แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1056 ไปหลอกใครได้อีกแล้ว
“อารมณ์ดีเหรอ?” ตอนอวี๋หมิงหลางโทรหาเสี่ยวเชี่ยน เธอกำลังออกกำลังกาย น้ำเสียงดูสดใส
“อืม วันนี้ฉันเสียทรัพย์ แต่เสียแล้วสบายใจ”
“ซื้อของใหญ่เข้าบ้านเหรอ?”
“เปล่า ฉันเอาเงินไปซื้อตอนจบนิยายที่ฉันชอบ มีทองเป็นพันชั่งก็ซื้อไม่ได้นะ—”
เรื่องนี้ทำให้เสี่ยวเชี่ยนอารมณ์ดีมาก แต่เธอก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมอารมณ์ดีได้ขนาดนี้
“เงินคุณเอาไปไว้ที่สุ่ยเซียนรอซื้อหุ้นฟิวเจอร์หมดแล้วไม่ใช่เหรอ เงินพอใช้หรือเปล่า?” น้อยครั้งที่อวี๋หมิงหลางจะถามเรื่องการเงินของครอบครัว แต่เสี่ยวเชี่ยนก็รายงานการใช้เงินภายในบ้านให้ฟังเป็นประจำ
เสี่ยวเชี่ยนมีแผนจะเปลี่ยนรถ ดังนั้นเธอจึงเก็บเงินไว้ล่วงหน้าชนิดที่ไม่แตะต้องเงินก้อนนี้ รอถึงเวลาก็เอาไปซื้อรถ ส่วนเงินที่เหลือแสนกว่าเอาไปให้สุ่ยเซียนช่วยเล่นหุ้น
อวี๋หมิงหลางเป็นห่วงมากว่าระหว่างที่เขาไม่อยู่บ้านช่วงไม่กี่วันนี้เมียเขาจะเอาแต่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
“ไม่เป็นไร ฉันใช้ไปสองหมื่น รับมาสามหมื่น”
“…ไปหลอกใครมาได้อีก?”
แสดงว่าเมียเขาได้ลูกค้ามาอีกแล้ว?
“ทำไมใช้คำว่าหลอก? ฉันทำงานสุจริต วันนี้ฉันใส่กางเกงอัปลักษณ์ที่นายเลือกให้ไปสอน เจอผู้ป่วยพอดี เขามีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง ฉันก็เลยรับไว้ เป็นเคสเล็กๆที่ใช้เวลาจัดการแค่ไม่กี่ชั่วโมง!”
พูดไปก็บังเอิญจริง คนไข้ที่ศาสตราจารย์หลิวต้องการให้เธอรักษาก็คือนักศึกษาหญิงคนที่เอาตะปูใส่ในรองเท้าลั่วเสียวหย่า
เด็กคนนี้ที่บ้านทำธุรกิจฐานะค่อนข้างดี แต่มีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรงมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ชอบใช้วิธีแปลกๆข่มเพื่อนคนอื่น นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น และเรื่องที่เป็นตัวกระตุ้นให้พ่อของเด็กคนนี้มาหาศาสตราจารย์หลิวก็คือ เด็กคนนี้เอาน้ำร้อนไปราดลูกแมวในบ้าน
พฤติกรรมแบบนี้น่ากลัวมาก โดยเฉพาะเด็กคนนี้ชอบอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงด้วย พ่อของเธอกลัวว่าลูกสาวจะกลายเป็นคนที่น่ากลัวจึงรีบมาหาศาสตราจารย์หลิว
เดิมศาสตราจารย์หลิวอยากให้เสี่ยวเชี่ยนจัดการเคสนี้ แต่ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะไปเจอของแข็งเข้าเสียก่อน เจอผู้ป่วยที่มีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรงที่อาการหนักกว่า เลยถูกทำร้าย
ขณะที่เสี่ยวเชี่ยนกำลังกลุ้มที่ตัวเองเอาเงินค่าขนมไปให้คนอื่นยืมเฉย พอไปถึงบ้านศาสตราจารย์หลิว อาจารย์เล่าให้ฟังเธอถึงได้รู้ว่า นักศึกษาสาวที่แกล้งลั่วเสียวหย่าก็คือคนไข้ที่อาจารย์พูดถึง จากนั้นรูปเงินก็ปรากฏตรงหน้าเสี่ยวเชี่ยนทันที
“ฟังๆดูคนไข้คนนี้ไม่ถูกใจคุณเท่าไร” อวี๋หมิงหลางหัวเราะแหยๆ
เคสเล็กๆที่รักษาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเรียกเงินไปสามหมื่น จะต้องเป็นคนที่เมียเขาเกลียดเป็นพิเศษแน่นอน
“ฉันเป็นหมอใจดำที่เห็นแก่เงิน ฉันนิสัยแบบนี้ ถ้าเสียดายเงินก็ไปหาคนอื่นสิ”
เสี่ยวเชี่ยนไม่อยากพูดถึงคนไข้ที่เธอไม่ชอบขี้หน้าคนนั้น เธอเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น
“ต้าหลงเป็นไงบ้าง ได้เจอหรือเปล่า?”
