แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 919 มีอย่างที่ไหน รังแกลูกอย่างนี้ บทที่ 920 เนี่ยอู๋หมิง โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 919 มีอย่างที่ไหน รังแกลูกอย่างนี้ บทที่ 920 เนี่ยอู๋หมิง โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้
บทที่ 919 มีอย่างที่ไหน รังแกลูกอย่างนี้?
เยี่ยหวันหวั่นมัววุ่นอยู่กับการจัดการเด็กน้อย ไม่มีเวลาสนใจพวกเขาห้าคนมาก ได้ยินแค่รางๆ ที่พวกเขาบอกว่าเด็กคนนี้เหมือนตัวเอง
เยี่ยหวันหวั่นเอะใจ เลยหันไปมอง พอได้ยินพวกเขาพูดอย่างนี้ ก็เหมือนจะคล้ายอยู่หน่อยแฮะ?
แต่เนี่ยอู๋หมิงเคยบอกว่าเธอกับน้องสาวของเขาหน้าตาเหมือนกันอยู่หลายส่วน ดังนั้นถึงเด็กคนนี้จะเหมือนเธอ ก็เป็นเรื่องปกติ
เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองพวกเขาห้าคนด้วยสายตาตักเตือน เป็นเชิงบอกให้พวกเขาแยกย้ายไปทำงาน ทั้งห้าคนที่กำลังจับกลุ่มซุบซิบนินทากันจึงวงแตกทันที
ตอนนี้เจ้านายไม่มีเวลามาสนใจพวกเขาแน่นอน
ชั่วขณะนั้น ในห้องรับแขกเหลือเพียงเยี่ยหวันหวั่นกับเนี่ยถังเซียวแค่สองคน
เยี่ยหวันหวั่นดันกองขนมกินเล่นกองโตออกมา แล้วเตรียมน้ำส้มให้เด็กน้อย จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาห้องรับแขกพร้อมกับเด็กน้อย
เนี่ยถังเซียวนั่งด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อยอยู่บนโซฟา นัยน์ตาสีดำกวาดมองพิจารณาห้องรับแขกช้าๆ เหมือนแมวน้อยจากต่างถิ่นที่กำลังสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบ
เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้ว่าควรจะพูดคุยกับเด็กยังไงดี พออยู่ต่อหน้าเด็กคนนี้ เธอก็รู้สึกเล่นละครไม่ลง ดังนั้นจึงทำได้เพียงหาเรื่องไร้สาระคุย
“แหะๆ ถังถัง ชื่อเธอเพราะจัง มีความหมายอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?”
เนี่ยถังเซียวพูดว่า “คุณแม่ลืมไปแล้วเหรอครับ?”
พอถูกดวงตาไร้เดียงสาของเด็กน้อยมองมา เยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที “อา ขอโทษนะ แม่เคยได้รับบาดเจ็บ เลยลืมเรื่องอะไรไปเยอะเลย…”
เยี่ยหวันหวั่นบอก แต่จู่ๆ ก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
เอ๊ะ? เธอจะรู้สึกผิดไปทำไม! เธอไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเขาซักหน่อย!
เนี่ยถังเซียวบอกว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมจะบอกแม่เอง”
เยี่ยหวันหวั่นรีบบอก “อื้มๆ ดีเลย งั้นเธอบอกแม่มาก็แล้วกัน!”
หนูน้อยพูดว่า “ชื่อนี้ได้มาเพราะตอนที่คุณแม่ตั้งท้องผม คุณแม่ชอบกินซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน[1]มาก คำว่า ‘ถังเซียว’ออกเสียงคล้ายชื่อเมนูนั้น แม่ก็เลยตั้งชื่อให้ผมว่าเนี่ยถังเซียว”
เยี่ยหวันหวั่นเงียบ
หญิงสาวอึ้งงัน ผ่านไปสิบวินาทีถึงเพิ่งเข้าใจสิ่งที่เด็กน้อยบอก
มารดาเอ็งเถอะ นี่มันแม่ประสาอะไรเนี่ย?!
ถังเซียวเนี่ยนะ? ทำไมเธอไม่ตั้งชื่อว่าไผกู่ไปเลยเล่า! มีแม่ที่ไหนรังแกลูกตัวเองอย่างนี้กัน?
