แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1020 คือความลุ่มหลงและดื้อรั้น
“มันจะได้เหรอครับ?” ผู้คุมดีใจมาก
อวี๋หมิงซีไม่ใช่นักร้องที่ใครจะเชิญไปได้ง่ายๆ
“ได้สิคะ เมื่อก่อนฉันก็เคยแสดงในเรือนจำที่อื่น”
การเชิญคณะการแสดงของทหารมาทำการแสดงในเรือนจำถือเป็นการสร้างความสุขและสร้างทัศนคติแบบหนึ่ง จึงมีอยู่บ้าง เพียงแต่อวี๋หมิงซีไม่ค่อยได้เข้าร่วม
“งั้นผมจะไปลองขอดูนะครับ!”
ได้รับอนุญาตอย่างง่ายดายตามคาด ดาราใหญ่ระดับนี้มาทำการแสดงให้โดยไม่ต้องร้องขอถือเป็นเรื่องดี
อวี๋หมิงซีเลือกเพลงที่ทำนองสนุกสนาน ซึ่งก็เหมาะแก่การร้องในที่แบบนี้มาก
เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เสียงของเธอร้องเพลงได้หลายแบบ ร้องเพลงนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน
ทำนองของเพลงนี้ก็หาง่าย แทบจะทุกการแสดงต้องมีติดไว้ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
แต่พอถึงตอนที่อวี๋หมิงซีกำลังจะต้องขึ้นเวที ทันใดนั้นก็เกิดเรื่องขึ้น
เธอพบว่าตัวเองไม่มีเสียง!
และในเวลานั้นเองพิธีกรได้ขึ้นเวทีเริ่มพูดเข้างานแล้ว พอชื่อของซูซีถูกพูดออกไปก็มีเสียงฮือฮาตามมาทันที ทุกคนต่างรู้ว่านี่คือดาราดัง
โชคดีที่พิธีกรค่อนข้างพูดเยอะ ทำให้อวี๋หมิงซีมีเวลาเตรียมตัว เธอรีบกวักมือเรียกไห่เจาที่กำลังอยู่ในอาการตกใจ บอกให้เขารีบโทรหาเสี่ยวเชี่ยน
ในใจเธอรู้ดีที่เสียงเธอไม่ออกไม่ได้เป็นปัญหาที่กล่องเสียง มันจะต้องเป็นที่จิตใจแน่นอน!
“เทพเชี่ยนช่วยด้วย! อยู่ๆเสี่ยวซีก็ไม่มีเสียง!” ไห่เจาเข้าประเด็นทันที
“อะไรนะ? พูดอีกทีซิ เกิดอะไรขึ้น?”
ทางด้านเสี่ยวเชี่ยนก็ดูจะยุ่งๆ เหมือนกำลังจัดการเรื่องอะไรอยู่ เธอเดินไปหาที่สงบคุยโทรศัพท์ พอได้ฟังไห่เจาเล่าประธานเชี่ยนก็เข้าใจทันที
มันเกิดจากการที่มีความรู้สึกกดดันมากเกินไป อารมณ์สับสน เลยเกิดอาการแบบนี้ขึ้นมา
“ใจเย็นๆก่อนนะ ดูเหมือนจะรุนแรงอันที่จริงแล้วง่ายมาก เดี๋ยวแสดงเสร็จแล้วพามาที่ฉันนี่ ฉันรักษาให้ทีเดียวเห็นผล”
“จะให้ใจเย็นได้ไง? เสียงคือชีวิตของเขาเลยนะ นี่ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำไง! ผมจะพาเขากลับไปเดี๋ยวนี้!” ไห่เจาแทบอยากจะติดปีกบินกลับไป
เขารู้ว่าอวี๋หมิงซีพาเขามาที่นี่เพื่อเจอผู้ชายคนที่ทำให้เธอร้องเพลงทั้งน้ำตาคนนั้น เขาทำใจอยู่ตั้งนาน แต่ถึงจะเตรียมใจมาขนาดไหนก็ไม่ได้เตรียมใจเรื่องที่เธอไม่มีเสียงพูดนี่!
