แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 965 ฉันเคยชอบเธอคนเดียว บทที่ 966 ไม่งั้น นอนด้วยกันไหม
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 965 ฉันเคยชอบเธอคนเดียว บทที่ 966 ไม่งั้น นอนด้วยกันไหม
บทที่ 965 ฉันเคยชอบเธอคนเดียว
น้องสาวหายตัวไปจึงปกปิดไว้ ผลเป็นไงล่ะ เธอถูกฝังทั้งเป็นแล้ว
สังเกตเห็นสายต้าซือเยี่ยหานมองจากตรงข้าม เยี่ยหวันหวั่นจะร้องไห้แล้ว เธอรีบส่งสายตาสื่อความนัย ใจเย็นๆ ด้วยความฉลาดของคุณต้องรู้แน่ว่าเด็กคนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉันนะ! เคยชอบคนหลายคนอะไรนั่นก็ไม่ใช่ฉันนะ!
เยี่ยหวันหวั่นได้แต่อธิบายอย่างขื่นขม “ถังถังจ๊ะ ลูกยังเล็ก ไม่เข้าใจหลายอย่าง ความจริงช่วยวัยหนุ่มสาว เคยชอบหลายคนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก…”
เยี่ยหวันหวั่นกำลังอธิบายกับถังถัง ก็พลันสังเกตว่าสายตาของซือเยี่ยหานที่ตกลงมาบนตัวเองแปลกๆ เธอจึงถามเสียงอ่อน “เอ่อ ทำไมเหรอ ฉันพูดอะไรผิดเหรอ”
ซือเยี่ยหานนั่งบนโซฟาที่ด้านหลัง มองเธอ เอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ฉันเคยชอบเธอคนเดียว”
เยี่ยหวันหวั่นที่ถูกโต้กลับนิ่งอึ้ง
นึกไม่ถึงเลยว่าซือเยี่ยหานจะถึงกับแหกเธอ! บอกแล้วไงว่าให้ร่วมมือกันน่ะ!
แต่…แหกทั้งที่ทำไมยังแหกได้ใจดีขนาดนี้กันเล่า
เยี่ยหวันหวั่นเค้นสมองเอ่ย “นะ…นั่นก็หมายความว่าคุณโชคดีมาก ส่วนฉันก็ดวงซวยกว่า ผ่านสารพันความลำบาก ตายเกิดใหม่เก้าครั้ง เผชิญเรื่องราวมากมาย กว่าจะได้เจอคุณไง!”
ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ
เนี่ยถังเซียวกก็นิ่งเงียบ
เยี่ยหวันหวั่นยังเอ่ยอย่างกระเสือกกระสนต่อ “ถังถัง ลูกรู้แค่ว่า ลูกเป็นผลผลิตความรักของพ่อกับแม่ เป็นแก้วตาดวงใจของพ่อกับแม่ก็พอ!”
เด็กน้อยได้ยินดังนั้น ในที่สุดก็พยักหน้าแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นเครียดอยู่ครึ่งค่อยวัน ในที่สุดก็จัดการเรื่องของเนี่ยถังเซียวได้ชั่วคราว เธอรีบให้เด็กน้อยขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำก่อน นอนพักผ่อนเร็วหน่อย
แต่ หลังจัดการเรื่องเล็กก็ยังไม่จบ มีขวากหนามที่ใหญ่กว่า…
หลังถังถังขึ้นชั้นบน ในห้องรับแขกก็เหลือแค่เยี่ยหวันหวั่นกับซือเยี่ยหานสองคน
ซือเยี่ยหานเอ่ย “พูดมา”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “พูดแล้วเรื่องมันยาว”
ซือเยี่ยหานกล่าว “งั้นย่อให้สั้นๆ”
เยี่ยหวันหวั่นตอบ “ตกลง…”
เยี่ยหวันหวั่นจนปัญญา ได้แต่เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดหนึ่งรอบ
ผลกลายเป็นว่าเพิ่งเล่าจบ เธอก็เผชิญกับสายตา ‘เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ’ ใบหน้าซือเยี่ยหาน
แม้แต่ยใฝยังคิดว่าคำอธิบายเหลวไหลไป นับประสาอะไรกับซือเยี่ยหานกันล่ะ!
