แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 645 ฉันเป็นคนที่มีแฟนแล้ว บทที่ 646 คนที่กลับมาในคืนพายุ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 645 ฉันเป็นคนที่มีแฟนแล้ว บทที่ 646 คนที่กลับมาในคืนพายุ
บทที่ 645 ฉันเป็นคนที่มีแฟนแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่อธิบายอะไร “ซื้อชุดนี้แล้วกัน ไม่ต้องลองแล้ว ยังไงเขาใส่อะไรก็ดูดี”
เยี่ยมู่ฝานพูดไม่ออก
ทำไมถึงรู้สึกปวดใจเหมือนสูญเสียของรักของหวงไป?
เมื่อก่อนน้องสาวชอบตามหลังเขาแล้วพูดว่า ‘พี่ชายหล่อที่สุด’ ตอนนี้กลับบอกว่าชายโฉดนั่นหล่อกว่าเขาร้อยเท่า!
หลังจากเปลี่ยนชุดทั้งหมดรอบหนึ่งแล้ว เยี่ยหวันหวั่นขับรถตรงไปอีกที่หนึ่ง
“จะไปไหนอีก” เยี่ยมู่ฝานไม่เข้าใจ
“ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”
ผ่านไปสิบนาที เยี่ยหวันหวั่นมาถึงร้านเรือธงปากานีที่มีแห่งเดียวในเมืองหลวง
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งมาถึงก็มีพนักงานของร้านเข้ามาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น “คุณหนูเยี่ย คุณมาแล้ว! รีบเข้ามาค่ะ! ท่านนี้คือ?”
“พี่ชายฉันค่ะ”
“คุณเยี่ยสวัสดีค่ะ!” พนักงานหญิงรีบทักทาย เห็นเยี่ยมู่ฝานใบหน้าหล่อเหลา จึงแอบมองเขาอยู่หลายที
“สวัสดีครับ…” เยี่ยมู่ฝานเดินจามหลังเยี่ยหวันหวั่นและพนักงานอย่างงงๆ
“รถที่ฉันจองมาถึงหรือยังคะ” เยี่ยหวันหวั่นถาม
พนักงานหญิงรู้สึกตัวรีบตอบ “มาแล้วค่ะๆ วันนี้เซ็นสัญญาได้เลย”
“ดีค่ะ ตอนนี้ขับไปได้เลยใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นถาม
“ได้แน่นอนค่ะ เชิญนั่งทางนี้ รอสักครู่นะคะ” พนักงานพูดจบก็ไปจัดการให้
หลังเยี่ยหวันหวั่นจัดการเรื่องรถเสร็จเรียบร้อย ไม่นาน มีพนักงานคนหนึ่งขับรถปากานีใหม่สีแดงคันใหญ่มา
เมื่อเห็นรถซูเปอร์คาร์คันนั้น สายตาเยี่ยมู่ฝานเป็นประกายขึ้นมาทันที
ยังไงผู้ชายก็ชอบรถเป็นนิสัย ส่วนรถซูเปอร์คาร์ยี่ห้อที่เขาชอบมากที่สุดก็คือปากานี สีก็โดนใจเขามาก
เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่ข้างหน้ารถ พูดกับเยี่ยมู่ฝานที่อยู่ข้างๆ “ลองดูสิ”
เยี่ยมู่ฝานอึ้งทันที “หา?”
“ให้พี่”
“อะไรนะ?!” สีหน้าเยี่ยมู่ฝานเต็มไปด้วยความงงงวยขึ้นมา “ให้… ให้ฉัน?”
หลายปีมานี้เขาขับแต่รถบิวอิคก์มือสอง อับอายอยู่ตั้งนาน เกือบลืมไปแล้วว่าซูเปอร์คาร์เป็นยังไง
ปรากฏว่ายัยนี่โยนซูเปอร์คาร์คันหนึ่งมาตรงหน้าเขา มอบให้เขา…
เยี่ยหวันหวั่นกวาดตามองไปเห็นท่าทางเยี่ยมู่ฝานดูเฉื่อยชา “ไม่เอาเหรอ งั้นก็ช่างเถอะ”
“เอาสิ! เอาๆๆ!” เยี่ยมู่ฝานรีบมุดเช้าไปนั่งในรถด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ลองสัมผัสดู
เยี่ยมู่ฝานโผล่ศีรษะออกมาจากนอกหน้าต่าง “หวันหวั่น แก… แกให้ฉันจริงเหรอ รถนี้แพงมากนะ!”
