แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 831 เป็นจริงสมชื่อ บทที่ 832 ส่งอั่งเปา
บทที่ 831 เป็นจริงสมชื่อ
กงซวี่ได้ยินก็ถอนใจอย่างเซื่องซึมทันที “VIVI เหรอ? เฮ้อ ไม่เจ๋งเท่าซิวเซ่อเลย…”
เยี่ยมู่ฝานเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “ยังจะไปดูถูกคนอื่นอีก พวกเขาไม่รังเกียจนายก็ดีแล้ว VIVI เป็นนิตยสารแฟชั่นเก่าแก่ระดับแนวหน้าของประเทศ เงื่อนไขด้านทักษะการแสดงและความนิยมของนักแสดงก็เข้มงวดเป็นพิเศษ คนที่ได้ขึ้นปกของพวกเขาเป็นระดับท็อปทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะโชคดี ก็ไม่มีวันถึงตานายหรอก!”
“ผมมันทำไม ผมก็ดังเหมือนกันนะ…” กงซวี่บ่นอุบอิบ
ลั่วเฉินที่อยู่ด้านข้างพูด “ผมต้องถ่ายกับกงซวี่เหรอครับ”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ใช่ ชิงปกคู่มาให้พวกนายได้”
เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้บอกรายละเอียดพวกเขาเท่าไร สิ่งที่เธอต้องการย่อมเป็นผลลัพธ์ของการถ่าย ที่เหลือปล่อยให้เหล่าแฟนคลับและแฟนขาจรจินตนาการเอาเอง
เยี่ยหวันหวั่นพูด “ถ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เรื่องถ่ายทำก็ตกลงตามนี้แล้วกัน นอกจากนี้ ลั่วเฉิน บทที่ฉันให้กงซวี่ดูก่อนหน้านี้ ฉันส่งให้นายแล้วส่วนหนึ่ง ก่อนหน้าไม่ได้ให้เพราะว่านายยังมีคลังงานดีกว่า แต่ตอนนี้ต้องรบกวนนายมาถ่ายเรื่องนี้กับกงซวี่แล้ว”
ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเขาก็มีคนจำกัด จะไปเชิญนักแสดงคนอื่นต้องใช้ค่าตัวมหาศาล..
ลั่วเฉินรีบพูด “ได้ยังไงเนี่ย ผมเคยเห็นร่างบทมาแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากครับ!”
เยี่ยมู่ฝานถาม “ใครเป็นพระเอก ใครเป็นพระรอง?”
ดูจากทักษะการแสดงของคนทั้งสอง ลั่วเฉินจะต้องเป็นพระเอก ส่วนกงซวี่เป็นพระรอง
ด้วยนิสัยของกงซวี่ ถ้าตีกับลั่วเฉินจะทำยังไง?
เยี่ยหวันหวั่นตอบ “พระเอกสองคน ตัวละครของลั่วเฉินเป็นมือปืนเทพในกองกำลังพิเศษ ตัวละครของกงซวี่เป็นน้องชายนิสัยเสเพล…”
เยี่ยมู่ฝานได้ยินก็อดพยักหน้าไม่ได้ “ไม่เลวนะ ตัวละครเหมาะกับพวกเขามาก นายไปเอาบทนี้มาจากไหน คนแต่งเป็นใคร?”
แววตาของเยี่ยหวันหวั่นล้ำลึก “รอผ่านช่วงนี้ไปก่อนค่อยพาพวกนายไปรู้จักเขา”
เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็กำชับกงซวี่กับลั่วเฉิน “ตอนนี้หน้าที่ของพวกนายสองคนคือตั้งใจท่องบท เตรียมตัวสำหรับการถ่ายทำ ผ่านไปสักพักฉันจะขอให้ผู้เชี่ยวชาญมาฝึกพิเศษพวกนาย เรื่องจดทะเบียนบริษัทกับเรื่องสร้างกองละครฉันกับเฟลิกซ์จัดการเอง!”
ลั่วเฉิน “รับทราบครับพี่เยี่ย”
กงซวี่ “เยสเซอร์!”
หลังจากทั้งสี่คนปรึกษากันสักพัก เยี่ยมู่ฝานก็พลันนึกอะไรได้ รีบพูดว่า “เฮ้ย รอเดี๋ยว เกือบลืมเรื่องสำคัญมากไปแล้ว ต้องปรึกษากันก่อน บริษัทเราจะใช้ชื่อว่าอะไร? ฉันตั้งชื่อไม่เก่ง พวกนายช่วยคิดหน่อย!”
