แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1068 แบบนี้ทุกอย่างก็ลงล็อค
ภาพเหตุการณ์ในตอนนี้สะเทือนใจมาก ขณะที่เสี่ยวเชี่ยนกำลังคิดหาทางดึงสติของทุกคนให้กลับมา ทันใดนั้นพี่สะใภ้ใหญ่ก็ถามขึ้นทั้งน้ำตา
“คุณไม่รู้ตัวเลยจริงเหรอ?”
“ผมไม่รู้อะไรเลยจริงๆนะ!”
“แบบนี้แสดงว่าคุณถูกเอาเปรียบ? แต่เขาเด็กกว่าคุณตั้งเยอะนะ!”
“ทำไมคุณพูดแบบนั้น! เห็นๆอยู่ว่าผมเป็นฝ่ายถูกเอาเปรียบ อยู่กันมาตั้งหลายปีคุณไม่รู้จักผมเหรอ ผมเป็นผู้ชายที่กินไม่เลือกเหรอ? คนอย่างผมจะต่ำช้าถึงขั้นหักหลังคู่ชีวิตแถมยังทำลายอนาคตคนในครอบครัวเลยเหรอ?!”
“หึหึ ก็ไม่แน่หรอก ฉันจำได้เมื่อไม่กี่วันก่อนมีคนพูดว่าฉันชอบทำเหมือนตัวเองยังสาวอยู่ รังเกียจที่ฉันแก่แล้ว”
“ผมพูดตอนไหน?!”
“ก็ตอนที่ฉันซื้อผ้าพันคอแล้วเลือกสีชมพูไง คุณหัวเราะเยาะฉัน”
“มันใช่เรื่องที่ไหนเล่า! ผมก็แค่ล้อคุณเล่น ปรักปรำกันชัดๆ ช่างเถอะ คุณตัดเถอะจะได้จบๆเรื่อง” พี่ใหญ่สติแตกเอาหัวโขกโต๊ะ พูดอย่างน้อยใจเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงที่เสียสาวให้ชายอื่น
…ไม่รู้ทำไมอยู่ๆเสี่ยวเชี่ยนก็อยากขำ
“คุณไม่รู้ตัวเลยจริงเหรอ? จำไม่ได้เลย? ไม่ได้ตั้งใจนอกใจ?” พี่สะใภ้ใหญ่ถามอีก
“ผมไม่รู้ตัวจริงๆ! จริงๆ! ไม่เชื่อคุณถามเสี่ยวเชี่ยนสิ เขาสะกดจิตผมแล้วผมก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดี!” พี่ใหญ่ตอบคล่องมาก รู้เลยปกติอยู่บ้านใครเป็นใหญ่
“ถ้าคุณไม่รู้ตัวเลยจะลงมือทำได้ยังไง? จิตใต้สำนึกคุณเห็นว่าเขาสวยรู้สึกชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหรือเปล่า? ปกติเวลาคุณเมาฉันผลักยังไงคุณก็แน่นิ่งเหมือนศพ!”
เมื่อกี้ตอนมาถึงท่าทางที่ใจเย็นของพี่สะใภ้ใหญ่เกิดจากการอดกลั้น ตอนนี้หรอกถึงจะเป็นความรู้สึกที่แท้จริง
“ผีเท่านั้นแหละที่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นไง ผมจำไม่ได้เลยจริงๆ! พอตื่นขึ้นมาผมจำได้แค่ว่าเจ็บเท้า ตรงเท้าแผลถลอกอยู่ ส่วนตรงอื่นผมไม่รู้สึกอะไรเลย!”
พี่ใหญ่โมโหมากที่ตัวเองถูกวางแผนเล่นงานจนกลายเป็นมีลูกอีกคนโดยไม่รู้ตัว พอเห็นเมียเสียใจขนาดนี้เขาก็หงุดหงิดที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย ต้องโทษที่เขาประมาทเอง ปล่อยให้ผู้หญิงที่น่าขยะแขยงคนนั้นฉวยโอกาสได้
เห็นพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้คุยกัน เดิมเสี่ยวเฉียงกับเสี่ยวเชี่ยนคิดจะถอยให้สองคนนี้ได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกัน แต่พอได้ยินประโยคหลังของทั้งคู่เท้าของทั้งสองคนก็หยุดชะงัก
เสี่ยวเชี่ยนหยุดเดินด้วยความรู้สึกของคนเป็นจิตแพทย์ คำพูดของพี่สะใภ้ใหญ่ทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาได้
เสี่ยวเฉียงหยุดเดินเพราะสัญชาตญาณของตัวเองล้วนๆ
ไม่สิ มันแปลกๆ!
