แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 623
แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย – ตอนที่ 623 พบเพื่อจาก
“ตกลงค่ะ”
คำสั้นๆแค่นี้แต่กลับเป็นคำสัญญาทั้งชีวิต
“ลงมาสิผมรอคุณอยู่”
“โอเค”
…ผู้ฟังที่นั่งอยู่หน้าวิทยุพากันงงเป็นไก่ตาแตก
รายการวันนี้นี่ฉีกทุกกฎตั้งแต่มีรายการมา!
เวลานี้ไม่มีแล้วอาการหวาดกลัวการแต่งงาน อนาคตที่ไม่อาจล่วงรู้กลายเป็นเรื่องที่ทำให้คนรู้สึกรอคอย เสี่ยวเชี่ยนเปิดดนตรีที่ใช้ในงานแต่งงาน จากนั้นก็กล่าวปิดรายการโดยไม่สนผู้ฟังที่กำลังงง
“คุณเป็นกังวลกับปัญหาเล็กๆน้อยๆที่จะตามมาหลังแต่งงานหรือเปล่าคะ? โรคหวาดกลัวการแต่งงานเป็นปัญหาทางด้านจิตใจที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน คำพูดง่ายๆอย่างฉันรักคุณบางทีอาจไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกได้ถึงความมั่นคงที่จะลงไปในเรือลำเดียวกัน คำสัญญาที่ไพเราะที่สุดที่บนโลกนี้ บางทีอาจเป็นแค่คำพูดง่ายๆอย่าง ฉันจะอยู่กับคุณ ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนครึ่งพอดี ดิฉันว่าที่เจ้าสาวเหม่ยเหวย ไว้พบกันใหม่ในพาสเวิร์ดหัวใจนะคะ สวัสดีค่ะ…”
ผู้กำกับอินจนน้ำตาแทบไหลแล้ว
ร่วมงานกับนักจัดรายการมาตั้งหลายคน นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าโทรเข้ามาขอแต่งงานกลางรายการสด!
ราย การ สด!
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำแบบนี้แล้วจะส่งผลอะไรต่อรายการหรือไม่ แต่ผู้กำกับรู้สึกว่าอารมณ์พลุ่งพล่านในตัวบอกให้ทำแบบนี้น พรุ่งนี้ถ้าจะโดนหัวหน้าด่ามันก็คุ้ม!
ชีวิตคนเราจะมีสักกี่ครั้งที่ได้เจออะไรแบบนี้ แล้วจะขวางโลกทำไม?!
เวลานี้ที่ด้านหน้าตึกของสถานี เพื่อฉลองให้กับหัวหน้ากลางที่ขอแต่งงานได้สำเร็จ พลุที่รอจุดมาตลอดคืนในที่สุดก็ได้เวลาปล่อย เสี่ยวเชี่ยนดูพลุผ่านทางหน้าต่างและก็ได้เห็นพี่ๆทหารที่แสนน่ารักใช้ร่างกายทำเป็นรูปหัวใจ ตามแผนผู้ชายคนนั้นจะต้องมายืนอยู่ข้างในหัวใจ แต่เขากลับโรยตัวลงมาจากตึกฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
เมื่อเสี่ยวเชี่ยนเดินออกมาจากตึกแล้วก็โผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา วินาทีนั้นทุกอย่างได้กลายเป็นสิ่งสวยงาม
การรอคอยอาจจะแสนนาน แต่เพราะระหว่างทางมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น ยามที่ผลแห่งการรอคอยนั้นมาถึงก็จะทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่าเกินคำบรรยาย
“ขอบคุณที่คุณยอมแต่งงานกับผม”
“ขอบคุณที่มาขอฉันแต่งงาน”
วินาทีที่ความหวานถึงขั้นสุดนั้นเองอวี๋หมิงหลางก็ล้วงแหวนเพชรที่ซื้อไว้นานแล้วออกมา ใหญ่กว่าตอนหมั้นมาก เตรียมไว้เพื่อเวลานี้โดยเฉพาะ
เพอร์เฟคกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
“เตรียมร้องเพลง ยืมมือพี่สะใภ้ฝังปีศาจ!”
