาเหมือนตาข่ายยักษ์ ห่อหุ้มเธอไว้แน่นหนา ค่อยๆ บีบเค้นเธอไปถึงที่สุด ไม่มีที่ให้ถอยกลับอีกแล้ว…
ฆ่า…
ฆ่าพวกมันซะ…
หากเยี่ยหวันหวั่นที่เล่นงานคนอื่นเมื่อครู่เป็นนางมาร เยี่ยหวันหวั่นซึ่งยืนนิ่งอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าว่างเปล่ากลับเหมือน เทพนักฆ่ามาเยือน!
ทั้งๆ ที่หญิงสาวเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ทำสิ่งใด ท่าทางก็นิ่งงัน ทว่าสายตาเหม่อลอยนั้นกลับทำให้ซ่งจิ้งขนลุกอย่างประหลาด
ขณะที่ซ่งจิ้งถูกสายตาว่างเปล่านั้นจ้องจนหัวใจเต้นระรัว หลิวอิ่งพลันตะโกนเสียงเครียดข้างหู “ซ่งจิ้ง! หนีเร็ว!”
อะไรนะ? ซ่งจิ้งไม่เข้าใจ
ทว่า ไม่ทันการ สายไปเสียแล้ว
หญิงสาวพุ่งเข้าหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว ราวกับมีดแหลมที่ดูดเสียงกรีดร้องของวิญญาณในนรกอเวจี
ไม่เหมือนกับการเล่นงานคนพวกนั้นแก้เบื่อเมื่อครู่ แต่เป็นจิตสังหารรุนแรงที่ต้องการเอาชีวิต
ไม่ต่างจากเครื่องจักรรูปร่างคนซึ่งถูกสูบเอาวิญญาณไปหมด ไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้ และรู้จักเพียงคำว่าฆ่า…
จิตสังหารอันตรายซึ่งถาโถมเข้ามาทำให้ซ่งจิ้งตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ แต่เพียงชั่วแวบเดียวที่เผลอ หน้าอกก็ถูกชกเข้าเต็มๆ หนึ่งหมัด
พริบตานั้นร่างของซ่งจิ้งลอยกระเด็นออกไป ชนเข้ากับกำแพงหินแข็งและเย็นเยียบเสียงดัง จากนั้นไหลตามกำแพงร่วงมายังพื้น อ่อนปวกเปียกคล้ายโคลนเหนียว…
“อึก” ซ่งจิ้งเอียงศีรษะ กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง
ซี่โครงของเขาหักแล้ว…
คาดไม่ถึงว่า…แค่ทีเดียวก็…
ใบหน้าซ่งจิ้งซีดขาว รีบมองไปข้างหน้า ก็เห็นเยี่ยหวันหวั่นกำลังสู้อยู่กับหลิวอิ่ง
“อั้ก…”
ซ่งจิ้งเห็นหลิวอิ่งถูกเตะเข้าที่ช่องท้องจนกระอักเลือดเต็มสองตา ยังไม่ทันได้ตอบสนอง การโจมตีครั้งต่อไปของหญิงสาวก็ตามมาติดๆ เปลี่ยนหมัดเป็นฝ่ามือ ตบเข้าที่ไหล่ขวาของหลิวอิ่ง…
“อ๊าก…” หลิวอิ่งถอยหลังไปหลายก้าว ร่างกายถูกแรงมหาศาลปะทะจนชนเข้ากับโต๊ะเหล้าด้านหลังอย่างแรง แก้วเหล้าบนโต๊ะกลิ้งตกพื้นระนาว
ไม่รอให้หลิวอิ่งได้ตอบโต้ หญิงสาวเป็นดั่งปีศาจนรกที่ต้องการเอาชีวิตคน ยกเท้าขึ้นเหยียบหน้าอกของหลิวอิ่ง…
ซ่งจิ้งกุมช่วงอกที่เจ็บปวดรุนแรง เขารู้ดีว่าการโจมตีเมื่อกี้ของเยี่ยหวันหวั่นน่ากลัวมากแค่ไหน หลิวอิ่งโดนเข้าไปทีหนึ่งแล้ว หากถูกเหยียบอีกครั้งจะต้องตายอย่างแน่นอน!
“หัวหน้า” ซ่งจิ้งเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ฝืนความเจ็บของร่างกายพุ่งตัวเข้าไป
สายตาเยี่ยหวันหวั่นจับจ้องอยู่ที่หลิวอิ่ง เตะซ่งจิ้งกระเด็นออกไปอีกครั้งโดยไม่แม้แต่จะมองเขา
ซ่งจิ้งนอนกองอยู่กับพื้น รู้สึกเหมือนตัวเองใกล้จะตายแล้ว…
“แม่งเอ๊ย…แค่กๆ…” หลิวอิ่งไออย่างหนัก มองยังหญิงสาวที่กำลังมองตัวเองอย่างคนเหนือกว่าพลางเดินเข้ามาทีละก้าวๆ สีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุดแล้ว
นี่มัน…เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึง…
……………………………………….