แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1065 ตบมือข้างเดียวไม่ดัง
“พวกแกจะทำอะไร! คิดจะกักขังฉันไว้เหรอ? ฉันต้องการเจอท่านประธาน!” เฝิงม่านม่านตะโกนด้วยความโมโห บอดี้การ์ดทั้งสองคนยังคงไม่ขยับ สีหน้ากับท่าทางแสดงอย่างชัดเจนว่า ถ้ากล้าทำตัวมีปัญหาได้เจอดีแน่
เฝิงม่านม่านทำได้แค่ถอยกลับไป ถึงได้รู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ
เธอบอกว่าตัวเองตั้งท้อง วันนั้นอวี๋หมิงลี่เลยพาแม่บ้านสองคนมาดูแลเธอ ส่วนเรื่องอื่นรอเขาว่างแล้วค่อยคุยกัน
ตอนนั้นเธอคิดว่าเขากลัวเธอจะไปอาละวาดที่บ้าน อยากจัดการเรื่องนี้เงียบๆ เธอก็แค่อยากใช้ลูกในท้องไถเงินจากอวี๋หมิงลี่ให้ได้ก้อนใหญ่ ส่วนเรื่องโค่นเมียของอวี๋หมิงลี่เป็นเรื่องที่ทำยาก หยูเจาเจามีสถานะไหนในตระกูลอวี๋ ใช่ว่าคนอย่างเธอจะไปยุ่งด้วยได้ง่ายๆ
ไม่ต้องพูดเรื่องอื่น เอาแค่หลานคนโตของตระกูลอวี๋เป็นลูกของสะใภ้ใหญ่ แถมยังเป็นลูกชายฝาแฝด ความสัมพันธ์กับแม่อวี๋ก็สนิทกันมาหลายปี เฝิงม่านม่านยังไม่โง่ถึงขั้นจะไปเล่นงานถึงหยูเจาเจา แต่ถ้าใช้ลูกในท้องไถเงินมาได้สักก้อนใหญ่ ชีวิตที่เหลือเธอก็สบายแล้ว
ท่าทางของอวี๋หมิงลี่ในตอนนั้นทำให้เฝิงม่านม่านคิดว่าตัวเองทำสำเร็จแล้วครึ่งทาง จนกระทั่งแม่บ้านชี้หน้าด่าเธอ เธอถูกขังอยู่ในบ้าน โทรไปก็ปิดเครื่อง เธอถึงได้เริ่มลนลาน
เธอออกไปไหนไม่ได้!
“ป้าหลิว ทำไมพูดจาแบบนั้นล่ะคะ? ไม่รู้เหรอคะว่าเขาเป็นใคร? ท่านประธานกำชับให้พวกเราดูแลเขาให้ดี ป้าหลิวไปแข็งข้อกับเขา เกิดเด็กเป็นอันตรายขึ้นมาจะรับผิดชอบไหวเหรอคะ?” เสี่ยวเชี่ยนออกหน้าพูด
“เธอมีหน้าที่อะไร พูดช่วยเมียน้อยเหรอ?” เดิมป้าหลิวคิดจะชี้หน้าเสี่ยวเชี่ยน แต่แล้วก็เบนมือไปชี้เฝิงม่านม่านแทน
“เจ้านายให้พวกเราดูแลเขา ป้าทำแบบนี้ไม่ดีนะคะ”
“ได้! เธอเป็นคนดีนักก็อยู่ต่อ! ฉันไม่อยากอยู่ดูนังเมียน้อยนี่แล้ว!” ป้าหลิวด่าเสร็จก็ควรเดินหนี บทของเธอก็ประมาณนี้ แต่จะไปทั้งแบบนี้ก็ยังรู้สึกไม่สุด ครั้นแล้วจึงหันไปจะตบหน้าเฝิงม่านม่านหนึ่งที
เฝิงม่านม่านเป็นเทรนเนอร์ออกกำลังกาย มีไหวพริบพอตัว เห็นป้าหลิวจะพุ่งเข้าหาก็เตรียมหนี แต่ปรากฏว่าทันใดนั้นเสี่ยวเชี่ยนก็มาขวางหน้าเธอไว้แล้วตะโกนขึ้น
“ห้ามทำร้ายเขาเด็ดขาด!”