เธอนึกว่าจะมีความหมายพิเศษอะไรซะอีก แต่ดันเป็นเพราะชอบกินซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานเนี่ยนะ? ฟังดูไร้การศึกษาชะมัดเลย!
“อะแฮ่ม ขอโทษนะถังถัง ชะ…ชื่อนี้ ดูเหมือนว่าแม่จะตั้งส่งๆ ไปหน่อย…”
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกเหมือนตัวเองสวมบทแม่ตัวปลอมได้น่าอนาถเกินไปแล้ว ได้แต่รับกรรมที่คนอื่นก่อไว้!
เนี่ยถังเซียวตอบว่า “ไม่เป็นไรครับ”
เด็กน้อยแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใส่ใจ ทำให้เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกอีกครั้งว่าเขาต่างจากปีศาจน้อยรับมือยากที่เนี่ยอู๋หมิงพูดถึง
ตอนแรกเธอทำใจรับมือกับผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้ว…
แต่ว่า พอเห็นดวงหน้าน้อยๆ ที่ดูเย็นชาของเจ้าหนูคนนี้ รวมถึงความห่างเหินที่ดูไม่เข้ากับอายุของเขาเลยแม้แต่น้อย เยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
คงเป็นเพราะไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างๆ ตั้งแต่เด็ก เลยทำให้มีนิสัยเย็นชาอย่างงี้ ให้ความรู้สึกเหมือนเด็กคนนี้ตัดขาดจากโลกทั้งใบ ไม่ร่าเริง หรือมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอย่างที่เด็กวัยเดียวกันควรจะเป็นเลย
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ นั่งยองๆ ข้างหน้าเด็กน้อย เอื้อมมือไปลูบศีรษะเขา “ถังถัง ถึงแม้ว่าแม่จะจำเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นไม่ค่อยได้ แต่ว่า แม่ตั้งชื่อลูกตามเมนูอาหารที่แม่ชอบกินมากที่สุด ก็แสดงว่าแม่จะต้องรักลูกมากแน่ๆ!”
สายตาของเด็กน้อยไหวระริกเล็กน้อย เหมือนดวงดาวที่ส่องสว่าง…
———————————-
บทที่ 920 เนี่ยอู๋หมิง โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้!
กลางดึก
ซือหมิงหลี่หนีออกจากประเทศกันทั้งบ้าน อย่าว่าแต่ตระกูลเนี่ยเลย แค่ซือเยี่ยหานคนเดียวก็ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมากพออยู่แล้ว
โชคดีที่พวกเขารอบคอบมากพอ ลอบบงการทุกอย่างอยู่เบื้องหลังไม่ออกหน้า ไม่อย่างนั้นพวกเขาทุกคนคงต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว
“ให้ตายเถอะ ถือว่าผู้หญิงคนนั้นโชคดีไป!” ซือหมิงหลี่ทำหน้าเจ็บใจ
“คุณพ่อ เรื่องสำคัญตอนนี้คือเราต้องออมแรงไว้ก่อน ขอแค่มีคุณอีริค ซักวันพวกเราต้องลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งแน่!” ซืออี้เชียนพูดปลอบใจ
“ไป!” ซือหมิงหลี่กัดฟัน ในที่สุดก็เดินขึ้นเครื่องไปพร้อมกับความเจ็บใจ
มองดูเมืองหลวงเบื้องล่างที่อยู่ห่างออกไปเรื่อยๆ ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นมืดมน
ซือเยี่ยหาน แล้วก็นางแพศยาคนนั้น…สักวันเขาจะกลับมา!
……
ประเทศ M
ในห้องเพรสซิเดนสูทอันกว้างขวาง และเงียบสงบ
ซือเยี่ยหานนั่งอยู่บนโซฟา คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่น
ชายหนุ่มสวมสูทสีดำ ยืนรายงานด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอยู่ตรงหน้าเขา “นายหญิงกลับไปที่คฤหาสน์หลังเล็กแล้ว ก่อนที่คนของเราจะไปถึง เธอก็ไปแล้ว มีคนกลุ่มหนึ่งยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือนายหญิง แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบที่มาที่ไปของคนกลุ่มนั้น พวกเราจะรีบสืบโดยเร็วครับ!”