“พี่สะใภ้ใหญ่ช่วยพูดแบบเมื่อกี้ใหม่อีกรอบสิครับ” เสี่ยวเฉียงพูด
“พี่พูดอะไรเหรอ?” พี่สะใภ้ใหญ่เช็ดน้ำตา
“เมื่อกี้พี่พูดว่า เวลาพี่ใหญ่เมา…แน่นิ่งเหมือนศพ?!”
เซ้นส์ของอวี๋หมิงหลางบอกว่าประโยคนี้น่าสงสัย
เสี่ยวเชี่ยนตีหัวตัวเอง “โง่จริง ฉันลืมเรื่องนี้ได้ไงเนี่ย!”
นี่เป็นจุดที่น่าสงสัยที่สุด!
เธอกับอวี๋หมิงหลางมองหน้ากัน แววตานั้นราวกับคิดอะไรออกเหมือนกัน
ใช่ ความไม่สมเหตุสมผลมันอยู่ตรงนี้นี่แหละ!
หน้าเสี่ยวเชี่ยนแดงเล็กน้อย เธอแกล้งไอแล้วแสร้งทำเป็นถามขึ้นอย่างใจเย็น “พี่ใหญ่คะ ฉัน แค่กๆ ฉันขอถามได้ไหมว่าแต่ละครั้งพี่กี่นาทีเหรอคะ?”
พี่ใหญ่ถึงกับสตั๊น พี่สะใภ้ใหญ่ตอบแทน “จะเป็นไปได้ไงแค่ไม่กี่นาทีก็เสร็จ พี่ใหญ่เธอไม่ได้ผิดปกติอะไรเสียหน่อย”
ด้วยความที่เป็นหมอเธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนพูดกับคนไข้ แต่พี่ใหญ่รู้สึกเขิน แกล้งไอออกมา
“งั้นก็แสดงว่าไม่ได้ทำกับพี่ใหญ่ ยินดีด้วยค่ะพี่ใหญ่ พี่บริสุทธิ์”
เมาแล้วข่มขืนคำๆนี้ใช้ได้แค่กับผู้ชายที่ไม่ได้ดื่มจนเมาคอพับ หากผู้ชายดื่มจนเมาสลบไปก็แสดงว่าดื่มจนถึงขั้นที่แอลกอฮอล์เป็นพิษแล้ว อวัยวะส่วนนั้นไม่มีทางตอบสนอง ต่อให้อีกฝ่ายวางยาก็ตาม แต่จากคำพูดของพี่สะใภ้ใหญ่ ขนาดไม่วางยาพี่ใหญ่ก็ไม่มีทางจะทำเสร็จในไม่กี่นาที แล้วจะเป็นไปได้ไงที่วางยาแล้วจะเสร็จไวแบบนั้น? นี่เป็นคำถามที่เสี่ยวเชี่ยนถามมาเอง สาเหตุที่ทุกคนไม่ได้ยินเป็นเพราะเฝิงม่านม่านแอบพึมพำออกมาในตอนท้าย บอกว่าขนาดเธอยังไม่รังเกียจที่พี่ใหญ่ไม่เอาไหนเรื่องอย่างว่าเลยด้วยซ้ำ ทำไปก็เพราะเงินไม่ใช่เพราะรักจริงๆ
งั้นคำตอบก็มีเพียงอย่างเดียว—
“พี่ใหญ่ไม่ได้แตะต้องเขาจริงๆ”
คำพูดของเสี่ยวเฉียงทำให้พี่ทั้งสองคนตกใจ
“แต่ผ้าปูเตียงนั่น—ไหนจะถุงยางในถังขยะอีก…” พี่ใหญ่ยิ่งพูดเสียงยิ่งเบา เขารู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากพี่สะใภ้ใหญ่ กรรไกรที่อยู่บนพื้นสะท้อนแสงเป็นประกายวาวน่ากลัว…
“เมื่อกี้ฉันก็ว่าแปลกๆ จนได้ยินคำพูดของพี่สะใภ้ใหญ่ถึงนึกขึ้นมาได้ แบบนี้ทุกอย่างก็ลงล็อค”
“ตัดเรื่องเมาเหล้าทิ้งถ้าถูกวางยาล่ะก็ เป็นไปไม่ได้ที่จะถึงขนาดทำให้เฝิงม่านม่านบ่นว่าไม่ได้เรื่อง ดังนั้นมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีอะไรกันกับพี่ใหญ่ แต่มีกับคนอื่น”
“แต่เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าเฝิงม่านม่านพูดความจริง?” แน่นอนว่าพี่ใหญ่ก็อยากให้สิ่งที่เสี่ยวเชี่ยนพูดเป็นเรื่องจริง แต่เรื่องบางอย่างมันก็ไม่ชัดเจน
“เขาพูดความจริงออกมาจริงๆ แต่ใครบอกล่ะว่าคนพวกนั้นวางยาแค่พี่?”