แล้วเสียงร้องเพลงที่ไม่อาจบรรยายก็ดังขึ้น อวี๋หมิงหลางมือสั่นจนเกือบทำแหวนตก
นี่มันกองหนุนที่ลิงขอร้องให้มาช่วยหรือไงวะ ร้องบ้าอะไรกัน…
เสี่ยวเชี่ยนก็รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า สมกับเป็นทหารที่อวี๋หมิงหลางฝึกมาจริงๆ ดูเลือกเพลง…
“เอ้าพี่สะใภ้ฮ่าไฮ่ ฮ่าไฮ่~” ประโยคนี้ต้องซ้ำอย่างน้อยสี่ครั้ง!
เสี่ยวเชี่ยนรู้สึก เหอๆ นี่มันเพลงอะไรกัน?
อวี๋หมิงหลางมุมปากกระตุกแบบไม่ไหวแล้ว ไอ้บ้าพวกนี้มาช่วยเขาหรือจะมาทำพัง?
ยังดีที่เสี่ยวเชี่ยนสุขุมมากพอในช่วงเวลาสำคัญ เธอจับมืออวี๋หมิงหลางออกแรงเล็กน้อย นิ้วนางก็สวมเข้าไปในแหวนที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความรับผิดชอบ
“พี่สะใภ้มีความสุขตลอดไป ลูกพี่ไปดีนะ!”
ในที่สุดบทเพลงแห่งพี่สะใภ้ก็จบลง สิ่งที่มาแทนก็คือเสียงกล่าวลา
นี่เป็นช่วงเวลาที่อบอวลไปด้วยความรัก และก็เป็นช่วงเวลาแห่งการอำลาอย่างอบอุ่น
ช่วงเวลาที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากลายเป็นความทรงจำ แต่ก็ไม่มีใครลืมความทรงจำเหล่านั้น ให้ผลึกแห่งความรักเยียวยาความเจ็บปวดที่ต้องจากลา นี่สิถึงจะเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ถูกต้อง
หัวหน้าใหญ่และศาสตราจารย์หลิวที่นั่งฟังวิทยุตั้งแต่ต้นจนจบมีสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ตอนที่ได้ยินเสี่ยวเชี่ยนในที่สุดก็รับปากแต่งงานกับอวี๋หมิงหลางนั้น ทั้งสองคนแทบจะตบมือในเวลาเดียวกัน
เด็กที่ชอบทำให้เป็นห่วงทั้งสองคน ในที่สุดก็ลงเอยกันแล้ว!
“นี่คุณร้องไห้ทำไมน่ะ?”
หัวหน้าใหญ่เห็นภรรยาตัวเองถอดแว่นเช็ดน้ำตาจึงแกล้งแซว
“ฉันไม่ได้ร้อง ฝุ่นมันเข้าตา ไปปิดหน้าต่างไป!” ศาสตราจารย์หลิวดันตัวหัวหน้าใหญ่ แล้วถือโอกาสตอนที่เขาเดินไปรีบหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดน้ำมูกน้ำตา
ในเวลานี้ทั้งสองคนต่างคิดเหมือนกัน
หนุ่มสาวนี่ดีจังนะ
หัวหน้าใหญ่ไม่จับผิดคำโกหกเล็กๆน้อยๆของคู่ชีวิตต่อ เพราะในเวลานี้เขาก็รู้สึกประทับใจ
“ผมไม่คิดว่าเจ้าเด็กพวกนั้นจะใช้วิธีนี้ส่งอวี๋หมิงหลาง”
มิตรภาพของทหารในช่วงหลายปีมานี้กลายเป็นความทรงจำที่สวยงาม
หัวหน้าใหญ่ลูบคาง อดไม่ได้ที่จะลองคิดดูว่าอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้ตอนเขาเกษียณจะมีการอำลาที่พิเศษๆหรือเปล่า
อีกไม่นานหัวหน้าใหญ่จะเกษียณแล้ว เรื่องนี้แม้แต่อวี๋หมิงหลางก็ไม่รู้
รอจนมอบหมายงาน011ของเสร็จ หัวหน้าใหญ่ก็จะสามารถปิดจ๊อบหน้าที่ทางการทหารของเขาได้แล้ว
ช่วงชีวิตของการเป็นทหารมาหลายสิบปีนี้ มีทั้งความสุขและความเศร้า สิ่งที่มีมากกว่าก็คือสิ่งที่เหลืออยู่ในใจเขา เขาแอบเสียดายที่ต้องทิ้งเด็กหนุ่มพวกนี้ไป แต่พอได้เห็นเด็กพวกนี้ใช้วิธีแบบนี้อำลาอวี๋หมิงหลาง หัวหน้าใหญ่ก็รู้สึกว่าตัวเองเกษียณได้อย่างหมดห่วงแล้ว
จากลูกนกได้เติบโตเป็นอินทรีใหญ่
“ตาแก่คิดอะไรอยู่น่ะ?”
