แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 715 ดูสบายดีนี่ บทที่ 716 จะต้องสวยที่สุดแน่
บทที่ 715 ดูสบายดีนี่
ทุกคนคุยกันอย่างออกรสอยู่ครู่หนึ่ง เห็นว่างานแฟชั่นอวอร์ดใกล้จะเริ่มแล้ว แต่เฟลิกซ์ก็ยังไม่มา
คืนนี้มีคนไม่น้อยมาหาเขา พกพาความหวังมาด้วยกันทั้งนั้น
เฉินเมิ่งฉีคุยกับดาราเบอร์เล็กๆ เรื่องเสื้อผ้าและเครื่องประดับไปเรื่อยเปื่อย เหอจวิ้นเฉิงคุยโวโอ้อวดกับสไตลิสต์คนอื่นอย่างเวอร์วังอยู่ใกล้ๆ
เวลานี้ สไตลิสต์ที่มัดผมยาวเป็นหางม้าสั้นๆ ตรงข้ามเหอจวิ้นเฉิงพลันมองไปยังที่ที่อยู่ไม่ไกลออกไป พูดด้วยน้ำเสียงเกินจริงว่า “โอ้โห หายากจริงๆ พวกคุณเดาสิว่าผมเห็นใครเข้า?”
“ใคร? ตกใจอะไรขนาดนั้น! หรือว่าจะเป็นเฟลิกซ์?”
“เหอะ! อย่าทำพ่อเทพบุตรของฉันเสียหายสิ! เป็นคุณชายสวะตระกูลเยี่ย คุณชายแห่งหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์!”
“คุณชายแห่งหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์? คุณกำลังบอกว่าเป็นเยี่ยมู่ฝานเหรอ?”
ครอบครัวของเยี่ยมู่ฝานถูกขับออกจากตระกูลเพราะพ่อทำผิดไม่ใช่เหรอ? ถึงได้หายไปจากงานระดับไฮเอนด์แบบนี้นานมาก
“เป็นไปไม่ได้มั้ง เขามาที่นี่ทำไม คุณมองผิดรึเปล่า?”
ทุกคนออกความเห็นไปพลาง มองตามสายตาของชายผมยาวไปพลาง พอเห็นแล้วก็เหมือนจะเป็นคุณชายมีจะกินตระกูลเยี่ยคนนั้นจริงๆ
พอได้ยินคำสนทนาของคนรอบๆ เหอจวิ้นเฉิงก็มองไปอีกฝั่ง เห็นเยี่ยมู่ฝานกำลังหลบคนเดินเข้ามาด้านใน
เห็นแต่ผมเผ้ารุงรัง ชุดทางการที่ยับยู่แถมยังมีโคลนและใบไม้ติดอยู่ของเยี่ยมู่ฝาน ทั้งตัวดูน่าอนาถมาก
“หึ ไหงเขาถึงได้มาในสภาพนี้ล่ะ คุณชายคนนี้กำลังแสดงความเป็นตัวของตัวเองหรือไง ไม่รู้จักอายเหรอ?”
ใครก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เยี่ยมู่ฝานพิถีพิถันกับการแต่งตัวมากที่สุด ไหนเลยจะเคยปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่นในสภาพทุลักทุเลอย่างนี้
เมื่อก่อนเยี่ยมู่ฝานมีนิสัยถือตัวเกินไป ผู้คนไม่ได้รู้สึกดีกับเขาเท่าไร ครั้งนี้เห็นเขาตกต่ำย่อมรู้สึกสมน้ำหน้า
“คุณชายอะไรกัน ตอนนี้ตระกูลเยี่ยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เยี่ยเส่าอันลูกคนรองเป็นคนคุม แถมยี่ยอีอีเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ที่ตระกูลกู้เลือก ร่วมมือกันแข็งขัน มันยังจะทำอะไรได้!”
เรื่องเลวร้ายในตระกูลเยี่ย คนในวงการล้วนรู้กัน
ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าคุณชายอย่างเยี่ยมู่ฝานถูกขับไล่ ตอนนี้เป็นสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง
ด้านข้างมีสไตลิสต์คางแหลมเดินเข้าไปถามเหอจวิ้นเฉิงอย่างสอดรู้สอดเห็น “ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เขาอยู่ในจวี๋ชิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทำจิปาถะให้คุณไม่ใช่เหรอ ครั้งนี้พวกคุณส่งบัตรเชิญให้เขา?”