แต่นี่เป็นความจริงจริงๆ นะ
เยี่ยหวันหวั่นงึมงำอย่างโกรธเคือง “ฉันรู้ว่าฉันตอบเรื่องนี้ได้ลวกๆ ไปหน่อย แต่ว่า นี่เป็นความจริงนะ! สายตาอะไรของคุณ สงสัยว่าฉันโกหกคุณเหรอ คุณคงไม่ได้สงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นลูกลับๆ ของฉันหรอกนะ”
ซือเยี่ยหานได้ยินว่า ‘ลูกลับๆ’ คำนี้ ดวงตาลึกล้ำก็วาบแววคลื่นลมผันผวนอย่างยากสังเกตเห็น
เยี่ยหวันหวั่นยังพูดต่ออย่างโมโห “ขอร้องคุณละ คุณคิดดูก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้นะ! ฉันเนี่ยนะจะมีเบบี๋ ฉันเพิ่งจะอายุยี่สิบนะ จะไปคลอดเด็กอายุมากขนาดนี้ได้ยังไง! ทำไมคุณไม่พูดบ้างล่ะว่านี่เป็นลูกลับๆ ของคุณ ทั้งนิสัย สีหน้าท่าทาง แม้แต่น้ำเสียงพูดจาก็เหมือนคุณไม่มีผิด!”
ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ
เยี่ยหวันหวั่นคงคิดว่าคำพูดนี้ของตัวเองไร้สาระอยู่บ้าง จึงรีบเปลี่ยนคำพูด “คุณเก้า ก็ได้ๆ อย่าโกรธเลยน่า คุณลองดูถังถัง หน้าตาเหมือนฉัน นิสัยเหมือนคุณ คุณก็คิดซะว่าเขาเป็นลูกของพวกเรา เลี้ยงดูสักสองสามวันก็พอแล้ว!”
ซือเยี่ยหานมุมปากกระตุก
ยกกเขย่าแขนเขา “คุณเก้า เด็กคนนี้ชีวิตอาภัพมาก แม่ทิ้งไม่ใยดี แม้แต่พ่อเป็นใครก็ไม่รู้ ตั้งแต่เล็กก็ติดตามคุณตาคุณยาย หลายปีนี้หาพ่อแม่แท้ๆ ไม่เจอมาตลอด…ความจริงตอนแรกฉันก็ไม่อยากหาคุณมาแสร้งเป็นพ่อของเขา…”
ซือเยี่ยหานมองเธอ “เธออยากหาใคร”
————————————————————————–
บทที่ 966 ไม่งั้น นอนด้วยกันไหม
เมื่อสังเกตเห็นแววอันตรายในสายตาของคนตรงหน้า เยี่ยหวันหวั่นหน้าซีดทันที
เข้าใจผิดหรือเปล่า หาคุณไม่ได้ ไม่หาคุณก็ไม่ได้?
ทำตัวยากไปแล้วไหม…
“มะ…ไม่ใช่นะ! ตอนแรกฉันก็อยากมาหาคุณนี่แหละ! เรื่องอย่างนี้ ฉันต้องไปหาแฟนให้ช่วยอยู่แล้ว นี่ฉันก็แค่ห่วงว่าคุณจะไม่เชื่อคำพูดของฉันเหมือนอย่างตอนนี้ไง…”
เยี่ยหวันหวั่นกำลังอธิบาย ซือเยี่ยหาน ก็ไม่รู้คิดอะไรจึงดูเหมือนใจลอยอยู่บ้าง สายตาอยู่บนตัวเธอ แต่กลับไม่ได้มองโฟกัส
เยี่ยหวันหวั่นถูกจ้องจนขนลุก “เอ่อ…ทะ…ทำไมเหรอ…ทำไมมองฉันแบบนั้น”
ซือเยี่ยหานเหมือนคิดอะไรได้ แต่ก็รู้สึกอีกว่าเป็นไปไม่ได้ เขานวดหัวคิ้วสงบอารมณ์ “ไม่มีอะไร…”
พูดจบ เขาก็รำพันเกมือนถอนใจในปาก “เธอไม่มีทาง…”
“อ๋า?” เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้างุนงง ฟังไม่เข้าใจสักนิดเดียวว่าซือเยี่ยหานพูดอะไร
เธอไม่มีทาง? เธอไม่มีทางทำอะไร
“นี่ ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว! ไม่เจอกันนาน คุณไม่คิดถึงฉันเหรอ” สองตาเยี่ยหวันหวั่นจับจ้องใบหน้าอีกฝ่ายที่ตั้งแต่ร่างกานเริ่มดีขึ้นก็ยิ่งงดงามเหนือทุกค…
ในตอนที่กำลังเตรียมจะสวีทหวานอย่าง ‘ห่างไกลกันรักยิ่งเติบโต’ ที่ด้านหลังก็พลันมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา
“คุณแม่…”
เยี่ยหวันหวั่นลุกพรวดขึ้นทันที “แค่ก ถังถัง อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ เดี๋ยวแม่ไปนอนเป็นเพื่อนลูกนะ!”