ลั่วเฉินมองเยี่ยหวันหวั่น “พี่เยี่ยตั้งเถอะครับ”
กงซวี่เสนออย่างกระตือรือร้น “พวกเราสี่คนตั้งบริษัทด้วยกัน งั้นชื่อสี่ราชาสวรรค์ฟิลม์อินดัสตรี้เป็นไง?”
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งไป
กงซวี่กะพริบตาปริบๆ “อ้าว? ไม่เพราะเหรอ งั้นโคตรเจ๋งเอ็นเตอร์เทนเมนต์ล่ะ?”
เยี่ยหวันหวั่นถอนใจ “หุบปาก ขอฉันคิดก่อน…”
กงซวี่นั่งลงอย่างเชื่อฟัง “เอ้อ…”
ความจริงเยี่ยหวันหวั่นก็ตั้งชื่อไม่เก่งเหมือนกัน หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็นึกอะไรได้…
เยี่ยหวันหวั่นลูบคาง “งั้นชื่อ…จูเสิน…จูเสินสือไต้ (ยุคสมัยแห่งเหล่าเทพ) เป็นไง?”
ลั่วเฉินบอก “ดีเลยครับ” พี่เยี่ยพูดอะไรก็ดีหมด
กงซวี่ตาเป็นประกาย “โห! อย่างหล่อ! อันนี้ทรงพลังดี! ผมชอบมาก!”
เยี่ยมู่ฝานอดบอกด้วยรอยยิ้มไม่ได้ “ดูกร่างไปรึเปล่า”
เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้ว “งั้นก็ทำให้มัน…เป็นจริงสมชื่อซะสิ”
พริบตาที่สิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น จิตใจของคนทั้งสามก็ร้อนระอุ “ได้เลย!”
———————————————————————
บทที่ 832 ส่งอั่งเปา
คนทั้งสี่ปรึกษาและตกลงกันได้พอประมาณแล้ว ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป
ที่ประตูโรงแรม เยี่ยหวันหวั่นถามเยี่ยมู่ฝานว่า “หลังลาออกก็ต้องย้ายคอนโดแล้ว พี่เตรียมจะไปที่ไหน”
กงซวี่มีที่อยู่ของตัวเองมาตลอด ก่อนหน้านี้ลั่วเฉินก็ซื้อบ้านเป็นของตัวเองแล้ว พร้อมย้ายตลอดเวลา
เยี่ยมู่ฝานกล่าว “ก็ต้องกลับบ้านสิ ฉันคิดจะไปอยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้ได้เวลาพอดี ฉันบอกพวกท่านไว้แล้ว ดีใจกันมากเลยละ! แกล่ะ? จะกลับไปอยู่ด้วยกันไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ฉันก็อยาก แต่สถานะในวงการบันเทิงของฉันคือเยี่ยไป๋ ถ้ากลับไปอยู่ต้องไม่สะดวกแน่ ก่อนหน้านี้ฉันซื้อบ้านแถวชานเมืองหลังหนึ่งไว้ในราคาต่ำ ถึงจะเก่าไปหน่อย แต่ปรับปรุงสักหน่อยก็ไม่เลว สภาพแวดล้อมก็สงบมาก!”
เยี่ยมู่ฝานขมวดคิ้ว “ไปอยู่ไกลบ้านคนเดียว ฉันจะวางใจได้ยังไง”
เยี่ยหวันหวั่นกล่าวอย่างไม่สนใจ “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจ้างแม่บ้านไว้แล้ว อีกอย่างแฟนฉันก็จะมาเยี่ยมฉันบ่อยๆ”
พวกทหารรับจ้างที่เธอช่วยกลับมาจากพม่าซ่อนสถานะปลอมแปลงเป็นคนรับใช้ ได้รับการแบ่งหน้าที่ไปจนถึงทำงานในสวนแล้ว
เยี่ยมู่ฝานเงียบไป
ประโยคหลังคือประเด็นสินะ!
