แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 629 เชิญเริ่มเล่นละครได้ บทที่ 630 คนนี้ใช่ผมเหรอ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 629 เชิญเริ่มเล่นละครได้ บทที่ 630 คนนี้ใช่ผมเหรอ
บทที่ 629 เชิญเริ่มเล่นละครได้
เห็นเยี่ยมู่ฝานทำท่าทางสบายไร้กังวล เหลียงเหม่ยเซวียนยิ้มเย็นชา หรือว่าคุณชายใหญ่คนนี้ยังคิดว่าเรื่องครั้งนี้ใหญ่ไม่พอ?
เยี่ยมู่ฝานขโมยเอกสารการประมูลครั้งนี้ ก็ทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว ครบครัวเยี่ยเส่าถิงต้องล่มจมแน่นอน แล้วเยี่ยมู่ฝานต้องติดคุกด้วย!
คิดมาถึงตรงนี้ นัยน์ตาเหลียงเหม่ยเซวียนมีประกายยิ้ม
เยี่ยเส่าอันพูดด้วยสีหน้ารำคาญ “ในเมื่อคนมาครบแล้ว ก็เริ่มจัดการเลยแล้วกัน แกจะยอมมอบตัวกับทางการโดยตรง หรือเจอกันในศาล”
เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางเยี่ยมู่ฝานอย่างไม่ช้าไม่เร็ว
ได้รับสัญญาณทางสายตาจากน้องสาว เยี่ยมู่ฝานพยักหน้า ทันใดนั้นสีหน้ายิ่งดูไม่ซีเรียสขึ้นไปอีก
“มอบตัว?” เยี่ยมู่ฝานมองประเมินไปรอบๆ ทำสีหน้าประหลาด “ใครต้องมอบตัว? ทำไม พวกเราตระกูลเยี่ยมีคนทำผิดกฎหมายเหรอครับ”
เยี่ยเส่าอันและเหลียงเหม่ยเซวียนอึ้งไปพร้อมกัน เยี่ยมู่ฝานเด็กคนนี้ไม่น่าจะตกใจ คำพูดของเยี่ยเส่าอันก็ชัดเจนว่าพูดกับเขานี่…
“เยี่ยมู่ฝาน แกแกล้งโง่อะไร คนในตระกูลที่ทำผิดกฎหมายก็คือแกไง!” เยี่ยเส่าอันต่อว่า
“ผม?” เยี่ยมู่ฝานอึ้งอยู่ที่เดิม ชี้มาที่ตัวเองตามสัญชาตญาณ “ผมทำผิดเหรอ?”
“พูดเหลวไหล!” เหลียงเหม่ยเซวียนพูดอย่างอารมณ์เสีย
“คุณอารอง อายังไม่ตื่นเหรอครับ” เยี่ยมู่ฝานขมวดคิ้ว “ผมฆ่าคนตาย หรือว่าวางเพลิง?”
เหลียงเหม่ยเซวียนหัวเราะหยัน “เยี่ยมู่ฝาน แกนี่เล่นละครเก่งนะ! ขโมยเอกสารการประมูลของตระกูลเยี่ยไป หรือว่าแกลืมไปแล้ว”
“เอกสารการประมูล?” สีหน้าเยี่ยมู่ฝานเต็มไปด้วยความสงสัย แล้วหันไปมองเยี่ยหวันหวั่น “หวันหวั่น เอกสารการประมูลที่อารองพูดคืออะไร”
เยี่ยหวันหวั่นรับบทพูดต่ออย่างขี้เกียจ “เหมือนว่าจะเป็นเอกสารการประมูลโครงการหวากวงน่ะ”
“อ้อ…การประมูลโครงการหวากวง ฉันเคยได้ยิน ทำไม ตระกูลเยี่ยของพวกเราก็เข้าร่วมด้วยเหรอ” เยี่ยมู่ฝานพยักหน้า
“เข้าร่วม แต่ว่าตระกูลเฉินชนะได้ไป” เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างเสียดาย
“ตระกูลเฉิน?” เยี่ยมู่ฝานทำปากจุ๊ๆ “ตระกูลเฉินนั่นตระกูลเล็กธุรกิจเล็ก เอาชนะตระกูลเยี่ยของเราได้? งานประมูลหวากวงนี่ใครเป็นคนรับผิดชอบ ใช้ไม่ได้เลย!”
“แก…!” เหลียงเหม่ยเซวียนคิดไม่ถึงว่าเยี่ยมู่ฝานจะหน้าหนาหน้าทนขนาดนี้ ไม่เพียงแค่แกล้งโง่ แต่ยังพูดอ้อมๆ หลอกด่าพวกเขาว่าใช้ไม่ได้อีก!