“เข้าหน่วยไปเรียบร้อยแล้ว อีกสองสามวันเขาจะถูกส่งไปอยู่ค่ายอื่น ตอนนี้ยังไม่รู้อะไร ไม่รู้ว่าพวกเราจะส่งให้ไปอยู่ที่ไหน ยังดูตื่นเต้นอยู่ แต่ว่านะลูกเชี่ยน ผมดูสัมภาระของต้าหลงแล้ว ผมว่ามันแปลกๆนะ”
“แปลกยังไง?”
“ช่วงนี้ต้าหลงอ่านหนังสือที่เนื้อหาค่อนข้างรุนแรง แถมยังเล่นเกมที่เนื้อหารุนแรงด้วย มันจะส่งผลไม่ดีกับน้องคุณหรือเปล่า?”
เสี่ยวเชี่ยนได้ฟังก็ถอนหายใจโล่งอก เธอก็คิดว่าเรื่องใหญ่อะไร ที่แท้ก็เรื่องนี้
“เรื่องนี้ไม่เป็นไร ยึดหนังสือมาก็พอ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะเสียคนเพราะหนังสือพวกนี้ นิสัยอย่างต้าหลงอยากจะใช้ความรุนแรงก็ใช้ไม่ขึ้นหรอก ตอนนี้มีแต่เป็นฝ่ายถูกกระทำมากกว่า”
“แต่พูดกันมาตลอดไม่ใช่เหรอว่าละครภาพยนตร์ที่เนื้อหารุนแรงไม่ดีต่อเยาวชน?” ตอนที่อวี๋หมิงหลางเห็นหนังสือพวกนั้นอยู่ในกระเป๋าต้าหลงเขาก็ยึดมาทันที อีกทั้งยังเปิดอ่านไปหลายหน้า น่าตกใจไม่น้อย
เขียนได้รุนแรงมีแต่การนองเลือด ไม่รู้ใครยัดเยียดหนังสือพวกนี้มาให้ต้าหลงอ่าน มีแต่จะพาเด็กเสียคน
“แต่ไหนแต่ไรมาพวกเรามักจะคิดว่าหนังสือหรือละครภาพยนตร์ที่เนื้อหารุนแรงจะมีอิทธิพลต่อมนุษย์ รวมถึงเวลาที่คนร้ายคดีรุนแรงถูกจับก็มักจะโทษไปที่หนังสือเนื้อหารุนแรงที่ตัวเองเคยอ่าน แท้จริงแล้วมันก็แค่ผิวเผิน”
ว่ากันว่าภาพยนตร์เรื่องกู๋หว่าไจ๋มีอิทธิพลต่อคนในยุคนั้นมาก ทำให้เกิดแก๊งค์นักเลงขึ้นมามากมาย
แต่ทำไมคนดูหนังเรื่องนั้นก็ตั้งเยอะแยะ กลับมีคนแค่ไม่เท่าไรที่ทำเรื่องเลว?
ตอนที่ยังไม่มีหนังเรื่องกู๋หว่าไจ๋ โลกนี้ไม่มีแก๊งค์อันธพาลเลย?
หลายคนพอดูหนังแล้วก็รู้สึกว่าเท่ห์อยากเลียนแบบบ้าง แบกไม้หน้าสาม เปลือยท่อนบน ทำตัวนักเลงเดินกร่างไปทั่ว แสร้งทำเป็นหัวหน้าแก๊งค์นักเลง พาลูกน้องตัวจ้อยไปก่อเรื่องอย่างดึงผมเปียเด็กผู้หญิง เตะหมา เตะแมว แอบขโมยผลไม้ข้างทาง พอโตขึ้นก็กลายเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าเฉินจื่อหลงก็คือคนแบบนั้น มีใจอยากเป็นโจร แต่ไม่มีความกล้า
“ลูกเชี่ยน คุณพูดไม่ค่อยเหมือนกับวิชาจิตวิทยาอาชญากรรมที่ผมเคยเรียนเลย” อวี๋หมิงหลางท้วง
เสี่ยวเชี่ยน หึ ออกมา “ก็เพราะตอนนั้นพวกนายสอนกันผิดๆไงล่ะ!”