เฮ้อ ผู้หญิงพอโตแล้วก็ต้องออกเรือน…
สัมภาระในคอนโดของเยี่ยหวันหวั่นได้ให้คนย้ายไปยังที่อยู่ใหม่ตอนที่เธอไปทำงานข้างนอกแล้ว ดังนั้นหลังจากแยกกับเยี่ยมู่ฝาน ก็ตรงไปที่ชานเมืองทันที
เยี่ยหวันหวั่นขับรถไปหยุดด้านนอกประตูบ้าน
เห็นตรงหน้าเป็นอาคารเล็กๆ สองชั้นหลังหนึ่ง ด้านในมีเรือนกระจกสำหรับปลูกดอกไหม้ ถึงจะดูเก่าไปบ้าง แต่ก็ตกแต่งได้มีสไตล์มาก มาพร้อมกับกลิ่นอายโบราณของไร่นา ห่างไกลจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ทว่าให้ความรู้สึกเหมือนดินแดนในฝันอยู่บ้าง
ที่นี่เคยเป็นที่อยู่ของสถาปนิก มีการจัดวางไม่เลว เพียงแต่สองสามีภรรยาย้ายไปอยู่ต่างประเทศนานแล้ว ทางนี้จึงร้างไป
พอได้ยินเสียงเครื่องยนตร์ของรถ ก็มีร่างเล็กกระทัดรัดพุ่งออกมาจากในบ้าน “เจ้านาย กลับมาแล้วเหรอ! กรี๊ด…”
ทหารรับจ้างโลลิน้อยใส่ชุดเมดน่ารัก เพิ่งจะพุ่งออกมาก็เห็นเยี่ยหวันหวั่นในชุดผู้ชาย จึงเบิกตาโตทันที “กรี๊ดๆๆ! เจ้านายหล่อจังเลยค่ะ! ฉันจะสลบแล้ว…”
ถึงแม้ว่านายหญิงจะบอกกับพวกเธอตั้งแต่แรกว่า เธอยังมีสถานะผู้ชายอยู่อีกสถานะหนึ่ง แต่คิดไม่ถึงเลยว่ารูปร่างหน้าตาเวลาใส่ชุดผู้ชายของนายหญิงจะหล่อขนาดนี้!
ไม่ทันไรอีกสี่คนก็เดินออกมาจากในลานบ้าน ชายอ้วนสวมชุดพ่อครัว ชายชราสวมทักซิโด้หางยาวแบบพ่อบ้าน ชายผมยาวสวมรองเท้ากันฝนถือกรรไกรตัดกิ่ง และยังมีชายไว้เคราที่แต่งตัวแบบรปภ.
พวกเขาเข้าแถวเรียงหนึ่ง ส่งเสียงพร้อมเพรียงว่า “เจ้านาย! ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ/ค่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นเห็นดังนั้นก็พยักหน้าอย่างพอใจ ใช้ได้ๆ ดีกว่าแก๊งแชร์ลูกโซ่ห้าคนนั่นเยอะ…
“เจ้านาย ไฮดี้เตรียมอาหารไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จะรับประทานตอนไหนหรือครับ?” ชายชราทหารรับจ้างถามอย่างพินอบพิเทา
เยี่ยหวันหวั่นตอบ “อีกครึ่งชั่วโมงแล้วกัน”
…
ในห้องรับแขก เยี่ยหวันหวั่นนั่งบนโซฟา เล่นโทรศัพท์ด้วยสีหน้าครุ่นคิด
ลองส่งข้อความถามเนี่ยอู๋หมิงหน่อยแล้วกัน ทำไมผ่านไปตั้งหลายวันยังไม่มีข่าวเลย?
ก่อนหน้านี้เพื่อความสะดวก เธอจึงเพิ่มวีแชทของพวกเขาห้าคนเข้าไป และสร้างกลุ่มวีแชทขึ้นมา
ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นจึงส่งข้อความเข้าในกลุ่มวีแชทโดยตรง
[มีคนอยู่ไหม?]
เยี่ยหวันหวั่นรออยู่นานสองนาน ในกลุ่มก็ยังเงียบกริบ ไม่มีใครตอบกลับ
หรือจะยุ่งอยู่?
เยี่ยหวันหวั่้นใช้มือเท้าคางรออีกสักพัก ยังไม่มีคนตอบมา จึงจิ้มส่งอั่งเป่าหนึ่งหยวนไปในกลุ่ม
[เนี่ยอู๋หมิงรับอั่งเปาของคุณ]
[อี้จือฮวารับอั่งเปาของคุณ]
[นักพรตใจบริสุทธิ์รับอั่งเปาของคุณ]
[สุดที่รักอ้ายซินเจวี๋ยหลัวรับอั่งเปาของคุณ]
[คนตายแล้วรับอั่งเปาของคุณ]
…
เยี่ยหวันหวั่นพูดอะไรไม่ออก
……………………………………..