ตะโกนได้น่าประทับใจมาก แต่จังหวะที่เฝิงม่านม่านไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกดึง จากนั้นเสี่ยวเชี่ยนที่เดิมขวางหน้าเธออยู่ก็หลบไปด้านข้าง พอเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกที มือของป้าหลิวก็ฟาดเขามาที่หน้าเธอแล้ว เสียงดังสนั่น
จังหวะที่เฝิงม่านม่านไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นเสี่ยวเชี่ยนได้ดึงตัวเธอให้เข้าไปหาป้าหลิว ทำให้ป้าหลิวตบได้ถนัดมือ
ในขณะที่เฝิงม่านม่านยังงงอยู่เสี่ยวเชี่ยนก็ชี้หน้าป้าหลิว “ป้าตบเขา รอเจ้านายเรียกเข้าพบได้เลย!”
เรียกเข้าไปให้รางวัล!
พอแลกเปลี่ยนสายตาทำได้เยี่ยมมากกันเสร็จ ป้าหลิวก็รีบออกจากตรงนั้น
พอออกไปได้ก็ปาดเหงื่อ ถอนหายใจโล่งอก เกษียณแล้วถูกเรียกกลับมาถือเป็นเกียรติ
ป้าหลิวหันกลับไปมองประตูที่ปิดสนิทอยู่ ต่อไปก็เป็นหน้าที่เมียเจ้าเล็กแล้ว
“ป้าหลิวไม่เป็นไรใช่ไหมครับ? ให้พวกเราไปส่งไหมครับ?” บอดี้การ์ดทั้งสองคนอยู่กับพี่ใหญ่มาหลายปีย่อมรู้ว่าหญิงชราคนนี้เป็นใคร
ป้าหลิวส่ายมือเพื่อบอกว่าเธอกลับเองได้
พอลงไปถึงชั้นล่างแล้วมองไปยังห้องนั้นอีกครั้ง ป้าหลิวก็ส่ายหน้า
“โง่ขนาดนี้ยังกล้าจะเล่นกับตระกูลอวี๋? ฉันเลี้ยงเสี่ยวลี่มาจนโตเขาจะโง่ถึงขนาดแอบกินแล้วยังทิ้งหลักฐานเหรอ?”
ไหนจะเมียเจ้าเล็กที่ครั้งนี้มาออกหน้าอีก ดูก็รู้ว่าฉลาดเป็นกรด มิน่าตระกูลนี้ถึงได้เจริญรุ่งเรืองมาหลายรุ่น มียีนดีๆดึงดูดคู่ครองที่ดีเข้าหา มีทายาทรุ่นต่อไปก็ส่งต่อแต่ยีนดีๆ มีแค่คนที่ไม่มีหัวคิดเท่านั้นแหละที่คิดจะใช้ทางลัดหวังรวย
รับใช้ตระกูลอวี๋มาตลอดชีวิต ป้าหลิวย่อมรู้จักตระกูลนี้ดี หลายคนมักคิดว่าลูกหลานตระกูลดีๆจะไม่เอาไหน เด็กที่มีพ่อแม่มีทั้งเงินทั้งอำนาจจะเป็นพวกจับจด ไร้สมอง แต่กลับไม่รู้เลยว่าคนจากบางตระกูลที่มีหน้ามีตาต้องพยายามมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ แต่คนบางคนก็ชอบจินตนาการเพ้อฝันคิดเอาเองว่าลูกของคนมีเงินเป็นพวกหลอกง่าย โง่ไร้สมองหมดทุกคน
เฝิงม่านม่านก็คือคนแบบนั้น เธอคิดว่าตัวเองเลือกลงมือกับคนรวยโง่ๆ
เฝิงม่านม่านลูบหน้าที่ถูกตบ เธอโกรธมากคิดจะตามไปแต่ถูกเสี่ยวเชี่ยนห้ามไว้
“ฉันจะรายงานพฤติกรรมของเขาให้เจ้านายทราบเองค่ะ”
“ฉันมองออกแล้ว อวี๋หมิงลี่ไม่ได้แคร์เด็กคนนี้เลยสักนิด! ปล่อยฉันตายไปเลยจะได้จบๆ!” เฝิงม่านม่านร้องไห้ด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจ
เสี่ยวเชี่ยนแสยะยิ้มในใจ อยากตายง่ายจะตาย โดดตึกเลยสิ! แต่ปากก็ได้แต่พูดปลอบ
“ถ้าเขาไม่แคร์แล้วจะให้พวกเรามาดูแลเหรอคะ อย่าโมโหไปเลยค่ะ สุขภาพสำคัญกว่า”
“ฉันแคร์เด็กคนนี้แล้วคนอื่นแคร์เขาไหมล่ะ?”