เนี่ยถังเซียวตอบ “อืม”
ซือเยี่ยหานที่อุตส่าห์เก็บกักอารมณ์อย่างยากลำบากรีบกลับมา แต่กลับต้องเปล่าเปลี่ยวอยู่คนเดียวพูดไม่ออก
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “เอ่อ ถังถังยังเล็กอยู่ นอนคนเดียวจะกลัวได้…”
ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ เมื่อก่อนไม่ว่าเหตุการณ์ไหน เธอก็จะรีบกลับมานอนด้วยกันกับเขาอย่างตรงเวลาเสมอ
เยี่ยหวันหวั่นมองคนตัวใหญ่ แล้วมองคนตัวเล็กอีกที รู้สึกราวกับสมองจะระเบิด เธอฉุกคิดบางอย่าง ในที่สุดก็มีไอเดียแล้ว “ไม่งั้น นอนด้วยกันไหม”
เธอนี่มันฉลาดจริงๆ เลย!
ซือเยี่ยหานพูดไม่ออก
เนี่ยถังเซียวนิ่งเงียบ
หนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กสบตากัน ไม่ได้พูดอะไร นับว่ายอมรับกลายๆ แล้ว
สุดท้ายก็กลายเป็นสามคนนอนบนเดียงเดียวกัน
เพื่อรับบทครอบครัวสามคน เยี่ยหวันหวั่นให้เด็กน้อยนอนตรงกลางระหว่างเธอกับซือเยี่ยหาน
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ถังถัง แม่เล่านิทานให้เอาไหม”
ถังถังเอ่ย “เอา”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม “ถังถังอยากฟังอะไร”
เนี่ยถังเซียวเอ่ย “นิทานที่คุณแม่เล่าเมื่อวาน”
ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ เมื่อก่อนหวันหวั่นก็กล่อมเขานอนแบบนี้…
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “โอ้ นิทานเมื่อวาน ใช่เรื่องหนูน้อยหมวกแดงกับหมาป่าเทายักษ์ไหม ตกลงๆ…”
เยี่ยหวันหวั่นกระแอมเบาๆ หนึ่งที เริ่มเล่านิทาน “เมื่อก่อนมีเด็กสาวตัวน้อยน่ารัก ใครเห็นก็รักก็ชอบ คนที่ชอบเธอที่สุดคือคุณยายของเธอ ครั้งหนึ่ง คุณยายให้หมวกเล็กสีแดงทำจากกำมะหยี่เด็กสาว ตั้งแต่นั้นมา เด็กสาวก็ไม่ยอมสวมหมวกใบอื่นอีก ดังนั้นทุกคนจึงเรียกเธอว่า ‘หนูน้อยหมวดแดง’…
“หนูนน้อยหมวกแดงไม่รู้ว่าหมาป่าเป็นหมาป่าชั่วร้าย เธอจึงบอกหมาป่าว่าเธอจะไปเยี่ยมคุณยายของตัวเองในป่า หมาป่าวางแผนในใจ ‘เด็กเล็กๆ เนื้อนุ่มหนังอ่อนนี่ รับรองว่าต้องรสชาติดีกว่ายายแก่เป็นไหนๆ ข้าต้องวางแผนรอบคอบเสียหน่อย ให้ทั้งสองคนหนีไม่พ้นเงื้อมมือข้า’…”
ซือเยี่ยหานฟังถึงตรงนี้ ก็ช้อนตามองเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นไม่สังเกตเห็นสายตาของซือเยี่ยหาน เล่าเรื่องต่อ “…คุณยาย ทำไมปากของคุณยายใหญ่น่ากลัวจังคะ หนูน้อยหมวกแดงถาม จะได้กินหนูในคำเดียวไงจ๊ะ! หมาป่าพูดจบก็กระโดดลงจากเตียง กลืนหนูน้อยหมวกแดงลงท้องไป…”
ซือเยี่ยหานไม่พูดอะไร
เยี่ยหวันหวั่นเล่าจบสองรอบ ในที่สุดก็กล่อมเด็กน้อยหลับ
เพิ่งถอนหายใจโล่งอก เธอก็เห็นซือเยี่ยหานกำลังมองตัวเองด้วยแววตาซับซ้อน “เอ่อ ทำไมเหรอ”
ซือเยี่ยหานเอ่ย “ไม่เหมือนกัน”
เยี่ยหวันหวั่นถาม “อะไรไม่เหมือนกัน”
ซือเยี่ยหานเอ่ย “ไม่เหมือนกับฉบับที่เธอเล่าให้ฉันฟัง”
……………………