แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 923 จะฟังอันไหนก่อน บทที่ 924 ได้ยินคนเรียกแม่
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 923 จะฟังอันไหนก่อน บทที่ 924 ได้ยินคนเรียกแม่
บทที่ 923 จะฟังอันไหนก่อน
เยี่ยหวันหวั่นวุ่นอยู่ครึ่งค่อนคืนกว่าจะได้นอน เช้าวันต่อมา เธอตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์จากเยี่ยมู่ฝาน
“ฮัลโหล? พี่…” เยี่ยหวันหวั่นรับสายด้วยเสียงสะลืมสะลือ
เยี่ยมู่ฝานรีบพูดว่า “มีข่าวดีกับข่าวร้าย เธอจะฟังอันไหนก่อน?”
เยี่ยหวันหวั่นบอกว่า “บอกมาเถอะ อันไหนก็ได้~”
เยี่ยมู่ฝาน “ข่าวดีคือ ฉันไปเจรจากับสวีหลินตามที่เธอบอกแล้ว บอกเขาว่าจะไม่แตะต้องพล็อตเรื่องของเขา ให้เหลือเค้าพล็อตเรื่องเดิมไว้ ให้เขามีส่วนร่วมตลอดการถ่ายทำ แล้วก็ให้เขามาคุยกับกงซวี่และลั่วเฉินที่บริษัทเราด้วยตัวเอง
กงซวี่กับลั่วเฉินเตรียมตัวพร้อมมาก ฝีมือไม่เลวทีเดียว สวีหลินยอมให้เราถ่ายทำผลงานชิ้นนี้แล้ว!”
“ก็ดีแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็ถอนหายใจโล่งอก
เพราะเธอรู้ว่าละครเรื่องนี้เป็นเลือดเนื้อของสวีหลิน เขาคาดหวังกับมันไว้มาก เธอจึงให้ลั่วเฉินกับกงซวี่ประชุมอ่านสคริปต์ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจก่อน แล้วค่อยไปเจรจากับสวีหลิน ทำอย่างนี้ถึงจะเอาชนะใจเขาได้
สาเหตุที่สวีหลินไม่ค่อยดังในสาขานี้ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับนิสัยเขาเป็นส่วนมาก เขาคลั่งอุดมคติและความสมบูรณ์แบบมากเกินไป สำหรับเขา ศิลปะคือทุกอย่าง
ก่อนหน้านี้ที่เขาอยู่กับหวงเทียน และติดตามถานเจิ้นซิน เขาไม่เพียงไม่สามารถลงนามในสคริปต์ของตัวเองได้ แต่บทยังถูกเปลี่ยนจนไม่เหลือเค้าเดิมอยู่บ่อยๆ
เทียบกับสิทธิ์ในการลงนามในผลงาน ความจริงแล้วอย่างหลังมากกว่าที่เป็นชนวนทำให้เขาทนไม่ได้ และไปจากหวงเทียน โดยเอาผลงานชิ้นสุดท้ายที่เขียนเสร็จสิ้นแล้วออกมาด้วย เพื่อสร้างผลงานที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง
แต่น่าเสียดาย ชาติที่แล้วเขายังไม่ทันทำฝันให้เป็นจริง ก็ถูกหวงเทียนทำลายซะแล้ว ไม่เพียงสูญเสียหน้าที่การงานของตัวเองไป แม้แต่บริษัทที่ร่วมมือกับเขาก็ล้มละลายจนไม่เหลือชิ้นดี
แล้วสุดท้าย หวงเทียนก็ตัดส่วนที่เป็น “หลักสัจธรรมธรรมของชาติบ้านเมือง” ที่ขัดกับกระแสการตลาดในเรื่อง “เป็นหรือตาย”ออก แล้วเปลี่ยนให้เป็นละครรักโรแมนติกชื่อว่า “ยุคสมัยแห่งรัก” แทน
ถึงแม้ในเวลาต่อมาจะได้รับความสำเร็จอย่างล้นหลาม แต่สำหรับสวีหลินแล้ว นั่นไม่ได้เป็นเพียงการถูกขโมยผลงานไปเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระชากจิตวิญญาณของเขาไปด้วย เกรงว่าคงเป็นเรื่องที่เจ็บเจียนตายสำหรับเขาทีเดียว
“แล้วข่าวร้ายล่ะ?” เยี่ยหวันหวั่นถาม
เยี่ยมู่ฝานพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวร้ายก็คือ หลังจากที่พวกเราเซ็นสัญญากับสวีหลินได้ไม่นาน จู่ๆ พวกเลวจากหวงเทียนก็มาหาสวีหลิน แล้วบอกว่าสวีหลินขโมยผลงานอาจารย์ถานเจิ้นซินของพวกเขามา! จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับเขาให้ได้!”