“ถ้าไม่เป็นเพราะแกคนอกตัญญูกินบนเรือนขี้บนหลังคา ขโมยเอกสารการประมูลไปให้ตระกูลเฉิน ไม่อย่างนั้นตระกูลเฉินจะรู้ราคาประมูลของพวกเราเหรอ!” เหลียงเหม่ยเซวียนพูดด้วยความโกรธ
“อ้อ ผมเข้าใจแล้ว อาจะบอกว่าเอกสารการประมูลโดนผมขโมยไป แล้วผมจงใจเอาไปให้ตระกูลเฉินเพื่อให้ชนะโครงการหวากวง?!” เยี่ยมู่ฝานทำสีหน้าตกอกตกใจ
“หึ…แกเสแสร้งอะไร หรือว่าไม่ใช่แบบนี้ล่ะ” เหลียงเหม่ยเซวียนหัวเราะเย็นชา
“พูดจาหมาๆ!” เยี่ยมู่ฝานตะคอกทันที
‘เพียะ’
จากนั้น ได้ยินแต่เสียงดังกังวานสะท้อนในห้องโถง
เห็นเพียงหลังมือของเยี่ยมู่ฝานตบลงไปบนใบหน้าเหลียงเหม่ยเซวียน
ไม่เพียงแต่ผู้อาวุโสทั้งสองที่อึ้งอยู่ตรงนั้น ทั้งเยี่ยเส่าถิงและเหลียงหวั่นจวินก็นิ่งงันไปด้วย
เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ข้างๆ มุมปากกระตุกเล็กน้อย
“ไอ้เดรัจฉาน แกจะต่อต้านเหรอ ถึงกับกล้าตีฉัน?!” เหลียงเหม่ยเซวียนถลึงตาทั้งสองข้าง กุมหน้าฝั่งซ้าย ปากก็ส่งเสียงกรีดร้องแหลม
“อาสะใภ้รอง ผมคิดไม่ถึงว่าอาจะเหี้ยมโหดขนาดนี้ ถึงกับใส่ร้ายผมเลย!” เยี่ยมู่ฝานตะโกนเสียงดัง อารมณ์ขึ้นยิ่งกว่าเหลียงเหม่ยเซวียนเสียอีก ยกมือขึ้นจะตบอีกครั้ง
แต่ว่าครั้งนี้กลับโดนเยี่ยหวันหวั่นดึงห้ามไว้ “พี่ ทำไมพี่ทำแบบนี้ อารองเป็นผู้ใหญ่นะ!”
………………………………………………………………
บทที่ 630 คนนี้ใช่ผมเหรอ?
“อารองบ้าอะไร มาใส่ร้ายผมต่อหน้าคุณปู่คุณย่า เห็นชัดๆ ว่าอยากจะให้ผมตาย! แก่แล้วยังทำตัวไม่เป็นที่เคารพอีก!” เยี่ยมู่ฝานตะคอกเหมือนเป็นบ้าไปแล้ว
อะไรกัน? เธอแก่?
เหลียงเหม่ยเซวียนโมโหจนใบหน้าบิดเบี้ยว
“พี่ อย่าพูดมั่วๆ สิ ฉันว่าเรื่องนี้ต้องมีการเข้าใจผิดแน่ อารองอาสะใภ้รองจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง” เยี่ยหวันหวั่นพูดด้วยสีหน้าร้อนรน
“เยี่ยหวันหวั่น!” เยี่ยมู่ฝานร้องฮึ “ตกลงแกเป็นน้องสาวใคร ถึงไม่เชื่อฉัน!”
“พี่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อพี่ ฉันแค่รู้สึกว่าในนี้ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่!” เยี่ยหวันหวั่นรีบอธิบาย
“หยุดทะเลาะกันให้หมด!” เยี่ยหงเหวยตบเก้าอี้ ดุเสียงเข้ม
เห็นคุณปู่โกรธแล้ว ในที่สุดเหลียงเหม่ยเซวียนกับเยี่ยมู่ฝานถึงค่อยสงบลง
“ผมไม่เคยขโมยเอกสารการประมูล!” เยี่ยมู่ฝานทำหน้าตึงพลางแค่นเสียง
เยี่ยเส่าอันที่อยู่ข้างๆ โมโหจนหัวเราะเสียงเย็นติดต่อกัน “หึๆ ไม่เคยขโมย? ครั้งก่อนที่แกมาไม่ได้พูดอย่างนี้นี่ ตอนนั้นเห็นได้ชัดว่าแกยอมรับแล้ว”
“ครั้งก่อนผมยอมรับแล้ว?” เยี่ยมู่ฝานถ่มน้ำลายไปทางเยี่ยเส่าอัน “เยี่ยเส่าอัน อาบอกว่าผมยอมรับแล้ว? ผมน่าจะบอกว่าครั้งที่แล้วอาขโมยไปเอง เพื่อจงใจจะใส่ร้ายผมมากกว่า!”