“ทำไมจะไม่มีใครแคร์ล่ะคะ ฉันก็อยู่กับคุณอยู่นี่ไงคะ?”
สภาพแวดล้อมที่กำหนดเกิดขึ้นแล้ว อารมณ์โกรธ พื้นที่ปิด ความรู้สึกน้อยใจ ติดต่อกับโลกภายนอกไม่ได้ หลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนแสดงความมีน้ำใจออกไป เฝิงม่านม่านก็เริ่มรู้สึกดีกับเสี่ยวเชี่ยนที่เป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ข้างเธอ จึงเริ่มมีความรู้สึกอยากระบายความในใจให้ฟัง
อวี๋หมิงลี่นั่งหน้าตึงดูภาพจากกล้องวงจรปิด อวี๋หมิงหลางนั่งแทะลูกท้ออยู่บนโต๊ะ เอาขายันพื้น หันมองหน้าจอบ้างดูเมียกำลังเล่นละคร แต่ส่วนใหญ่จะฟังเอามากกว่า
“เสี่ยวเชี่ยนทำแบบนี้จะทำให้เขายอมพูดความจริงได้เหรอ?” อวี๋หมิงลี่ยังคงไม่แน่ใจในแผนของเสี่ยวเชี่ยน
เฝิงม่านม่านกล้าทำเรื่องพวกนี้จะต้องวางแผนมานานแล้วอย่างแน่นอน ไม่มีทางเผยความลับออกมาง่ายๆกับคนนอกหรอก แล้วนับประสาอะไรกับเสี่ยวเชี่ยนที่เป็นแม่บ้านคนหนึ่ง
“ไม่เป็นไร เมียผมวิเคราะห์มาอย่างละเอียดแล้ว ก่อนมาเขาศึกษาจุดเด่นของนิสัยเฝิงม่านม่านไว้เรียบร้อย เป็นคนเปิดเผย ขอแค่มีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจ บวกกับพูดอะไรสะกิดใจหน่อย ก็มีโอกาสที่จะง้างปากเฝิงม่านม่านได้”
อันที่จริงใช่ว่าเสี่ยวเฉียงจะไม่มีวิธีทำให้อีกฝ่ายยอมเปิดปาก แต่เขารู้สึกว่าเมียเขาชอบหาหนูทดลองเอาไว้ฝึกปรือความสามารถมากกว่า หากพูดถึงเรื่องการโน้มน้าวจิตใจล่ะก็ งานถนัดของจิตแพทย์เลยล่ะ
หลายคนพอมาหาจิตแพทย์เสร็จก็รู้สึกเพียงอย่างเดียวคือโล่ง รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปมากแต่กลับนึกรายละเอียดได้ไม่เท่าไร นั่นก็เพราะจิตแพทย์มีวิธีที่ทำให้คนไข้พูดระบายออกมาได้เยอะ ระบายความกลุ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ให้ป้าหลิวตบหนึ่งทีก็เป็นตัวกระตุ้นได้เหรอ?” พี่ใหญ่ไม่ค่อยอยากเชื่อ
“พี่ไม่เห็นเหรอว่าเมียผมจัดการตัดอุปกรณ์สื่อสารในนั้นหมดแล้ว? คนที่มีนิสัยเปิดเผยต้องอยู่อย่างจนตรอกในสภาพแวดล้อมแบบปิด พูดโน้มน้าวจิตใจหน่อยเดี๋ยวก็คายความลับออกมาหมด พี่รอดูไปเหอะ”
อวี๋หมิงหลางมั่นใจในความสามารถของเมียตัวเอง อวี๋หมิงลี่มีสีหน้ากังวล ทันใดนั้นเองประตูห้องทำงานก็เปิดออก มีคนเดินเข้ามา
“ดูอะไรสนุกๆกันอยู่เหรอ ฉันดูด้วยคนสิ”
พอได้ยินเสียงนี้พี่ใหญ่ก็ทำหน้าเหมือนเห็นผี ดวงตาเบิกโพลง