ชายผมยาวแค่นเสียง “อะไรกัน มันลาออกไปตั้งแต่แรกแล้ว! คนไร้ประโยชน์แบบนี้! เป็นเพราะว่าคุณหนูกับผู้อำนวยการเหอของพวกเรามีจิตใจดี ถึงให้ข้าวมันกิน!”
เยี่ยมู่ฝานกำลังจะไปหากรรมการบริหารเจิ้งเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ครั้งนี้พลันมีคนขวางอยู่ด้านหน้าเขา
“โอ้โห นี่มันสไตลิสต์เยี่ยแห่งจวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ไม่ใช่เหรอ ดูเหมือนตั้งแต่ออกจากจวี๋ชิงจะดู…มีความสุขดีนะ! อะไรกัน นายมาร่วมงานแฟชั่นอวอร์ดกับเขาด้วย?”
เยี่ยมู่ฝานกำลังปวดหัวว่าจะอธิบายกับหวันหวั่นอย่างไร รู้สึกหงุดหงิดมาก จึงกวาดมองพวกสไตลิสต์ที่มีเหอจวิ้นเฉิงเป็นคนนำด้วยสายตาเย็นชา ขี้เกียจจะสนใจคนกลุ่มนี้ “หมาดีไม่ขวางทาง!”
เหอจวิ้นเฉิงคิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้ชมเหตุการณ์ฆ่าเวลาที่น่าสนใจ เดินเข้าไปด้วยความเบิกบาน “คุณชายเยี่ย ดูสบายดีนี่!”
ไม่ไกลออกไป เฉินเมิ่งฉีเห็นสถานการณ์ทางด้านนี้แล้ว สายตาที่มองร่างของเยี่ยมู่ฝานเต็มไปด้วยความขยะแขยง
เจ้าหมอนี่มาทำอะไร? คงไม่ใช่ว่ามาเพราะยังคิดร้ายกับเธอไม่เลิกหรอกนะ?
คิดถึงตรงนี้ เฉินเมิ่งฉีพลันรู้สึกรังเกียจ เพียงมองแวบหนึ่ง จากนั้นเดินไปอีกทางอย่างเบื่อหน่าย
————————————————————
บทที่ 716 จะต้องสวยที่สุดแน่
เหอจวิ้นเฉิงเดินไปด้านข้างเยี่ยมู่ฝาน ลดเสียงเอ่ยอย่างเสียดาย “เฮ้อ ดูสิว่าลำบากขนาดไหน? ตอนแรกฉันอุตส่าห์ไปชวนนายด้วยเจตนาดี นายกลับไม่รู้จักคิด…”
พูดถึงตรงนี้ เหอจวิ้นเฉิงเว้นช่วงครู่หนึ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง “ตอนนี้คิดจะขอร้องฉันอีก กลัวว่าคงไม่ง่ายแบบนั้นแล้วนะ…”
ครั้งนี้เยี่ยมู่ฝานกลับไม่รีบไปแล้ว เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ขอร้องนาย?”
เหอจวิ้นเฉิงคิดถึงเรื่องที่ถูกเยี่ยมู่ฝานมัดไว้ที่สุสาน สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา “ถ้านายยอมคุกข่าวโขกหัวให้ฉันสามครั้งต่อหน้าทุกคน ฉันจะลองพิจารณาดู…”
เยี่ยมู่ฝานเพิ่งคิดจะเอ่ยปาก เวลานี้เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเยี่ยหวันหวั่นโทรมา
เยี่ยมู่ฝานเห็นแล้วสีหน้ากลายเป็นขลาดกลัว ไม่คิดจะเล่นงานคน รีบวิ่งเหยาะๆ ไปที่ที่ไม่มีคน
ทุกคนเห็นใบหน้ากระวนกระวายของเยี่ยมู่ฝานก็เยาะเย้ยถากถาง “ในเมื่อคนแบบนี้ถูกจวี๋ซิงคัดออกไปแล้ว จะเข้ามาที่นี่อีกทำไม?”