“กำลังคิดว่าต่อไปจะมีเวลาอยู่กับลูกแล้ว พอผมเกษียณจนกว่าผมจะตาย ผมก็จะมีเวลาอยู่กับพวกคุณสองแม่ลูกแล้ว”
อาชีพทหารอุทิศเวลาทั้งชีวิตให้กับหน้าที่การงาน มีแค่ตอนเกษียณแล้วเท่านั้นถึงจะให้เวลากับครอบครัวได้
คำพูดที่ว่าจะอยู่เคียงข้างที่อวี๋หมิงหลางพูกับเสี่ยวเชี่ยนนั้นได้ทำให้หัวหน้าใหญ่ที่ปกติไม่ถนัดแสดงออกได้พูดความในใจของตัวเองออกมา
เขาติดค้างครอบครัวมากเหลือเกิน
“ดูทำเข้า ทำเป็นเลียนแบบพวกเด็กๆ!”ศาสตราจารย์หลิวทะเลาะกับสามีจนชินแล้ว อยู่ๆได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็แอบรู้สึกเขิน
“หมิงหลางจุดประกายให้ผม แต่ในใจผมก็คิดแบบนั้นนะ ต่อไปผมอยู่บ้านคุณไม่ต้องซักผ้าทำกับข้าวแล้ว ผมเหมาเอง!”
ติดค้างเธอมาตลอดชีวิต ต่อไปจะค่อยๆชดใช้คืน
“หยุดทำหน้าซื่อบื้อแล้วนอนลง! ฉันจะนวดยาให้ คุณนี่นะแก่ปูนนี้ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองแก่อีก ไปแข่งกับพวกหนุ่มๆทำไม เอวก็ยอกมาตั้งนานแล้วยังไม่เห็นหาย..”
ศาสตราจารย์หลิวบ่นพลางเอายานวดให้หัวหน้าใหญ่
“เมียจ๋า ผมแอบรู้สึกขัดใจหน่อยๆ” หัวหน้าใหญ่ถอนหายใจ ศาสตราจารย์หลิวหยุดมือ
“มีอะไร?”
“คุณจะให้เสี่ยวเชี่ยนไปหาคนๆนั้นจริงๆเหรอ? คุณก็ดูแลเขาได้ไม่ใช่เหรอ คนๆนั้นอยู่ทางใต้ ถ้าเสี่ยวเชี่ยนจะไปต่อปริญญาเอกที่นั่นปีหน้าก็ต้องไปแล้ว หมิงหลางเพิ่งจะย้ายมา หลังจากทั้งสองคนแต่งงานกัน อยู่ด้วยกันได้แค่ปีเดียวก็ต้องแยกกันอีกหลายปี มันไม่เท่ากับ…”
“เสี่ยวเชี่ยนจะต่อเอกอยู่กับฉันก็ได้ แต่เหล่าชีมีชื่อเสียงมากกว่าฉันในแวดวงวิชาการระดับนานาชาติ ถ้าเสี่ยวเชี่ยนได้ไปอยู่กับเขามันก็ดีต่ออนาคต หมิงหลางเองก็คงเข้าใจ ยังไงพวกเขาก็ยังได้อยู่ด้วยกันปีกว่าเลยไม่ใช่เหรอ?”
หัวหน้าใหญ่มองเอกสารที่ศาสตราจารย์หลิววางไว้บนโต๊ะ เขาไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่คัดค้าน
“ตาแก่ ที่พูดว่าจะซักผ้าทำกับข้าวน่ะเอาจริงใช่มะ?” ศาสตราจารย์หลิวถาม
“พูดแล้วไม่คืนคำ!”
“งั้นต่อไปก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆนะ จะไปแข่งกับเด็กหนุ่มจนเอวยอกแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว อีกหลายสิบปีจากนี้คุณต้องรับใช้ฉัน ฉันไม่อยากมานั่งรับใช้คุณหรอกนะ อยู่ข้างนอกก็ดูแลตัวเองหน่อยเข้าใจไหม?”
“รับทราบ!” หัวหน้าใหญ่พยักหน้า ในใจรู้สึกอบอุ่น อันที่จริงมียเราก็เป็นห่วงเราอยู่นะ