“แกอย่าพูดหมาๆ!” เยี่ยเส่าอันพูดด้วยความโกรธ
“อาสิพูดหมาๆ!” เยี่ยมู่ฝานแค่นหัวเราะ
เหลียงเหม่ยเซวียนพูดประชดเสียงแหลม “ในที่สุดฉันก็เห็นธาตุแท้ ขนาดนี้แล้วยังปากแข็งไม่ยอมรับความจริงอีก! ตบผู้ใหญ่ นี่มันใช่คนตระกูลเยี่ยของพวกเราที่ไหน พวกชั้นต่ำชัดๆ!”
เยี่ยมู่ฝานพูดประชดกลับทันที “ผมก็ได้เห็นธาตุแท้แล้ว เพราะตัวเองไม่มีความสามารถ แพ้ให้ตระกูลเฉิน รู้สึกเสียหน้า กลัวโดนคุณปู่คุณย่าตำหนิ เลยบอกว่าเอกสารการประมูลโดนขโมยแล้วจงใจใส่ร้ายผม คนแบบนี้ คู่ควรเรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่เหรอ”
“คุณปู่ คุณย่า…ผมไม่ได้ทำ ผมจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง พวกเขาอยากใส่ร้ายผม เอาผมให้ตาย!” เยี่ยมู่ฝานเปลี่ยนสีหน้า พูดแล้วทำท่าจะร้องไห้ไปด้วย
เห็นดังนั้นแล้ว เยี่ยหงเหวยและถานอี้หลานขมวดคิ้วหนัก ดูท่าทางเยี่ยมู่ฝานแล้วไม่เหมือนโกหก…
“คุณปู่คุณย่า ในเมื่อพวกเขาเอาแต่พูดว่าผมขโมย งั้นก็เอาหลักฐานมา!” เยี่ยมู่ฝานทำเสียงฮึ
“หลักฐาน?” เหลียงเหม่ยเซวียนหัวเราะเยาะทันที “ได้ แกต้องการหลักฐานใช่ไหม พวกเรามีกล้องวงจรปิด!”
“มาสิ เอาออกมา!” ใบหน้าเยี่ยมู่ฝานเต็มไปด้วยความแค้น
เยี่ยเส่าอันส่งสัญญาณทางสีหน้าให้ทนายที่อยู่ข้างๆ
ไม่นาน ทนายก็เอาโน้ตบุ๊กออกมา เปิดคลิปวิดีโอช่วงหนึ่ง
ในคลิปวิดีโอ มีชายหนุ่มคนหนึ่งรูปร่างหน้าตาคล้ายเยี่ยมู่ฝาน ทำ ปรากฏตัวลับๆ ล่อๆ อยู่ที่บริษัทตระกูลเยี่ย
ชายหนุ่มสวมชุดสีดำทั้งตัว สวมถุงมือ ศีรษะยังสวมหมวกแก๊ปไว้ ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าเต็มๆ แต่รูปร่างและหน้าด้านข้างคล้ายเยี่ยมู่ฝานมาก
หลังจากเยี่ยหงเหวยกับถานอี้หลานดูคลิปวิดีโอจบ ก็มองไปที่เยี่ยมู่ฝานด้วยสีหน้าโกรธจัด
“แกไอ้เดรัจฉาน เล่นลิ้นต่อสิ!” เหลียงเหม่ยเซวียนพูดด้วยความสะใจ
“ฮ่าๆๆๆ….” เยี่ยมู่ฝานชี้ไปที่คลิปวิดีโอในโน้ตบุ๊กแล้วหัวเราะเสียงดังอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว “อาบอกว่านี่คือผม?”
“ไม่ใช่แกแล้วจะยังมีใคร หลักฐานโจ่งแจ้ง แกยังคิดจะดิ้นต่ออีก?!” เหลียงเหม่ยเซวียนพูดอย่างกรุ่นโกรธ
“หวันหวั่น แกดูสิว่านี่ใช่ฉันไหม” เยี่ยมู่ฝานมองทางเยี่ยหวันหวั่น
“อืม…ด้านหลังและด้านข้างดูคล้ายอยู่ แต่ว่า ถ้ามีคนอยากจะใส่ร้ายพี่จริงๆ ก็หาคนที่รูปร่างและหน้าตาด้านข้างคล้ายพี่มาแอบอ้างได้” เยี่ยหวันหวั่นพูด
“พ่อแม่ พ่อแม่ดูสิ คนนี้ใช่ผมไหม” เยี่ยมู่ฝานพูดกับเหลียงหวั่นจวินและเยี่ยเส่าถิง
……………………………………………………….