ถึงแม้ว่าตอนที่ยังเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลเยี่ยอยู่ รถซูเปอร์คาร์อะไรก็เห็นมาหมด แต่นั้นก็แค่ตอนนั้น หลายปีมานี้ เขาขับรถมือสองคันนั้นจนแทบจะพังยังไม่ได้เปลี่ยนเลย
คิดๆ ดูก็ไม่แปลกใจ ทุกครั้งที่เขาบอกว่าจะไปรับเฉินเมิ่งฉี เฉินเมิ่งฉีมักจะมีข้ออ้าง เดาว่าคงไม่อยากนั่งรถเก่าๆ ของเขาคันนั้นสินะ…
เยี่ยหวันหวั่นพูดว่า “ซื้อตัวพี่มา ย่อมต้องแสดงความจริงใจสักหน่อย”
เยี่ยมู่ฝานเอ่ยตอบทันที “น้องสาวซื้อตัวฉันมา ไม่ให้เงินเดือนฉันก็จะมาโอเคไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเบาๆ แล้วยื่นกุญแจพวงหนึ่งกับคีย์การ์ดให้ “ที่พี่อยู่นั่นเละเทะไปหมด ย้ายมาอยู่คอนโดบริษัทเถอะ!”
รับกุญแจและคีย์การ์ดมาแล้ว เวลานี้วินาทีนี้ เยี่ยมู่ฝานที่อยู่มายี่สิบกว่าปีในที่สุดก็เข้าใจ คนที่ดีด้วยจริงๆ ไม่ใช่พูดจาหวานเลี่ยนหลอกลวง แต่เป็นคนที่ซื้อเสื้อผ้าซื้อรถและยังยัดคีย์การ์ดให้โดยไม่พูดอะไรเลยต่างหาก!
“สายแล้ว พี่ขับตรงไปที่คอนโดเลยเถอะ!”
“แล้วแกล่ะ” เยี่ยมู่ฝานถาม
เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างสบายอารมณ์ “ฉันเป็นคนที่มีแฟน”
เยี่ยมู่ฝานหน้าตึงทันที “แกแน่ใจนะว่าทำแบบนี้กับคนที่เพิ่งอกหักเหมาะสมแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นตอบบ “ไม่ยัดขี้หมาให้ก็ถือว่าฉันเมตตาแล้ว”
เยี่ยมู่ฝานเงียบปาก ไม่ยัด?
เขาเพิ่งโดนยัดเข้าไปทั้งท้องเถอะ นี่ไม่เรียกว่ายัด แล้วแบบไหนถึงเรียกว่ายัด?
………………………………………………………………
บทที่ 646 คนที่กลับมาในคืนพายุ
ช่วงนี้ดีพทาวน์มีความเคลื่อนไหวผิดปกติเกิดขึ้นติดต่อกัน ซือเยี่ยหานจำเป็นต้องไปดูด้วยตัวเอง
ตั้งแต่ข่าวซือเยี่ยหานป่วยหนักแพร่ออกไป ก็มีเรื่องเกิดขึ้นทั้งที่ลับที่แจ้งไม่เว้นแต่ละวัน
เขายังไม่ตาย คนพวกนี้ก็เริ่มอดทนไม่ไหวแล้ว มีแอบสะสมพรรคพวกไว้ลับๆ ถึงขั้นไปผูกมิตรกับกลุ่มคนภายนอก ถ้าตายแล้ว เกรงว่าตระกูลซือนี้จะวุ่นวายโกลาหลกันใหญ่ ถึงตอนนั้นทั้งตระกูลซือคงกระจัดกระจายไปกันหมด
รู้ว่าวันนี้ซือเยี่ยหานกลับมาไม่ทันแน่นอน ตอนเย็นเยี่ยหวันหวั่นจึงยังกลับไปจิ่นหยวน
ที่นี่เคยเป็นที่ที่เธอเกลียดและกลัวมากที่สุด ตอนนี้กลับกลายเป็นที่ที่เธอคุ้นเคยและสบายใจ
ในพริบตาก็ผ่านการประชุมใหญ่ของตระกูลมาสามเดือนแล้ว
ตอนนั้นเธอให้สัญญากับผู้อาวุโสตระกูลว่าจะต้องรักษาซือเยี่ยหานให้หายดี ยังไงตามหลักของซุนไป๋เฉ่า ถ้าเธอทำตามความต้องการพวกนั้นของเขาได้ ร่างกายของซือเยี่ยหานก็จะค่อยๆ ฟื้นฟูดีขึ้น
สามเดือนมานี้ ร่างกายซือเยี่ยหานเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นโรคร้ายแรงอะไร พอทุเลาลงได้ชั่วคราว จากการตรวจร่างกายสองครั้งล่าสุด ร่างกายซือเยี่ยหานไม่มีร่องรอยของโรคร้ายแล้ว