ฉันรู้จักลูกไม้สกปรกของพวกหวงเทียนดี ตาเฒ่าถานเจิ้นเทียนหมดไอเดียการเขียนไปตั้งนานแล้ว เขาเหลือแค่ชื่อนักเขียนเหรียญทองที่ได้มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ เท่านั้น ถ้าพูดให้น่าฟังหน่อย สวีหลินก็เป็นลูกศิษย์ของเขา แต่ความจริงแล้วเป็นมือปืน[1]ของเขาต่างหาก!
ถานเจิ้นซินยังขูดรีดผลประโยชน์จากสวีหลินไม่พอ จะปล่อยให้เขาหลุดมือไปได้ยังไง จู่ๆ สวีหลินก็อยากออกมาสร้างผลงานของตัวเอง เขาย่อมไม่มีทางปล่อยไปอยู่แล้ว ส่วนหวงเทียนก็หวังเพียงอาศัยชื่อเสียงของนักเขียนบทเหรียญทอง ถึงจะรู้ว่าสคริปต์นี้เป็นของใคร ก็ทำเป็นไม่รู้ แถมยังแว้งกัดหาว่าสวีหลินขโมยผลงานของถานเจิ้นซินอีก…”
“โอเค ฉันเข้าใจสถานการณ์แล้ว” น้ำเสียงของเยี่ยหวันหวั่นไม่มีความเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ดีมาก ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการของเธอ
“หา? เธอรู้แล้วก็ยังใจเย็นได้อยู่อีกเหรอ? เธอรู้หรือเปล่าว่าพวกเราเพิ่งเซ็นสัญญากับสวีหลิน บริษัทของเราต้องโดนลากเข้าไปมีเอี่ยวด้วยแน่ ยิ่งไปกว่านั้นเยี่ยเส่าอันกับเยี่ยอีอียังไม่รู้ว่าสือไต้คือบริษัทที่ฉันเปิดกับเพื่อน พวกเขาไม่มีทางปล่อยโอกาสเล่นงานฉันไปแน่ หวงเทียนต้องฟ้องบริษัทพวกเราด้วยแน่นอน!” เสียงของเยี่ยมู่ฝานร้อนใจสุดขีด
—————————
บทที่ 924 ได้ยินคนเรียกแม่
ดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นประกายแววเจ้าเล่ห์ “ก็ฟ้องสิ ฉันกลัวเขาจะไม่ฟ้องมากกว่า!”
เพื่อแผนการในวันนี้ เธออาศัยความทรงจำในการเขียนสคริปต์ทั้งเรื่อง แล้วจดลิขสิทธิ์ล่วงหน้า จากนั้นก็ให้กงซวี่กับลั่วเฉินใช้เวลาศึกษาสคริปต์นานขนาดนั้น แล้วยังต้องฝึกเจ้ากงซวี่ให้มีฝีมือพอที่จะสู้หน้าผู้คนได้อีก…
เธอทุ่มเทเวลา และแรงกายแรงใจเพื่อขุดหลุมใหญ่ขนาดนี้ หากพวกเขาไม่กระโดดลงมา ทุกอย่างที่เธอทำมาก็เสียเปล่าน่ะสิ
“หา? นี่เธออยากให้หวงเทียนฟ้องพวกเราเหรอ? เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?”
เยี่ยมู่ฝานได้ยินก็งุนงง นึกว่าเยี่ยหวันหวั่นยังไม่เข้าใจความร้ายแรงของเรื่องนี้ จึงรีบอธิบายให้เธอฟังว่า “จิ้งจอกเฒ่าถานเจิ้นซินนั่น ชิงจดลิขสิทธิ์บทละครเรื่องนี้ก่อนสวีหลินไปแล้ว
ส่วนสวีหลินก็ไม่มีหลักฐานที่จะแสดงว่าตัวเองเป็นคนเขียน สถานการณ์ตอนนี้เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบมาก ถ้าหากฟ้องร้องดำเนินคดี พวกเราต้องเป็นฝ่ายแพ้แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย…”
เยี่ยหวันหวั่นตั้งใจจะอธิบาย แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ เสียงเล็กแหลมหนึ่งก็ดังมาจากทางประตูห้อง
“แม่ครับ…”
เนี่ยถังเซียวตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เขากำลังเดินมาหาเธอ
เยี่ยมู่ฝานที่อยู่ปลายสายได้ยินเสียงนั้นรางๆ ก็อึ้งค้างไปทันที “เยี่ยหวันหวั่น! เธออยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ อยู่กับใครน่ะ? ทำไมฉันได้ยินเสียงเหมือนมีคนเรียกแม่???”