ถึงแม้ห้าคนนั้นที่อยู่ในคฤหาสน์กุหลาบจะเป็นยอดฝีมือทั้งนั้น แต่เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ซือเยี่ยหานยังคงส่งคนไปเฝ้าระวังอย่างลับๆ
ตอนนั้นที่ไม่ได้ปรากฏตัวทันที เพราะยังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ไม่อย่างนั้นหากถอนหญ้าไม่ถอนโคน ก็รังแต่จะเก็บไว้เป็นภัยแฝง
แต่นึกไม่ถึง คนของเขายังไม่ทันเคลื่อนไหว กลับมีคนอีกกลุ่มโผล่มาจากไหนไม่รู้…
ซือเยี่ยหานเคาะนิ้วบนโต๊ะน้ำชากระจกอันเย็นเยียบ แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่ไม่สงบของเจ้านาย
ถึงแม้มั่นใจแล้วว่าเธอปลอดภัย แต่ไม่รู้เพราะอะไร แต่ลึกๆ ในใจกลับรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีนัก…
……
หลังจากพาเด็กน้อยกลับมา เยี่ยหวันหวั่นก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่รับมือยากที่สุด
เธอจะให้ถังถังพักที่ไหน?
ไม่นานซือเยี่ยหานก็จะกลับมาแล้ว ถ้าหากให้ถังถังอยู่กับเธอ ต้องไม่สะดวกแน่นอน เกิดซือเยี่ยหานมาเห็นเข้า…
แต่ว่า จะให้เด็กตัวเล็กขนาดนี้อยู่ข้างนอก ถึงอย่างไรก็ไม่ถูกต้อง เพราะถึงยังไงคนอื่นเขาก็อุตส่าห์เดินทางไกลมาหาแม่ถึงที่นี่
“ถังถัง เธอนั่งอยู่นี่ก่อนนะ แม่จะไปจัดการอะไรหน่อย ไม่นานก็กลับมาแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นพูดเสียงอ่อนโยน
เนี่ยถังเซียวบอกว่า “ได้ครับ”
เยี่ยหวันหวั่นหยิบมือถือ แล้วเดินออกไปที่สวน
ข้างหลัง เนี่ยถังเซียวมองดูแผ่นหลังที่เดินออกไปอย่างเร่งรีบของหญิงสาว นัยน์ตาดำขลับค่อยๆ หลุบต่ำลง…
หลังจากเดินเข้ามาในสวน เยี่ยหวันหวั่นก็รีบเปิดแชทกลุ่มวีแชทห้าคน แล้วก้มหน้าก้มตาพิมพ์เหยียดยาวทันที
[เยี่ยโหย่วหมิง “เนี่ย อู๋ หมิง นายโผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!! ]
แชทกลุ่มเงียบสนิท ไม่มีเสียงตอบรับแม้แต่น้อย
เยี่ยหวันหวั่นอับจนหนทาง ทำได้เพียงกัดฟันกดส่งอั่งเปาไปหนึ่งอัน
นึกไม่ถึงว่าอั่งเปาในครั้งนี้ กลับไม่มีใครกดรับ
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเย็น กดส่งอั่งเปาราคาหนึ่งร้อยหยวน
ปรากฏว่า ก็ยังคงไม่มีใครกดรับอยู่ดี
หรือถ้าจะพูดให้ถูก คือไม่มีใครกล้ากดรับ
วินาทีนี้ ใต้สะพานลอยแห่งหนึ่งของเมืองหลวง คนห้าคนกำลังขดตัวนั่งอยู่ในความมืด
หลังจากเห็นแชทกลุ่มในวีแชทเด้ง เนี่ยอู๋หมิงก็สะดุ้งโหยง เขาหันไปมองลูกน้องข้างกาย แล้วบอกว่า “พวกนาย ไปตอบแชทน้องสาวโหย่วหมิง!”
อี้จือฮวาที่เกือบกดรับอั่งเปาในแชทกลุ่ม พยายามควบคุมมือที่ไม่ยอมฟังคำสั่ง พลางส่ายหัวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “อะไรนะ? ผม…ผมไม่เอาด้วยหรอก! ไอ่นักพรต นายตอบแล้วกัน! เร็ว! หัวหน้าบอกให้นายทำ! นายเป็นลูกน้องที่หัวหน้าเชื่อใจที่สุดเลยนะเว้ย!”
…………………………………………..
[1] ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน ภาษาจีนอ่านว่า ถังชู่เสี่ยวไผกู่