สาเหตุของการใช้ความรุนแรงมีมากมาย มีทั้งที่เป็นโดยกำเนิด ทั้งสภาพแวดล้อมหล่อหลอม อย่างเช่นนักศึกษาหญิงที่วันนี้ถูกเธอเชือดมาสามหมื่น เพราะเติบโตมาในสภาพแวดล้อมไม่ดีตั้งแต่เด็ก ขาดความรักจากครอบครัวเลยทำให้มีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง ส่วนแฟนของลั่วเสียวหย่าเกิดจากการที่สมองเคยได้รับการกระทบกระเทือน แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็ไม่ใช่เพราะเคยอ่านหนังสือหรือดูละครภาพยนตร์ที่มีเนื้อหารุนแรง
‘การทำตัวเลว’ ไม่ได้เกิดจากการเลียนแบบเสมอไป เนื้อหาความรุนแรงกับความรุนแรงในโลกความเป็นจริงไม่ได้มีการพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องกัน ล้วนเป็นสิ่งที่พูดกันในภายหลัง ถึงในแวดวงวิชาการจะยังถกเถียงกันเรื่องนี้ แต่เสี่ยวเชี่ยนขอยืนฝั่งที่ไม่ส่งผล
ถ้าการอ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์แล้วเกิดการไปฆ่าคน ข่มขืนผู้หญิงจริงๆ นั่นก็เพราะเดิมคนๆนี้ได้มีปัญหาด้านสภาพแวดล้อมการใช้ความรุนแรงในครอบครัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งก็หมายความว่า หนังสือหรือภาพยนตร์ที่เนื้อหารุนแรงเป็นเพียงตัวกระตุ้นให้คนที่มีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรงอาการหนักยิ่งขึ้น แต่กลับไม่มีผลอะไรต่อคนปกติ
ดังนั้นการทำผิดของผู้ใหญ่ที่ผลักความผิดไปให้หนังสือหรือภาพยนตร์ที่เนื้อหารุนแรงพวกนั้นจึงเป็นหลักการที่ไม่สมเหตุสมผล
ประเทศหมู่เกาะที่ผลิตหนังโป๊ออกมามากมายแต่กลับเป็นหนึ่งในประเทศที่อาชญากรรมน้อยที่สุด วรรณกรรมสามก๊กที่มีแต่การทำสงคราม แต่คดีฆ่าข่มขืนเต็มไปหมด แบบนี้มันเกี่ยวกันไหมล่ะ?
อวี๋หมิงหลางไม่เข้าใจเรื่องความรู้เฉพาะทางของเสี่ยวเชี่ยน แต่เขาชอบน้ำเสียงที่พูดด้วยความมั่นใจของเธอ
“เรื่องต้าหลงพวกเราไม่ต้องยุ่งแล้วใช่ไหม?”
“ไม่ต้อง รอแยกไปอยู่ตามค่ายให้น้องโง่ได้สัมผัสรสชาติของชีวิตเอง การได้ใช้ชีวิตจริงๆเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้คนเราเติบโต พอถึงตอนที่เขาพบว่าตัวเองถอยไม่ได้แล้ว ต่อให้ไม่อยากเข้าก็ต้องเข้า”
พอดีเลย แผนรักษานักศึกษาหญิงที่เสี่ยวเชี่ยนเชือดมาสามหมื่นก็คือการรักษาโดยให้สัมผัสกับสถานการณ์ที่จำลองขึ้นมา เสี่ยวเชี่ยนวางแผนให้คนไข้รายนี้ได้รับการชดเชยความรักจากพ่อก่อน หลังจากนั้นการรักษาที่เหลือก็จะง่าย จากเวลาที่เธอประมาณการไว้ แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็พอแล้ว
ส่วนต้าหลงน้องชายที่ไม่เอาไหนต้องใช้เวลามากหน่อย แต่เขาไม่ได้โชคดีขนาดนั้น เพราะสิ่งที่เขากำลังจะไปเจอไม่ใช่สถานการณ์จำลอง แต่เป็นลูกกระสุนจริงปืนจริง
ทั้งสองคนคุยกันอีกสักพักแล้วถึงวางสายอย่างไม่เต็มใจเท่าไร
เสี่ยวเชี่ยนมองบ้านที่ว่างเปล่า จากนั้นก็ก้มหน้าเขียนบางอย่างลงบนสมุด
นั่งรอดูต้าหลงไอ้คนไม่เอาไหนถูกทรมาน ฮ่าๆๆ!