หูของเยี่ยหวันหวั่นแทบระเบิดเพราะเสียงตะโกนของเยี่ยมู่ฝาน เธอยกมือปิดลำโพงแน่น แล้วหันไปพูดกับเนี่ยถังเซียวว่า “ถังถัง รอแป๊บหนึ่งนะ แม่คุยโทรศัพท์ก่อน”
เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็เดินไปที่ระเบียง เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กน้อยจะไม่ได้ยิน
“ขอร้องล่ะ เบาเสียงหน่อยได้ไหม?”
เยี่ยมู่ฝานขนลุกซู่ไปทั้งตัวแล้ว “เธอจะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง เยี่ยหวันหวั่น เธอบอกฉันมาตามตรงเลยนะ เธอคงไม่ได้ถึงขั้นมีลูกกับผู้ชายคนนั้นหรอกใช่ไหม?”
ปากของเยี่ยหวันหวั่นกระตุก ทำหน้าหมดคำพูด “พี่เข้าวัยทองแล้วหรือไง? จินตนาการถึงได้ล้ำเลิศอย่างงี้น่ะ!”
เยี่ยมู่ฝานบอกว่า “เมื่อคืนฉันฝันร้ายด้วย…”
เยี่ยหวันหวั่นถามว่า “ฝันร้ายอะไร?”
เยี่ยมู่ฝาน “ฉันฝันว่าเธอกับผู้ชายคนนั้นมีลูกอายุห้าขวบแล้ว ฉันตกใจจนเหงื่อแตกไปทั้งตัวเลย…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก “ห้าปีก่อนฉันเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง? ฉันดูเหมือนสัตว์เดรัจฉานขนาดนั้นเลยรึไง?”
เยี่ยมู่ฝานบอกว่า “แล้วตกลงมันยังไงกันแน่?”
เยี่ยหวันหวั่นอับจนหนทาง “ฉันมีเด็กอยู่ด้วยคนหนึ่งจริงๆ แต่เป็นหลานของเพื่อนฉัน เขาน่าสงสารมาก พ่อแม่เขาจากเขาไปตั้งแต่ยังเล็ก หาตัวไม่เจอมาตลอดหลายปี เพื่อนฉันเห็นว่าเด็กเสียใจมาก ก็เลยวานให้ฉันสวมบทเป็นแม่ให้เขาช่วงหนึ่ง…”
เยี่ยมู่ฝานบอกว่า “เยี่ยหวันหวั่น…นี่เธอกำลังดูถูกสติปัญญาฉันอยู่นะ…ใครมันจะไปคิดวิธีบ้าๆ แบบนี้ขึ้นมาได้? แม่แท้ๆ สวมบทแทนกันได้ซะที่ไหน?”
เยี่ยหวันหวั่นรู้ ว่าวิธีนี้ฟังดูไม่เข้าท่าเลยซักนิด แต่ตอนนั้นเนี่ยอู๋หมิงพูดถึงเนี่ยอู๋หมิงซะน่ากลัวขนาดนั้น เธอคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันถึงความเป็นความตาย เลยยอมรับปาก เธอจะไปรู้ได้ไงล่ะว่าตัวเองโดนต้ม…
ถังถังเป็นเด็กว่าง่ายมากแท้ๆ…
เยี่ยหวันหวั่นบอกว่า “แต่เรื่องจริงมันเป็นอย่างงี้นี่นา ฉันจะโกหกพี่ไปทำไมเล่า? ถ้าฉันกับแฟนฉันมีลูกชายด้วยกันจริง จะต้องเป็นเด็กที่หน้าตาดีและน่ารักที่สุดในโลกแน่ๆ ฉันคงอดใจไม่ไหวอยากจูงมือเขาออกไปอวดให้ทั่วเมืองหลวง ทำไมต้องหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยล่ะ?”
เยี่ยมู่ฝานเงียบ
มีอะไรก็พูดกันดีๆ กรุณาอย่าเอะอะก็อวดแฟนออกสื่ออย่างนี้ จะขอบคุณมาก…
………………………………………………….
[1] มือปืน ในที่นี้หมายถึงคนที่สร้างผลงานแทนให้ผู้อื่น