ผู้อาวุโสทุกคนของตระกูลยังคงโหวกเหวกโวยวาย แต่สามเดือนนี้ยังทนผ่านมาได้ เพราะอำนาจที่แข็งแกร่งของซือเยี่ยหาน พวกเขาเลยทำอะไรไม่ได้ชั่วคราว
ถึงแม้ว่าจะผ่านเดือนที่วิกฤตหลายเดือนนี้มาได้ชั่วคราว แต่เยี่ยหวันหวั่นยังไม่กล้าผ่อนคลายเลยสักนิด ผู้อาวุโสของตระกูลพวกนั้นไม่มีทางรามือง่ายอย่างนี้ ระหว่างนี้ถ้าร่างกายของซือเยี่ยหานเกิดปัญหาอะไรขึ้น ก็จะกลายเป็นข้ออ้างและ จุดอ่อนให้พวกเขา
เพราะรู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ทางนั้น เยี่ยหวันหวั่นเลยส่งข้อความไปหาสวี่อี้
[ร่างกายเขาเป็นยังไงบ้าง เรื่องราบรื่นดีไหม]
คอยอยู่นาน สวี่อี้ยังไม่ตอบกลับมา คิดว่าน่าจะกำลังยุ่งอยู่
เยี่ยหวันหวั่นมองค่ำคืนมืดมิดนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าขรึมเล็กน้อย ดีพทาวน์คืนนี้กลัวว่าจะเป็นคืนที่ไม่ได้หลับอีกคืน
ขณะนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ระหว่างเยี่ยหวันหวั่นรอคำตอบ เธอทำเอกสารแผนธุรกิจของหนังไปด้วย
เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว พริบตาก็กลางดึกแล้ว ไม่รู้ว่านอกหน้าต่างฝนตกปรอยๆ ตั้งแต่เมื่อไร ความหนาวค่อยๆ คืบคลานเข้ามา
เยี่ยหวันหวั่นเริ่มรวบรวมสมาธิไม่ได้ แก้ไขมาสักพักก็จ้องเอกสารอย่างเหม่อลอย รู้สึกว่าจิตใจไม่ค่อยสงบ
หญิงรับใช้ข้างๆ เห็นเยี่ยหวันหวั่นไม่ยอมเข้านอน จึงอดไม่ได้เข้ามาเตือน “คุณหนูหวันหวั่น คุณรอคุณชายเก้าเหรอคะ คุณชายเก้าออกเดินทาง ไม่น่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้ค่ะ คุณรีบเข้านอนเถอะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว”
จนหญิงรับใช้มาเตือน เยี่ยหวันหวั่นถึงค่อยรู้ว่าเลยเที่ยงคืนมาแล้ว ใกล้รุ่งสางแล้ว จึงรีบลุกขึ้นเตรียมจะไปอาบน้ำนอน
“เอาล่ะ รู้แล้ว พวกเธอก็ไปพักผ่อนเถอะ!”
เยี่ยหวันหวั่นรวบเสื้อคลุมกันหนาวขนสัตว์ขึ้นมา วางบทลงแล้วลุกขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งลุกยืน จู่ๆ ประตูใหญ่บานหนาหนักก็ค่อยๆ เปิดออก ไอหนาวพร้อมลมเย็นพัดเข้ามาจากนอกห้องเป็นระลอก
พอเห็นซือเยี่ยหานที่สวมชุดกันลมสีดำตรงหน้าประตู เยี่ยหวันหวั่นอึ้งไปทันที
ชุดของชายหนุ่มพัดปลิวอยู่กลางลม ความเย็นยะเยือกบนใบหน้ามากยิ่งกว่าฝนตอนกลางคืน กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นไม่จางหายลอยออกมาจากตัวเขา
“คุณชายเก้า!”
“คุณชายเก้า!”
คนรับใช้ในบ้านทุกคนต่างนั่งเรียงกันสองแถวอย่างหวาดกลัว ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของชายหนุ่มตรงๆ
เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าตกใจ “ทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้คะ จัดการธุระเสร็จแล้วเหรอ?”
“อืม” ชายหนุ่มพูดไปก็ยื่นเสื้อคลุมบนตัวให้สาวรับใช้ข้างๆ
ระหว่างพูดก็ก้าวเท้าเร็วๆ มาตรงหน้าเธอ
………………………………………………………………