“นายเรียกฉันว่าเทพขนาดนี้ เทพบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรไง! เมื่อก่อนฉันเคยรักษาคนที่เป็นอัมพาตเพราะปัญหาด้านสภาพจิตใจมาแล้ว ครั้งเดียวก็ยืนได้เลย แล้วเรื่องนี้มันจะสักแค่ไหนกัน ไม่ต้องกลัว พาเขากลับมาก็พอ”
เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างสบายๆ ในความเป็นจริงปัญหาด้านสภาพจิตใจแค่นี้ไม่ได้ยากเท่าไรเลย
ไห่เจาเชื่อเสี่ยวเชี่ยน แต่กลับไม่วางใจเรื่องอวี๋หมิงซี เขาลากอวี๋หมิงซีออกจากตรงนั้น ต้องกลับไปหาเสี่ยวเชี่ยนเดี๋ยวนี้!
เวลานี้พิธีกรคงใกล้เรียกเธอแล้ว อวี๋หมิงซีดึงแขนเสื้อไห่เจาแล้วส่ายหน้าให้เขา จากนั้นก็ชี้ไปที่เวที
เธอเป็นนักร้องอาชีพ ไม่ใช่ดาราที่ดังจากการขายชีวิตส่วนตัว
นักร้องก็ต้องมีจรรยาบรรณ นี่คือเวทีของเธอ และก็เป็นสนามรบของเธอด้วย
สำหรับอวี๋หมิงหลางนักรบที่เลือดในกายพลุ่งพล่านพละกำลังเต็มเปี่ยมแบบนั้น สนามรบของเขาก็คือพื้นที่ข้างนอก ทำภารกิจช่วยเหลือต่างๆ
แต่สำหรับอวี๋หมิงซีที่เป็นนักร้อง เวทีก็คือสนามรบ เธอต้องใช้เสียงเพลงสร้างขวัญกำลังใจให้เหล่าทหารที่ลำบากตรากตรำในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ทำให้พวกเขาปกป้องชายแดนได้อย่างสบายใจ ในสถานที่แบบนี้ต้องใช้เสียงเพลงปลุกจิตใจส่วนดีของนักโทษขึ้นมา ช่วยให้พวกเขาได้กลับไปใช้ชีวิตใหม่ได้เร็วๆ
รับปากไว้แล้วว่าจะขึ้นเวทีไปร้องเพลง ต่อให้ร้องไม่ได้ก็ต้องขึ้นไปบอกทุกคน ถึงผู้ชมด้านล่างส่วนใหญ่จะเป็นนักโทษ แต่ขอแค่นั่งอยู่ด้านล่างเวทีก็คือผู้ชม เป็นผู้ชมที่ควรค่าแก่การเคารพ
เส้นเสียงของเธอมีปัญหา อย่างน้อยๆก็ต้องขึ้นเวทีไปก้มหน้าขอโทษแล้วค่อยไป ไม่ใช่ออกไปโดยไม่บอกอะไรเลยแบบนี้ แบบนั้นมันเรียกหนีทหาร
ไห่เจาเป็นห่วงเธอ แต่ตอนนี้ขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก ตอนที่ทั้งสองคนกำลังเดินไปขึ้นเวที ทันใดนั้นไห่เจาก็คิดอะไรออก เขากระซิบข้างหูอวี๋หมิงซีเป็นเรื่องเป็นราว อวี๋หมิงซีมองเขาอย่างอึ้งๆ ได้เหรอ?
“ไม่มีเวลาคิดมากแล้ว เอาแบบนี้ไปแหละ ยังไงพวกเขาก็ชอบที่ตัวคุณ คุณยืนอยู่บนเวทีนานหน่อยดีกว่าขอโทษเสร็จแล้วกลับ พอร้องจบแล้วผมค่อยอธิบายกับทุกคน!”
อวี๋หมิงซียังคงลังเล แต่ไห่เจาจูงมือเธอเดินไปที่หน้าเวทีด้วยกันแล้ว
ด้วย กัน!
นี่ก็หมายความว่าทั้งสองคนได้เปิดเผยตัวต่อหน้าสาธารณชน ถอยไม่ได้แล้ว!
“ต่อไปพวกเราขอมอบเวทีให้กับซูซี ขอเชิญเธอมามอบเสียงเพลงที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพวกเรา เพลงเริ่มต้นใหม่อีกครั้งครับ!”
อันที่จริงพิธีกรเองก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นดาราดังแบบใกล้ชิด — แล้วผู้ชายที่อยู่ข้างดาราดังนั่นเป็นใคร?
หรือติดคุกนานเกินไป ไม่ได้ข่าวสารจากภายนอก มีดาราดังใหม่ที่เขาไม่รู้จักเหรอ? จริงๆแล้วพิธีกรคนนี้ก็เป็นหนึ่งในนักโทษ
พิธีกรมีความคิดแบบนี้ ผู้ชมส่วนใหญ่ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่?