อวี๋หมิงหลางพูดเสริม “เป็นไปได้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังก็วางยาเฝิงม่านม่าน”
แบบนี้ทุกอย่างก็ลงล็อค
สิ่งที่เฝิงม่านม่านบอกเสี่ยวเชี่ยนเป็นความจริง
แต่คนที่มีอะไรด้วยคืนนั้นไม่ใช่พี่ใหญ่ พี่ใหญ่สลบไปแล้ว พอสลบไปร่างกายก็ไม่ตอบสนองอะไรอีก คนพวกนั้นเห็นแผนไม่สำเร็จจึงลากพี่ใหญ่ออกไป ที่เท้าของพี่ใหญ่ถึงได้มีแผล เพราะตอนนั้นต้องใช้วิธีลาก—อันที่จริงอ้วนก็มีข้อดี อย่างน้อยก็มีประโยชน์ในเวลาแบบนี้ ทิ้งร่องรอยเอาไว้
ก่อนหน้านี้ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนสะกดจิตพี่ใหญ่ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องแผลที่เท้า ในที่สุดตอนนี้ก็กระจ่างแล้ว
อวี๋หมิงหลางก็เห็นด้วยกับความคิดของเสี่ยวเชี่ยน
ถึงเขากับเสี่ยวเชี่ยนจะคิดเรื่องนี้ด้วยตรรกะคนละแบบ แต่บทสรุปเหมือนกัน
“พวกคนที่อยู่เบื้องหลังก็วางยาเฝิงม่านม่านด้วย จากนั้นก็ลากพี่ใหญ่ที่สลบไม่รู้เรื่องออกไป แบบนั้นก็จะได้มีคนทำแทนพี่ใหญ่ จุดประสงค์ก็คือทำให้เฝิงม่านม่านท้อง และก็จัดฉากให้พวกพี่”
คำอธิบายของอวี๋หมิงหลางทำให้พี่ใหญ่เหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่ก็เกิดความสงสัยในเวลาเดียวกัน
“จำเป็นต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ ให้เขามีอะไรกับคนอื่นก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องวางยาเขาด้วย?”
พี่สะใภ้ใหญ่เหลือบมองพี่ใหญ่ พี่ใหญ่จึงรีบอธิบาย “ผมไม่ได้เป็นห่วงยัยผู้หญิงร้ายกาจนั่นนะ เขาจะเป็นยังไงก็เรื่องของเขา ผมแค่สงสัยว่าอีกฝ่ายทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?”
“แม้แต่เบอร์มือถือของพ่อแม่เรายังหามาได้ ก็แสดงว่าศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวเรามาเป็นอย่างดี และก็ไม่มีทางไม่รู้ว่าบ้านเรามีจิตแพทย์ที่เก่งมากอยู่ด้วย หรือถ้าตัดเรื่องเสี่ยวเชี่ยนทิ้งไป คนพวกนั้นก็คงกลัวพวกเราจะเค้นเฝิงม่านม่านอย่างหนัก ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือทำให้เฝิงม่านม่านเชื่อว่าลูกในท้องเป็นลูกของพี่ใหญ่ไปด้วย”
คำอธิบายของอวี๋หมิงหลางสมเหตุสมผล
พี่ใหญ่มีโอกาสล้างมลทินให้ตัวเองแล้ว แต่เขากลับไม่ได้ดีใจเท่าไร มีสีหน้าเคร่งเครียด พี่สะใภ้ใหญ่เองก็ไม่ต่างกัน
เรื่องนี้ถ้าคิดดูให้ดีๆแล้วน่ากลัวมาก
มีคนสืบเรื่องครอบครัวอย่างละเอียด รอแค่โอกาสเตรียมลงมือ แล้วจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร?
คิดจะเล่นงานธุรกิจของพี่ใหญ่หรือแบล็คเมล์ตระกูลอวี๋ หรือสุดท้ายแล้วดาบจะไปตกที่พลโทอวี๋?
“ถ้าเด็กไม่ใช่ลูกของพี่ใหญ่ งั้นทางนั้นก็ไม่มีทางปล่อยให้เด็กเกิดมา เพราะจะตรวจดีเอ็นเอได้ คนพวกนั้นจะต้องทำให้แท้งระหว่างท้องแน่นอน บางทีอาจใช้เรื่องแท้งสร้างข่าวฉาวขึ้นมาใส่ร้ายพี่ใหญ่ ในขณะเดียวกันก็สร้างความเสื่อมเสียให้ครอบครัวของเราด้วย” เสี่ยวเชี่ยนวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล
“ต้องลากตัวคนบงการออกมาให้ได้” อวี๋หมิงหลางไม่มีทางปล่อยให้ใครมาเล่นงานคนในครอบครัวตัวเองได้