“ดูท่าทางเลิกลั่กของมันสิ ต้องแอบปะปนเข้ามาแน่ คุณชายคนนี้อย่างอื่นไม่ไหว แต่ช่ำชองในการฉวยจังหวะปั่นกำไรมาก!”
“ร.ป.ภ.ล่ะ ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เหอจวิ้นเฉิงทำทีใจเย็น ตบไหล่อีกฝ่ายพลางบอก “ช่างมันๆ ยังไงก็เคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันนะ”
“ผู้อำนวยการเหอ คุณยังจะพูดแทนคนแบบนี้อีกเหรอ?”
ทุกคนเห็นเหอจวิ้นเฉิงคลี่คลายปัญหา บวกกับงานแฟชั่นอวอร์ดกำลังจะเริ่มแล้ว ทั้งหมดเลยต่างเตรียมตัว ไม่สืบสาวต่อ
เอาเรื่องคนไร้ประโยชน์แบบนี้ไปก็เสียเวลาจริงๆ…
พิธีกรพูดขึ้นด้วยความกระตือรือร้นอยู่บนบนเวที…
“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานกันด้วยนะครับ งานแฟชั่นอวอร์ดครั้งที่สามเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ…”
ตามธรรมเนียมในอดีต งานแฟชั่นอวอร์ดของทุกปี นอกจากจะมีการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจแล้ว ส่วนสำคัญคือสไตลิสต์ที่มีชื่อเสียงจะโชว์ผลงานที่ตนภูมิใจที่สุดในปัจจุบัน
ในห้องจัดเลี้ยงด้านล่างเวที เฉินเมิ่งฉีกวาดมองเหอจวิ้นเฉิงด้านข้างแวบหนึ่ง “คืนนี้เยี่ยมู่ฝานปะปนเข้ามา คงไม่ได้มาหาเรื่องหรอกนะ?”
ถึงอย่างไรผลงานที่เหอจวิ้นเฉิงโชว์ในวันนี้ก็เป็นการออกแบบของเยี่ยมู่ฝาน อีกฝ่ายจะยอมเลิกราเหรอ
เหอจวิ้นเฉิงได้ยิน บนใบหน้าก็ปรากฏความมั่นใจ แค่นเสียงครั้งหนึ่งแล้วเยาะเย้ยว่า “มันน่ะเหรอ? เมิ่งฉี คุณประเมินสวะแบบนั้นสูงไปแล้ว อย่าว่าแต่มันไม่กล้าเลย ถ้าโง่พอจะหาที่ตายให้ตัวเอง หาเรื่องฉันในงานแบบนี้จริง แบบนั้นก็ดี ฉันจะทำให้มันไม่อยากอยู่ในวงการนี้อีกเลยตลอดชีวิต!”
เฉินเมิ่งฉีก็รู้สึกว่าตัวเองกังวลเกินไป ยักไหล่ไม่พูดอีก “ฉันจะไปเตรียมตัวหลังเวที”
“ไปเถอะ ที่รัก คืนนี้คุณต้องสวยที่สุดแน่!”
…
เสียงเพลงดังขึ้น ผลงานมีชื่อเสียงและผลงานระดับสุดยอดของสไตลิสต์แต่ละคนทยอยขึ้นโชว์บนเวที เหล่านางแบบแข่งขันกันประชันโฉม ร้อยบุปผาบานสะพรั่งในโลกแฟชั่น
ตรงตำแหน่งตรงกลางแถวหน้า มู่เหวินชิงประธานสมาคมแฟชั่นนั่งอยู่ที่นั่น กรรมการบริหารเจิ้งนั่งอยู่ด้านขวาของเขา ตำแหน่งด้านซ้ายว่างเปล่า
ตอนนี้มู่เหวินชิงที่อายุเลยเลขห้าแล้วใส่ชุดทางการ กำลังตั้งใจชมผลงานของแต่ละคน หลังจากเห็นเฉินเมิ่งฉีขึ้นเวที ดวงตาก็ฉายแววตื่นเต้น “ไม่เลว!”
กรรมการผู้บริหารเจิ้งที่อยู่ด้านข้างรีบสนับสนุน “ไม่เลวเลย! ประธานมู่รู้สึกรึเปล่าว่าสไตล์ของเหอจวิ้นเฉิงคนนี้มีบางจุดดูคล้ายกับของรองประธานพวกเรา?”
……………………………………………………….