นักโทษส่วนหนึ่งไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกเลย ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร เอาเป็นว่าหล่อก็พอแล้ว
ตอนนี้จิตใจของเสี่ยวซีจดจ่ออยู่ที่ไห่เจา เธอกลัวว่าไอเดียที่ไห่เจาเสนอว่าเขาร้องแล้วเธอเต้นจะไม่เป็นที่ยอมรับ ยิ่งไปกว่านั้นคือกลัวทำงานนี้พัง ไห่เจาร้องเพลงพอได้ แต่เสียงสูงเขาไปไม่ถึง!
พอจินตนาการเขาร้องเสียงสูงเพี้ยนๆแล้วยังทนร้องต่อไปเธอก็เหงื่อแตก เสียงเธอทำไมต้องมามีปัญหาเวลานี้ด้วยนะ?
เนื่องจากกำลังกังวลเรื่องไห่เจาจึงไม่มีเวลามองหาซุนเสีย ล่างเวทีมีคนตั้งเยอะแยะ โกนหัวเหมือนกัน ใส่ชุดก็เหมือนกัน ใครจะไปรู้ว่าเป็นใครบ้าง!
หันหลังกลับไม่ได้แล้ว ไห่เจาเริ่มร้องแล้ว!
อันที่จริงเสียงของเขาไพเราะมาก ตัดเรื่องเสียงสูงที่ร้องไม่ถึงไปที่เหลือก็ไม่มีปัญหา ท่อนแรกๆร้องยังพอได้ ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างเหมือนที่ไห่เจาคิดไว้ สายตาเอาแต่จับจ้องไปที่ดาราดังที่เคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ ไม่มีใครสนใจเรื่องเพลง และมันกำลังจะถึงช่วงเสียงสูง ไห่เจาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
เพื่อเสี่ยวซีของเขา สู้โว้ย!
“หากใจอยู่! ความฝันก็อยู่!”
ตะโกนร้องสุดแรงเกิด ท่อนถัดไปยังไม่ทันเริ่ม ก็เริ่มมีคนรู้สึกเอะใจกับเสียงเพลงแล้ว
ทำไมร้องได้ไม่ต่างจากที่เราร้องเวลาอาบน้ำเลยล่ะ? เสียงสูงขึ้นไม่ถึง ไมโครโฟนเสียเหรอ?!
ท่อนถัดไปไห่เจากำลังจะทำขายหน้าอีกรอบ เขาเตรียมตะโกนร้องเต็มที่โดยไม่สนเรื่องขายหน้าแล้ว แต่มีคนที่ไวกว่าเขา!
“บนโลกนี้ยังมีรักแท้! มีสำเร็จมีล้มเหลวนี่แหละชีวิตคน เราก็แค่เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง!”
เสียงอันไพเราะของอวี๋หมิงซีดังออกมาจากไมโครโฟน ผู้ชมด้านล่างสนุกขึ้นมาทันที
จังหวะนี้คล้ายกับเวลาร้องคาราโอเกะ อยู่ๆก็เปิดเสียงนักร้องขึ้นมาเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ เสียงของเธอสูงกว่าไห่เจาไม่รู้ตั้งเท่าไร สร้างความครึกครื้นได้ทันที
ไห่เจามองเธออย่างตื่นเต้น เสี่ยวซีถือไมโครโฟนพลางพยักหน้า ใช่ เสียงเธอใช้ได้ขึ้นมาในเวลาสำคัญพอดี
เห็นเขาทำเพื่อเธอขนาดนี้ คล้ายกับว่าปมในใจทั้งหมดไม่ใช่เรื่องอีกต่อไป
ความรัก บางทีก็เหมือนเหล้าที่ทำให้คนเมามายไม่สนว่าใครเป็นใคร แต่บางทีก็เหมือนสายน้ำที่แสนฉ่ำเย็นชุ่มชื่นหัวใจ อันที่จริงจะเป็นความรักแบบไหนก็ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ เขากล้าที่จะก้าวออกมาช่วยเธอในเวลาที่เธอต้องการ
คนหัวใจรั้นและยึดติดไล่ตามเธอมาเป็นพันลี้
คนที่ปกป้องและอยู่กับเธอเสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
และยิ่งเป็นตอนที่เสียงของเธอมีปัญหาเขาก็ยังไม่สนเรื่องที่ตัวเองร้องเสียงสูงไม่ได้กล้าที่จะยืนอยู่บนเวทีช่วยเธอกู้หน้า
เรื่องพวกนี้ทำให้เธอประทับใจมาก